xs
xsm
sm
md
lg

ระบุเฟอร์นิเจอร์โตสวนเศรษฐกิจ3-5%ส.เครื่องเรือนฯยันได้เปรียบคู่แข่งด้านราคา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนยันตลาดเฟอร์นิเจอร์ส่งออกของไทยปี 52 ยังรุ่งคาดโต 3-5 % ระบุไทยได้เปรียบคู่แข่งเรื่องราคา สามารถสั่งซื้อสินค้าจำนวนน้อยในภาวะเศรษฐกิจถดถอย ชี้ญี่ปุ่นตลาดหลักของไทย พร้อมเสนอกระทรวงอุตฯ สนับสนุนจริงจัง ทั้งเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจเอสเอ็มอีผ่านเอสเอ็มอีแบงก์ แนะระวังมาเลเชียเหตุมีต้นทุนต่ำกว่าเท่าตัว
 
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์ โคลท์ จำกัด และอุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจว่า ในปีนี้แม้ว่าภาพรวมของธุรกิจโลกจะทดถอย แต่เชื่อว่าอุตสาหกรรมเครื่องเรือนยังมีอัตราการเติบโตได้ประมาณ 3-5% จากมูลค่าตลาดรวมปี 2551 อยู่ที่ประมาณ 40,000 ล้านบาท

 ทั้งนี้สาเหตุมาจาก แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการชะลอตัวโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา  แต่ที่ผ่านมาไทยได้ขยายตลาดส่งออกไปยังกลุ่มประเทศใหม่ อาทิ ตะวันออกกลาง อินเดีย ใต้หวัน และกลุ่มประเทศอาเซียน นอกจากนี้ยังหาตลาดใหม่เช่น ออสเตรเลีย รัสเชีย ส่วนประเทศจีนนั้นมองว่าเป็นประเทศคู่ค้ามากกว่าคู่แข่ง เพราะผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่สั่งซื้อวัสดุหรือชิ้นส่วนในการผลิตเฟอร์นิเจอร์จากจีน

  ส่วนประเทศญี่ปุ่นนั้นแม้ว่าจะมีการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่การสั่งซื้อสินค้าจากไทยไม่ได้ลดลง เพราะญี่ปุ่นไม่ได้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ใช้เอง เพราะมีต้นทุนสูง ส่วนใหญ่สั่งซื้อจากประเทศไทย อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ไทยยังมีราคาถูก เหมาะสำหรับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้เฟอร์นิเจอร์ไทยเป็นที่นิยมสำหรับชาวญี่ปุ่น

  นอกจากนี้ ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ผู้ประกอบการในไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเอสเอ็มอีได้เปรียบประเทศคู่แข่งที่มีโรงงานขนาดใหญ่ เพราะลูกค้าต่างชาติสามารถสั่งซื้อสินค้าล็อตเล็กๆ ไม่เกิน 100 ตู้คอนเทรนเนอร์ได้ ขณะที่การสั่งซื้อในประเทศอื่นเช่น จีน ต้องสั่งซื้อ 100 ตู้คอนเทรนเนอร์ขึ้นไป ทำให้มีลูกค้าต่างชาติเข้ามาสั่งซื้อสินค้าจากไทยจำนวนเพิ่มขึ้น

  “ปัจจุบันไทยยังได้เปรียบในหลายประเทศในเรื่องของราคา แต่ยังเสียเปรียบประเทศมาเลเชีย เพราะรัฐบาลมาเลเชียให้การสนับสนุนในธุรกิจนี้ทุกด้าน ทั้งการสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอี การลดภาษี การพัฒนาฝีมือแรงงาน ทำให้ต้นทุนการผลิตถูกกว่าไทยถึงเท่าตัว”  

  นายอารักษ์ กล่าวต่อว่า วานนี้ (22 ม.ค.52) ได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง เพื่อชี้แจงปัญหาของอุตสาหกรรมและนำเสนอแนวทางการช่วยเหลือ โดยเสนอแผน 3 ระยะคือ ระยะสั้น ขอให้รัฐบาลสนับสนุนการให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่ธุรกิจเอสเอ็มอี ผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ เอสเอ็มอีแบงก์, จัดให้มีสินเชื่อเช่าชื้อเครื่องจักรเพื่อให้เอสเอ็มอีสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ง่ายขึ้น

  ช่วยพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยให้สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา อาชีวะศึกษาเปิดการเรียนการสอนด้านเฟอร์นิเจอร์ เพราะปัจจุบันเครื่องจักรมีวิวัฒนาการไปอย่างมาก ในขณะที่บุคคลากรของไทยไม่ได้มีการพัฒนาตาม และการขอให้ช่วยด้านภาษี โดยผู้ประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายในการออกบูทประชาสัมพันธ์สินค้าในต่างประเทศสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้

  ส่วนแผนระยะกลาง ให้ช่วยเหลือหาตลาดใหม่ๆ และรักษาตลาดเก่าที่เคยเจรจาเปิดการค้าเสรีมาก่อนหน้านี้แล้ว และยกเลิกตลาดที่มีความเป็นไปได้น้อย เช่น อุสเบกีสถาน โปแลนด์ เป็นต้น ด้านแผนระยะยาวส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม
 
“ที่ผ่านมารัฐบาลส่งเสริมให้แบรนด์ของตนเอง แต่ได้ผลน้อยเพราะการสร้างแบรนด์ต้องใช้เงินลงทุนสูง ทำให้บริษัทส่วนใหญ่ยังรับจ้างผลิตสินค้าคิดเป็นสัดส่วน 70% จากบริษัทผู้ผลิตในประเทศกว่า 400 ราย ในจำนวนนี้เป็นรายใหญ่ 50 รายมีนส่วนแบ่งตลาด 40% มีแรงงานในภาคธุรกิจนี้ประมาณ 300,000 คน อย่างไรก็ตามรัฐบาลควรให้ความรู้แก่ธุรกิจ เอสเอ็มอี ในการค้าขายกับต่างชาติ โดยเฉพาะการทำธุรกรรมทางการเงินเพื่อไม่ให้ถูกหลอกหรือเบี้ยวค่าจ้างผลิตได้ เพราะในปีที่ผ่านมีบริษัทไทยกว่า 15 แห่งต้องปิดกิจการไปเนื่องจากลูกค้าต่างชาติไม่ยอมจ่ายเงินจ้างผลิตคิดเป็นมูลค่า 500 ล้านบาท”

  สำหรับแผนการดำเนินงานของกลุ่มอิสต์ โคลท์ นั้นมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตด้วยการสร้างโรงงานผลิตเพิ่มอีก 2 แห่งที่ จ.ระยอง โดยลงทุนซื้อเครื่องจักร 100 ล้านบาท กำลังการผลิต 60 ตู้คอนเทรนเนอร์ต่อเดือน จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 150-180 ตู้ตคอนเทรนเนอร์ โดยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจะผลิตสินค้าในกลุ่ม B+ จากเดิมผลิตสินค้าในกลุ่ม C ลงมา โดย 70% ส่งออกในรูปแบบจ้างผลิต ลูกค้าหลัก 50% คือประเทศญี่ปุ่น ที่เหลือเป็นเมริกาและยุโรป ส่วนสินค้าอีก 30 % ขายในไทยภายใต้แบรนด์ “เอลีก้า” ผ่านศูนย์ค้าวัสดุ อินเด็กซ์และโฮมโปรฯ

  ล่าสุดสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย ร่วมกับบริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด เตรียมจัดงาน Furnitech Woodtech 2009 ซึ่งเป็นงานอุตสาหกรรมงานไม้และเฟอร์นิเจอร์ครบวงจร รวมถึงการแสดงเทคโนโลยีการผลิตเฟอร์นิเจอร์จากประเทศต่างๆ กลุ่มผู้เข้าร่วมงานจะมีทั้งชาวไทยและต่างชาติ นักลงทุน งานดังกล่าวจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 2-5 กันยายน 2552 นี้ ซึ่งงานนี้จัดขึ้นทุกๆ 3 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น