xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯไม่ใช้เวทีจ้อรายสัปดาห์ถล่มฝ่ายไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (18 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จัดรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นการออกอากาศสดครั้งแรกและจะออกอากาศทุกวันอาทิตย์ในเวลาเดียวกันทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(NBT)และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ แต่ปรากฏว่าก่อนเข้ารายการทางNBTได้โชว์ผังรายก่อนเข้ารายการว่ารายการดังกล่าวจัดที่ตึกสันติไมตรี
อย่างไรก็ตามนายอภิสิทธิ์ถือเป็นนายกคนที่ 4 นับจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์และนายสมัคร สุนทรเวช ที่เคยจัดรายการนายกฯพบประชาชนลักษณะนี้ แต่มีความแตกต่างกันเล็กน้อยในส่วนของรูปแบบรายการเท่านั้น ส่วนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกต่อจากนายสมัครเป็นนายกคนเดียวที่ไม่ได้จัดรายการดังกล่าว
โดยรูปแบบรายการที่แตกต่างคือนายอภิสิทธิ์เลือกที่จะยืนพูด ซึ่งคล้ายๆกับการหาเสียงของประธานาธิบดีสหรัฐ โดยมีการเดินวนไปวนมาบนฟลอร์ พร้อมกับแสดงอากัปกิริยาท่าทางให้เข้าถึงอารมณ์การพูด โดยมีการเชิญผู้ชม ที่เป็นกลุ่มคน หลากหลายอาชีพและหลากหลายศาสนาเข้ามานั่งชมรายการติดขอบเวที ในขณะที่ด้านหลังของนายอภิสิทธิ์มีการฉายภาพและเนื้อหาสาระในสิ่งที่นายอภิสิทธิ์จะพูดถึงลงบนจอผ้าใบขนาดใหญ่ เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น
ทั้งนี้ในส่วนของเสื้อผ้านั้นนายอภิสิทธิ์ได้สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ผูกเน็คไทน์สีฟ้า ซึ่งเป็นสีของพรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่ได้สวมสูททับเพื่อไม่ให้ดูเป็นทางการมากนัก และสวมกางเกงแสลคสีดำ โดยก่อนเข้ารายการ ผู้ชมในห้องสีม่วงได้พากันปรบมือก่อนเข้ารายการด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานก่อนเริ่มรายการปราฏว่าคนงานก่อสร้างและปรับปรุงภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาล จากสวนนงนุช ได้พบศพ อีเห็น สัตว์ป่าหายากน้ำหนักประมาณ 5-6 กิโลกรัม มีร่องรอยบาดแผลขนาดใหญ่ที่คอและขา นอนตัวแข็งตายอยู่ใกล้ห้อง ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่นายอภิสิทธิ์ จะเดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล เพื่อจัดรายการ ทั้งนี้ คนงานฯได้เตรียมถอนขนอีเห็นออกเพื่อปรุงเป็นอาหารรับประทานแล้ว อย่างไรก็ดีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาสอบถามคนงานกลุ่มดังกล่าว โดยมีผู้สื่อข่าวกระเซ้าว่า อีเห็นตัวนี้ อาจเข้ามาร้องเรียนนายกรัฐมนตรี ในเรื่องอะไรก็ได้

มาร์คเผยแต่ละสัปดาห์รูปแบบไม่ซ้ำ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการว่า สวัสดีพี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน ทุกวันอาทิตย์ผมอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องการที่จะมาพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนเป็นประจำ เพื่อที่จะได้รายงานถึงการทำงานของรัฐบาล เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้รับทราบว่ารัฐบาลกำลังมีความคิด มีแนวทาง กำลังทำงานแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนอย่างไร โดยตั้งใจว่าในแต่ละสัปดาห์นั้น รูปแบบของการมาพบปะกันนี้จะมีการเปลี่ยนแปลง มีความหลากหลาย ครั้งแรก วันนี้ถือโอกาสพูดกับพี่น้องจากทำเนียบรัฐบาลและได้มีโอกาสเชิญพี่น้องประชาชนจำนวนหนึ่ง เสมือนมาเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศมาร่วมชม ร่วมฟังการพบปะพูดคุยในวันนี้ แต่ว่าสัปดาห์ต่อๆ ไป รูปแบบของรายการอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไป บางสัปดาห์อาจจะเชิญผู้รู้ พิธีกร มาพูดคุยซักถามในประเด็นที่เป็นการเฉพาะ บางสัปดาห์ก็ตั้งใจว่าอาจจะออกไปนอกพื้นที่ พบปะพูดคุยกับประชาชนในเรื่องราวปัญหา หรือนโยบายต่างๆ ที่มีความสำคัญ
สัปดาห์ต่อๆ ไป คงอาจจะไม่ได้อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว อาจจะไปพูดคุย มีพิธีกรมาซักถามบ้าง อาจจะลงไปในพื้นที่พบปะประชาชนในกลุ่มต่างๆ บ้าง เปลี่ยนแปลงรูปแบบที่หลากหลายไป แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดคือความตั้งใจที่จะมารายงานกับพี่น้องประชาชน เพราะผมถือว่าผมและรัฐบาลมาอยู่ตรงนี้ได้ โดยพี่น้องประชาชนสนับสนุน ส.ส.เป็นเสียงข้างมากที่มาสนับสนุนให้เกิดรัฐบาล และความรับผิดชอบของผมคือต่อพี่น้องประชาชน มีอะไรจะมาพูดคุยอย่างนี้ครับ ตรงไปตรงมา เล่าให้ฟังว่าเราคิดอะไร เราทำอะไร ในโอกาสข้างหน้าคงจะเป็นการรับฟังเสียงสะท้อนและแลกเปลี่ยนได้มากกว่านี้ เนื่องจากว่าวันนี้เป็นครั้งแรก นายกฯ กล่าว

ไม่ใช่รายการตอบโต้ทางการเมือง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงปัญหาการเมืองว่า ตนไม่มีความตั้งใจที่จะใช้รายการนี้ มาพูดตอบโต้ทางการเมือง ต้องการให้รายการนี้เป็นการมาพูดถึงการทำงาน อย่างไรก็ตาม ปัญหาการเมืองก็เป็นปัญหาหนึ่ง ซึ่งเราต้องยอมรับว่ายังดำรงอยู่ มีความขัดแย้งอยู่ ตนเคยย้ำไปตั้งแต่วันแรกว่า แม้ว่าจะมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับตน แม้ว่าจะมีคนที่ไม่ชอบหรือมีความคิดเห็นที่แตกต่าง ตนยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ ยอมรับการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่อย่าทำผิดกฎหมาย อย่าทำร้ายร่างกาย อย่าทำลายทรัพย์สิน และตนจะไม่เพิกเฉยต่อความเห็นและข้อเรียกร้องของคนทุกกลุ่ม กระบวนการการปฏิรูปการเมือง การสะสางคดีความต่างๆ ซึ่งหลายคนยังติดใจว่าคดีนั้นไปถึงไหน คดีนั้นมีการดำเนินการหรือไม่ มีการเลือกปฏิบัติหรือไม่ ขอยืนยันว่ารัฐบาลเดินหน้าในทุกๆ เรื่อง แล้วก็จะให้ความเป็นธรรม ทำงานทุ่มเทให้กับประชาชนทุกกลุ่มต่อไป
นายกฯ กล่าวว่า อยากจะเรียนยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า บ้านเมืองเรายังอยู่ในภาวะซึ่งเป็นวิกฤต ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ วิกฤตการเมืองอาจคลี่คลายไประดับหนึ่ง ตรงนี้ ขอให้ความมั่นใจว่าตนและรัฐบาลตระหนักดี และรู้ว่าเรายิ่งต้องทุ่มเทความสามารถ เพื่อจะแก้ไขปัญหาต่างๆ เหล่านี้ แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขได้ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน แต่ตนไม่มีสิทธิเรียกร้อง ความร่วมมือ ตนต้องสร้างความไว้วางใจ ความมั่นใจ ในตัวตนและรัฐบาล เพื่อจะได้รับความร่วมมือ ซึ่งเป็นภารกิจที่จะมุ่งมั่นเดินหน้าทำให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศต่อไป

ยอมรับงานหนักทำบ้านเมืองให้ปกติ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้วันแรกอยากจะเรียนกับพี่น้องในเบื้องต้นว่า ตนเข้ามาทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีนั้นได้มีโอกาสเข้ามาทำงาน ว่าไปแล้วหลังจากแถลงนโยบาย มีวันที่ทำงานราชการอยู่เพียง 11วันเท่านั้นเอง โดย 11 วันที่ผ่านมาก็เป็นการทุ่มเททำงานอย่างหนัก ตนและรัฐบาลทราบดีว่า การทำงานในภาวะวิกฤตเป็นการทำงานที่ท้าทายมาก ต้องยอมรับว่าในช่วงตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา และโดยเฉพาะในช่วงปลายปีเราพบความจริงว่า บ้านเมืองแทบจะเดินไม่ได้เลย มีปัญหามีความสับสนในทางการเมือง และในช่วงปลายปีนั้นเอง ปัญหาที่ถั่งโถมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเมือง ก็ทำให้เกิดความตึงเครียด เกิดความกังวล จนพี่น้องประชาชนจำนวนมาก มีความรู้สึกว่า เราจะมีที่พึ่งที่หวังหรือไม่ ประเทศไทยของเราจะเดินต่อได้หรือไม่
ผมเรียนว่าเมื่อสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเลือกผมเป็นนายกรัฐมนตรี และเราก็กำลังดำเนินการตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ ในการที่จะจัดตั้งคณะรัฐบาล รวมทั้งการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เรามีความเข้าใจเป็นอย่างดีครับว่า จากนี้ไปรัฐบาล ต้องทำงานหนัก รัฐบาลต้องทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ที่สำคัญที่สุดก็คือว่ามีปัญหาใหญ่ๆ ที่รออยู่เป็นจำนวนมาก ความตั้งใจผมเบื้องต้นคือว่าทำอย่างไร บ้านเมืองกลับเข้าสู่ปกติ วันนี้ก็ดีใจที่สามารถที่จะมาพูดคุยกับพี่น้องจากทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นที่ทำงานของนายกรัฐมนตรี และเป็นที่ทำงานของรัฐบาลตามปกติ ส่วนการปรับปรุงสภาพทำเนียบรัฐบาลจะมีการดำเนินการต่อไป นายอภิสิทธิ์ กล่าว

10ประเทศร่วมประชุมอาเซียนแน่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า 11 วันที่ทำงาน ก็ได้เดินหน้าแก้ปัญหาไปพอสมควร แต่การเดินหน้าทำให้ทุกสิ่ง ทุกอย่าง กลับเข้าสู่ภาวะปกตินั้น สิ่งหนึ่งซึ่งเราจำเป็น ต้องทำด้วยคือว่าประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประธานของอาเซียน10 ประเทศ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งการเป็นประธานนั้นเรามีข้อผูกพันอยู่ว่าจะต้องจัดการประชุมสุดยอด คือการประชุมผู้นำ
เดิมทีนั้นตั้งใจจะจัดที่กรุงเทพฯ ในกลางเดือนธันวาคม แต่เหตุการณ์ความ วุ่นวายหลายอย่าง ทำให้การจัดไม่สามารถดำเนินการได้ และมีการเปลี่ยนแปลง ทางการเมืองด้วย จนกระทั่งเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว เริ่มมีบรรดาสมาชิกของ อาเซียน ด้วยกันเอง ตั้งคำถามว่าประเทศไทยยังจะจัดการประชุมสุดยอดการประชุมผู้นำอาเซียน อยู่ได้หรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเองตั้งแต่ช่วงที่ทราบว่าจะต้องเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ ได้เร่งเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นและก็เตรียมการ วันนี้ก็อยากจะบอกข่าวดีกับพี่น้องประชาชนว่า วันที่27-28 ก.พ.และวันที่ 1 มี.ค. ต่อเนื่อง 3 วัน ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 แน่นอน โดยจะไปจัดกันที่ชะอำและหัวหิน จ.ประจวบคิรีขันธ์ ขณะนี้ได้รับการยืนยันจากผู้นำอีก 9 ประเทศ รวมทั้งตนด้วยเป็น 10 ประเทศ จะมาเข้าร่วมประชุมได้ เป็นการประชุมครั้งสำคัญเพราะว่าเป็นการประชุมครั้งแรกที่อาเซียนมีกฎบัตร หรือเป็นรัฐธรรมนูญของกลุ่มประเทศในอาเซียน ซึ่งการประชุมนี้จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศว่าประเทศไทยมีความพร้อม ความสงบถึงขั้นที่ทำให้มีการประชุมระดับนานาชาติได้
อยากจะขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนคือว่า การจัดการประชุมอาเซียนครั้งนี้ ไม่ใช่งานของรัฐบาล เป็นงานของประเทศ คนที่เป็นเจ้าภาพไม่ใช่ผม ไม่ใช่รัฐบาล แต่เป็นประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ผมอยากจะเชิญชวนพี่น้องประชาชน ให้มาเป็นเจ้าภาพที่ดี สร้างความประทับใจที่ดีกับแขกที่มาเยือน กับผู้นำในอาเซียน และที่สำคัญคือให้ชาวโลกได้เห็นสิ่งที่เขาเคยรู้จักคนไทย ในฐานะที่เป็นคนที่มีน้ำใจ และอัธยาศัยไมตรี แทบจะกล่าวได้ว่าดีที่สุดในโลกก็ได้
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการที่เรียกร้องให้คนไทยทุกคนร่วมเป็นเจ้าภาพ การประชุมอาเซียนเพื่อหวังให้คนเสื้อแดงเลิกเคลื่อนไหวไปปิดล้อมการประชุมหรือไม่ว่า ตนพูดตามข้อเท็จจริง งานตรงนี้เป็นเรื่องของคนไทยทั้งประเทศ เพราะว่าจะดีไม่ดีอย่างไร คนที่เข้ามาลงทุนก็ถือเป็นเรื่องของประเทศไทย ก็สะท้อนให้เห็นว่าเป็นเรื่องของทุกคน เข้ามาร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น