xs
xsm
sm
md
lg

สพท.ฝันขอเพิ่มงบดึงกองถ่ายหนัง หาตลาดใหม่หลังวิกฤตซัดอเมริกา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กองกิจการ ภาพยนตร์ สพท. เตรียมตั้งเรื่องขอเพิ่มงบประมาณ ประจำปี 2553 พร้อมปรับแผนการทำงาน มุ่งหาตลาดใหม่ เพิ่มงานโรดโชว์ ตั้งเป้าหมาย เจาะ ตลาดตะวันออกกลาง เอเชีย ยุโรป ญี่ปุ่น และ รัสเซีย เหตุ พิษวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐ กระทบถึงตลาดภาพยนต์ด้วย เผย ตัวเลขรายได้ปี 2551 จากธุรกิจการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โต 100% ที่ 2,023 ล้านบาท แต่ปีนี้ ขอแค่ไม่ติดลบก็พอใจ

นางสาววรรณสิริ โมรากุล ผู้อำนวยการ กองกิจการภาพยนตร์ สำนักพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในปี งบประมาณ 2552 – 2553 ทางกองกิจการภาพยนต์ ได้มีการปรับเปลี่ยนการทำงาน ให้สอดคล้องกับผลกระทบจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดย จะเน้นหาตลาดใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม โดยดูจากการเติบโตของช่วงที่ผ่านมา เช่น กองถ่ายทำภาพยนต์ จากรัสเซีย ปี 2551 เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์รวม 6 เรื่อง เพิ่มจากปี 2550 ที่มีเพียง 1 เรื่อง เป็นต้น ล่าสุดเตรียมหารือกับหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง เพื่อ เข้าไปเปิดตลาดการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย นอกจากนั้น ยังเร่งผลักดันให้ รัฐบาลไทย ให้ อินแซนทีฟ แก่ กองถ่ายทำภายยนตร์ต่างประเทศ เพื่อใช้สำหรับการตัดสินใจที่จะยกกองถ่ายเข้ามาที่ปะเทศไทย เช่น การ ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)

ทั้งนี้ยอมรับว่า จากวิกฤตเศรษฐกิจโลก จะต้องส่งผลกระทบต่อธุรกิจการสร้างภาพยนตร์ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในตลาด อเมริกา เพราะ ผู้สนับสนุนทุนสร้างก็ลดลง จำนวนผู้ชมภาพยนตร์ก็ลดลง จากการประหยัดการใช้จ่ายของภาคประชาชน โดยเริ่มเห็นสัญญาณ ดังกล่าวมาตั้งแต่ การเข้าร่วมเทศกาลหนังที่เมือง คานส์ ในปี ก่อน ซึ่งจะพบว่า ผู้ที่เข้าชมงาน ส่วนหนึ่งจะเป็นกลุ่มคน ที่นำโปรเจค การสร้างภาพยนตร์ มานำเสนอ ต่อ นักลงทุน หรือ มองหาผู้ร่วมลงทุน นอกจากนั้น คำถามที่พบมากที่สุด คือ หาก เขาตัดสินใจเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศใดๆก็ตาม รัฐบาลของประเทศนั้นๆ จะให้อะไรเป็นอินเซ็นทีฟ รวมถึงประเทศไทยก็เจอคำถามนี้เช่นกัน เพราะ เขาจะนำไปประกอบการตัดสินใจ เนื่องจากในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี ผู้ประกอบการ ต้องหาวิธีลดต้นทุนให้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ในการจัดทำงบประมาณ ปี 2553 ทางกองกิจการภาพยนตร์ จะเสนอของบประมาณ ให้มากกว่า ในทุกปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะขอเพิ่มเป็นเท่าใด โดยปี 2552 ที่ ได้รับจัดสรรงบ 10 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้สำหรับการเปิดตลาดใหม่ๆ เช่น ตะวันออกลาง ยุโรป และ เอเชีย นอกจากนั้น จะเพิ่มจำนวนงานที่ไปร่วมออกโรดโชว์ ด้านธุรกิจภาพยนตร์ ซึ่งตลาดที่น่าสนใจและยังไปเคยไปร่วมงาน เช่น ญี่ปุ่น

“ แม้ว่า แต่ละปี จะมีกองถ่ายภาพยนตร์จากอเมริกา มาจำนวนน้อย แต่ก็เป็นภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ ทุนสร้างสูง จึงต่างกับ ตลาดเอเชีย ที่เป็นภาพยนตร์เรื่องสั้น มิวสิควิดีโอ เม็ดเงินต่อเรื่องจึงน้อยกว่า ดังนั้น หากตลาดอเมริกาหดหาย เราก็ต้องสร้างตลาดใหม่ๆ มาทดแทน โดยเฉพาะตลาดอินเดีย และ ตะวันออกกลาง ซึ่งขณะนี้กำลังมาแรง”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ตัวเลข ภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศ ไทย ตลอดปี 2551 คิดตามจำนวนเรื่อง แบ่งเป็น ตลาดญี่ปุ่น 25% , อินเดีย 23%,ยุโรป 20% , อเมริกา 5% ,เกาหลี 5%,ฮ่องกง 4% ,จีน 2% ,ออสเตรเลีย 2% ,ไต้หวัน 1% และ อื่นๆ อีก 13% คิดเป็นจำนวนเรื่องทั้งหมด 526 เรื่อง สร้างรายได้เข้าประเทศ 2,023 ล้านบาท เติบโตจากปี 2550 ที่สร้างรายได้ไว้ที่ 1,092 ล้านบาท หรือโตเกือบ 100% เป็นผลมาจากการโรดโชว์ สร้างการรับรู้ประเทศไทย ในด้านเป็นโลเกชั่นถ่ายทำภาพยนตร์ได้ในวงกว้าง

สำหรับปี 2552 ตั้งเป้าเติบโตไว้ ราว 5-10% หรือ อย่างดีก็เพียงรักษายอดตัวเลขเดิมไว้ ซึ่งยอมรับว่าหนักใจ เพราะ ขณะนี้ ยังไม่มีภาพยนตร์ เรื่องยาว ฟอร์มใหญ่ เข้ามาเลย โดยเฉพาะ จากตลาดอเมริกา สำหรับงาน ออกบูธนิทรรศการในงาน AFCI Locations Trade Show 2009 ที่เมืองซานตาโมนิก้า รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่จะถึงนี้ มีรายงานว่า มีผู้เข้าร่วมออกบูธเต็มหมดแล้ว ซึ่งในงานปีนี้หลายประเทศอาจมีสินค้า หรือ ข้อเสนอใหม่ๆ มานำเสนอ
กำลังโหลดความคิดเห็น