นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายงานการขายและการตลาด บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสิทธิภาพในช่องทางขายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการให้บริการและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง โดยได้จัดส่งทีมเยี่ยมตัวแทนจำหน่ายที่ประกอบไปด้วย ตัวแทนจากแผนกบริการลูกค้า แผนกขนส่งสินค้า แผนกบริการเทคนิค แผนกคลังสินค้า ซึ่งจะเข้าไปจัดกิจกรรมให้แก่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง
“เราจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้าและการบริการ เพื่อสร้างความแตกต่างให้เหนือจากคู่แข่ง โดยมีทีมตัวแทนจากบริษัทฯ ในแผนกต่างๆ เข้าไปให้ความรู้ อบรม สาธิตการทำงานให้ได้ตามมาตรฐานที่ DRT ได้วางไว้ ” นายสาธิต กล่าวและว่า โดยปีนี้ ได้วางเป้าหมายว่าจะเข้าเยี่ยมตัวแทนจำหน่ายให้มากขึ้น โดยเฉพาะตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ ที่ได้ตั้งเป้าจะเพิ่มอีกอย่างน้อย 100 รายภายในปีนี้ จากปัจจุบันที่มี 600 ราย ซึ่งคาดว่า จากแผนงานดังกล่าวจะช่วยสร้างความเข้มแข็งในช่องทางขายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายได้มากขึ้น
อนึ่ง ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ปี 51 มีกำไรสุทธิ 34.81 ล้านบาท ลดลงจากผลการดําเนินงานช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 52.42 ล้านบาท คิดเป็น 60.09 %เป็นผลมาจากวิกฤตการทางเศรษฐกิจการเงินที่รุกลามไปทั่วโลก และปัญหาทางการเมืองในประเทศไทย มีผลทำให้ธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์มีการชะลอตัวอย่างรุนแรง ประกอบกับฤดูฝนในปีนี้มาเร็วและตกมากกว่าปกติ รวมทั้งยังเกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นอุปสรรคของการก่อสร้างบ้านเรือนโดยรวม ส่งผลให้ความต้องการกระเบื้องลดลง ขณะที่ต้นทุนขายลดลง 52.21 ล้านบาท คิดเป็น 13.16 % ซึ่งลดลงตามปริมาณการขายที่ลดลง ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 252.90 ล้านบาท ลดลงจากผลการดำเนินงานช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 63.18 ล้านบาท คิดเป็น 19.99%
“เราจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้าและการบริการ เพื่อสร้างความแตกต่างให้เหนือจากคู่แข่ง โดยมีทีมตัวแทนจากบริษัทฯ ในแผนกต่างๆ เข้าไปให้ความรู้ อบรม สาธิตการทำงานให้ได้ตามมาตรฐานที่ DRT ได้วางไว้ ” นายสาธิต กล่าวและว่า โดยปีนี้ ได้วางเป้าหมายว่าจะเข้าเยี่ยมตัวแทนจำหน่ายให้มากขึ้น โดยเฉพาะตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ ที่ได้ตั้งเป้าจะเพิ่มอีกอย่างน้อย 100 รายภายในปีนี้ จากปัจจุบันที่มี 600 ราย ซึ่งคาดว่า จากแผนงานดังกล่าวจะช่วยสร้างความเข้มแข็งในช่องทางขายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายได้มากขึ้น
อนึ่ง ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ปี 51 มีกำไรสุทธิ 34.81 ล้านบาท ลดลงจากผลการดําเนินงานช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 52.42 ล้านบาท คิดเป็น 60.09 %เป็นผลมาจากวิกฤตการทางเศรษฐกิจการเงินที่รุกลามไปทั่วโลก และปัญหาทางการเมืองในประเทศไทย มีผลทำให้ธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์มีการชะลอตัวอย่างรุนแรง ประกอบกับฤดูฝนในปีนี้มาเร็วและตกมากกว่าปกติ รวมทั้งยังเกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นอุปสรรคของการก่อสร้างบ้านเรือนโดยรวม ส่งผลให้ความต้องการกระเบื้องลดลง ขณะที่ต้นทุนขายลดลง 52.21 ล้านบาท คิดเป็น 13.16 % ซึ่งลดลงตามปริมาณการขายที่ลดลง ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 252.90 ล้านบาท ลดลงจากผลการดำเนินงานช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 63.18 ล้านบาท คิดเป็น 19.99%
