xs
xsm
sm
md
lg

"สุเทพ"ฮึ่ม ตร.ล่าชื่อถอด ป.ป.ช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผูจัดการรายวัน - "สุเทพ" ปรามตำรวจก่อหวอด ล่าชื่อยื่นถอดถอนป.ป.ช. จี้ผบ.ตร.ดูแลลูกน้องอย่าสร้างความขัดแย้งระหว่างองค์กร แจงปลด"สุชาติ-ทวี" แค่ข่าวลือ แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องทำ ขณะที่"พัชรวาท" ป้องลูกน้อง อ้างเป็นสิทธิส่วนบุคคล ไม่ผิดวินัยตร. "สุริยะใส" ชี้ปล่อยตำรวจดื้อแพ่งสะท้อนความอ่อนแอทางนโยบายของรัฐบาล หวั่นเป็นแบบอย่างให้ ขรก.ลิ่วล้อทักษิณขยายวงต้าน ด้านป.ป.ช.ไม่ห่วงเรื่องขัดแย้งตำรวจ เตรียมชี้มูล"โฆสิต" กรณีผาแดงวันนี้

วานนี้ (20ม.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฐานะกำกับดูแลหน่วยงานความมั่นคง กล่าวถึงกรณี สมาคมตำรวจ เตรียมล่าชื่อถอดถอนกรรมการป.ป.ช.ทั้ง 9 คน โดยอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพิจารณาคดีการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 จนทำให้ตำรวจตกเป็นจำเลยของสังคมว่า โดยส่วนตัวตนไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะไม่อยากให้มีปัญหาระหว่างหน่วยงาน และทันทีที่ตนรู้เรื่องก็ได้เตือนไปยัง พล.ต.อ.พัชราวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร.แล้ว ว่าต้องให้อยู่ในกรอบ

"การแสดงความคิดเห็นธรรมดาเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่อย่าให้เหตุการณ์บานปลายเป็นความขัดแย้งระหว่างหน่วยงาน ก็ได้บอกกับผบ.ตร.ไปแล้ว ผมยังไม่เห็นว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงไหน เพราะว่าป.ป.ช. เขาก็ยังไม่ได้แสดงผลของการสอบสวนออกมา ไม่ได้แถลงออกมา"นายสุเทพกล่าว

ส่วนที่ตำรวจอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมตั้งแต่ครั้งเหตุการณ์ที่ เซ็นทรัลเวิลด์ ในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น ตนคิดว่ากรณีที่เกิดขึ้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ เห็นชัดเจนว่า ทำผิด ประชาชนทั้งประเทศก็เห็น แต่ว่ากรณีที่ 7 ต.ค. ยังต้องดูข้อเท็จจริงต่อไป และป.ป.ช.ก็ยังไม่ได้แถลงผลของการสอบออกมา เพราะฉะนั้นเราก็อย่าเพิ่งไปตีตนไปก่อนไข้

เมื่อถามว่าได้มีการคุยกับ ผบ.ตร. ให้ระงับการเคลื่อนไหว หรือดูแลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ครับ การแสดงความคิดเห็นของตำรวจ ก็เหมือนกับการแสดงความคิดเห็นของประชาชนทั่วไป แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่พอดี ไม่ใช่มายุยง ปลุกปั่นให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) มีปัญหากับป.ป.ช. อย่างนี้มันไม่ได้

เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเกิดจากกระแสข่าวที่จะโยกย้าย พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. นายสุเทพ กล่าวว่า "ไอ้กระแสข่าวนี่อย่าไปเชื่อมากครับ ผมไม่รู้ว่าใครทำ ไม่รู้ว่าคนที่อยากจะย้ายทำ หรือว่าคนกลัวถูกย้ายทำ หรือว่ากองเชียร์ทำ แต่ว่าผมยังไม่ได้คิด ผมตรงไปตรงมา ถ้าจำเป็นจะต้องทำผมก็ทำ แล้วผมก็จะแถลงให้พี่น้องประชาชนทราบว่าด้วยเหตุผลอะไร"

เมื่อถามว่าจะเป็นการรวบรวมคนมากดดันการตัดสินใจหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ได้ผล เชื่อว่าป.ป.ช.ไม่หวั่นเกรงเรื่องการกดดัน เขาก็ทำหน้าที่ของเขาไป จะถูกจะผิดก็เป็นเรื่องของเขา ทำมาแล้วเราจะรับได้หรือไม่ได้ เราก็มาดูกัน เมื่อถามว่าย้ำว่า หมายถึงเป็นการกดดันในการย้ายผู้บังคับบัญชา นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เคยมีใครมากดดันตน เพราะเขาไม่ได้เข้าชื่อมากดดันตน

"ผมไม่สนใจ ถ้าคนคิดจะกดดันผมด้วยพลังอย่างนี้ไม่ได้ผล" นายสุเทพกล่าว

เมื่อถามถึงกระแสข่าวปลดพล.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสุเทพ กล่าวว่า "เอาอีกแล้ว เอาอีกแล้ว" เมื่อวานก็ถามครั้งหนึ่งแล้วตนก็ตอบไปแล้ว แล้วก็ตอบไปดีดี ก็ยังเอาไปทำเป็นข่าวที่มันบิดๆเบี้ยวๆ อีก ไม่มีครับ ผมไม่มีหน้าที่จะไปดูแล เป็นเรื่องของรมว.ยุติธรรม"

เมื่อถามว่ามีความคืบหน้าในการได้รับรายงานการปรับโครงสร้างตำรวจ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ต้องให้ เวลาก่อน แต่ตนได้บอกกับ ผบ.ตร.ไปว่า มีความกังวลใจเรื่องปัญหาอาชญกรรม ซึ่งตำรวจต้องเข้มแข็งกว่านี้ และต้องกวดขันเรื่องยาเสพติดด้วย

**"พัชรวาท"ป้องลูกน้องล่าชื่อ

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การร่วมลงชื่อดังกล่าวเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ข้าราชการตำรวจสามารถทำได้ และไม่เป็นการกระทำที่ขัด หรือผิดระเบียบวินัยของข้าราชการตำรวจแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อมวลชนได้พยายามซักถาม ผบ.ตร.ในเรื่องดังกล่าวอีกหลายประเด็น แต่ ผบ.ตร.ได้กล่าวขอโทษต่อสื่อมวลชนที่จะไม่แสดงความคิดเห็น หลังจากนั้นนายตำรวจติดตามได้พยายามขอให้สื่อมวลชนเปิดทางเดินให้ ผบ.ตร. เข้าไปในลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้น 7 ซึ่งเป็นสำนักงานของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท มีชื่อในฐานะผบ.ตร. ที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชี้มูลความผิด และส่งสำนวนให้ป.ป.ช.ดำเนินการแล้วเป็นคนแรก ในจำนวนนายตำรวจกว่า 20 นาย

**ถอดยศ"ทักษิณ"ยังอืด

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการยื่นถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กองกำลังพลเคยออกมาระบุว่า จะเสนอให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พิจารณาภายในวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการสอบถามไปยังสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทราบว่ารายงานเรื่องดังกล่าวยังไม่มีการเสนอขึ้นมาแต่อย่างใด

เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสอบถามไปยัง พล.ต.ต.ชนาภัทร เชยสมบัติ ผู้บังคับการกองกำลังพล ก็ไม่สามารถติดต่อได้ รวมทั้งสำนักงานกองกำลังพลตำรวจที่ปฏิบัติงานอยู่ก็ตอบเพียงว่า พล.ต.ต.ชนาภัทร ไม่อยู่ที่สำนักงาน ไปปฏิบัติราชการอื่น

**ระบุ ตร.เคลื่อนไหวขัดรัฐธรรมนูญ

ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การล่ารายชื่อตำรวจเพื่อถอดถอนป.ป.ช.นั้น ไม่ใช่ประเด็นเรื่องสิทธิ แต่เรื่องนี้สะท้อนความอ่อนแอทางนโยบายของรัฐบาล เชื่อว่ากลุ่มตำรวจที่อยู่เบื้องหลัง และเป็นแกนกลางในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ อย่างแน่นอน จึงพยายามขัดขวางการตรวจสอบของ ป.ป.ช.

" เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นว่าเป็นสิทธิหรือไม่ เพราะผู้เคลื่อนไหวเป็นคู่ขัดแย้งกับป.ป.ช.และกำลังถูกป.ป.ช.ตรวจสอบการกระทำ ฉะนั้นการดำเนินการดังกล่าวจึงไม่ใช่การใช้สิทธิตรวจสอบป.ป.ช.ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แต่มีจุดมุ่งหมายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของป.ป.ช. จึงเป็นการเคลื่อนไหวที่ขัดรัฐธรรมนูญ"

นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า เจตนารมณ์ลึกๆ ของนายตำรวจที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นกลุ่มนายตำรวจการเมืองที่ได้ดิบได้ดีจากการรับใช้ระบอบทักษิณ และกำลังรู้ชะตากรรมที่ตัวเองก่อไว้เป็นอย่างดี จึงทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาอำนาจตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าละอาย

**ชี้รัฐบาลอ่อนแอทางนโยบาย

การเคลื่อนไหวของนายตำรวจครั้งนี้ ยังสะท้อนความอ่อนแอทางนโยบายของรัฐบาลต่อการปฏิรูปสำนนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) โดยเฉพาะการส่งสัญญาณอย่างใดอย่างหนึ่งต่อการเอาผิดกับนายตำรวจ ที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามประชาชนในเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลรับผิดชอบ สตช. จะต้องเร่งส่งสัญญาณให้ชัดเจนต่อการจัดระเบียบและแนวทางปฏิรูปสำนักงานตำรวจฯ ในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ กตช. ในวันนี้จะต้องมีสัญญาณที่ชัดเจนและเข้มแข็งกว่าที่เป็นอยู่ ไม่เช่นนั้นตำรวจที่เป็นลิ่วล้อระบอบทักษิณจะได้ใจ ฮึกเหิม และไม่สนองนโยบายของรัฐบาล และขยายวงต้านรัฐบาลได้ในที่สุด

หากรัฐบาลยังปล่อยเลยตามเลย บรรดาญาติๆและประชาชนที่บาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิตจากการปราบปรามของเจ้าหน้าที่จะไม่ได้รับความเป็นธรรม และจะเป็นจุดนับหนึ่งให้ข้าราชการที่ยังฝักไฝ่ระบอบทักษิณ ดื้อแพ่งต่อรัฐบาลในวงกว้างได้

**ป.ป.ช.เชื่อไม่บาดหมางตำรวจ

นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมป.ป.ช.ว่าที่ประชุมไม่ได้มีการหารือเรื่องที่ตำรวจล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 248 กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากป.ป.ช.ในการตั้งอนุกรรมการไต่สวนเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ซึ่งการล่ารายชื่อดังกล่าวถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และป.ป.ช. ก็พร้อมจะถูกตรวจสอบ

ส่วนการไต่สวนคดีดังกล่าว เป็นการทำตามหน้าที่ ไม่มีอคติ และขณะนี้ก็ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใคร เป็นเพียงขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานที่จะต้องเรียกผู้กล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหา ตลอดจนคนกลางมาให้ปากคำ หากเห็นว่ามีความผิด ก็จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามาแก้ข้อกล่าวหา หากไม่มีความผิดก็จะยกคำร้องไป ไม่ได้มีการชี้นำว่า ตำรวจมีส่วนร่วมในการทำให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต และไม่คิดว่าการล่าชื่อดังกล่าวจะทำให้เกิดการบาดหมางระหว่าง ป.ป.ช. และตำรวจ

**"ศุภรัตน์"ร้อง ป.ป.ช.ทบทวนมติ

นายกล้านรงค์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายศุภรัตน์ ควัฒนกุล ปลัดกระทรวงการคลัง ทำหนังสือขอให้ ป.ป.ช. ทบทวนมติกรณีชี้มูลความผิดอาญาและวินัยร้ายแรง ในการแต่งตั้งข้าราชการระดับ 9 จำนวน 4 คนโดยมิชอบในสมัยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร ว่า ป.ป.ช. ได้รับหนังสือจากนายศุภรัตน์ เรียบร้อยแล้ว และได้มอบให้ประธานคณะอนุกรรมการที่เป็นเจ้าของสำนวนคดีดังกล่าวไปพิจารณาว่ามีพยานหลักฐานใหม่ก็ขึ้นอยู่กับคณะอนุกรรมการที่จะไปตรวจสอบว่า จะรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่ แต่ถ้าไม่มีพยานหลักฐานใหม่ ก็จะไม่พิจารณา คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบไม่นาน

**ลงมติชี้มูล"โฆษิต"วันนี้

นายกล้าณรงค์ กล่าวด้วยว่า เวลา 10.00 น.วันนี้ (21 ม.ค.) ป.ป.ช. จะแถลงถึงมติ ป.ป.ช. กรณีการกล่าวหานายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์ อดีตรองนายกฯ และรมว.อุตสาหกรรม ข้อหาใช้อำนาจหน้าที่ช่วยเหลือ บริษัทผาแดง อินดัสทรี จำกัด(มหาชน) ให้ได้รับการผ่อนผันจาก ครม. ในการใช้พื้นที่ป่าไม้ ลุ่มน้ำชั้น1 เอ ทำเหมืองแร่สังกะสี ที่ อ.แม่สอด จ. ตาก โดยที่นายโฆสิต เคยเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าวมาก่อน

น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า นอกจากคดีของนายโฆสิต แล้ว ป.ป.ช. จะแถลงถึงกรณีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเจ้าหน้าที่รัฐ สังกัดกรมวิชาการเกษตร และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กับพวก ร่วมกันทำสัญญาจ้างงาน ปรึกษาออกแบบผังแม่บท และ ควบคุมงานก่อสร้าง โครงการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก 2549 จำนวน 3 สัญญา มูลค่า 59.5 ล้านบาท โดยไม่ปฏิบัติตตามกฎหมายและระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ

ส่วนคดีเขาพระวิหาร เบื้องต้นเท่าที่ได้รับฟังข้อมูลจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ก็ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ไม่มีข้อมูลเอกสารสั่งการที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็สามารถหาข้อมูลจากพยานบุคคลได้ว่า ใครเป็นผู้สั่งการที่แท้จริง คาดว่าน่าจะเสร็จก่อนการประชุมอาเซียนซัมมิท
กำลังโหลดความคิดเห็น