xs
xsm
sm
md
lg

"มาร์ค"ยกทีมลงแก้ปัญหาใต้คืนความสงบสุขให้เร็วที่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"อภิสิทธิ์"นำทีมลงใต้วันนี้ เพื่อให้รัฐมนตรีรับทราบสถานการณ์จริง ยันไม่แตกคอกับ"ประวิตร" กรณีเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยก"สุเทพ-ถาวร"เป็นแม่งานเกาะติดพื้นที่ "สุเทพ" ย้ำไม่ขีดเส้นว่าต้องแก้ปัญหาให้เสร็จภายในกี่เดือน เกรงหน้าแตกเหมือนบางคน แต่จะนำความสงบสุขมาสู่ประชาชนให้เร็วที่สุด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันนี้(17ม.ค.) ว่า เป็นการไปเยี่ยมพื้นที่ รับฟังความคิดเห็นของฝ่ายต่างๆ เพื่อนำมาประกอบแนวทางการทำงานต่อไป ซึ่งการเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้จะดูหลากหลาย ทั้งแง่มุมด้านความมั่นคง การพัฒนา การศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ส่วนแนวทางที่จะเลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฎอัยการศึกนั้น ได้คุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมแล้วเมื่อเช้านี้(16ม.ค.) ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกัน และเห็นในบทสัมภาษณ์รายละเอียดก็ไม่มีอะไรแตกต่างกัน เพระเป็นสิ่งที่ได้คุยกับท่านรัฐมนตรีอยู่แล้ว ท่านเป็นคนที่มีบทบาทในการจัดทำกฎหมายความมั่นคง และเราก็ฟังจากการรายงานเจ้าหน้าที่ว่า เขายังไม่พร้อม จึงยังใช้พ.ร.ก. อยู่ ซึ่งตนได้ให้แนวทางที่จะทบทวนทั้งหมด และไม่มีปัญหาอะไรกับ รมว.กลาโหม และสิ่งที่ท่านให้สัมภาษณ์ไม่มีประเด็นอะไรขัดแย้งกัน
เมื่อถามว่า ทางทหารออกมาบอกว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังมีความจำเป็นในพื้นที่ภาคใต้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีความจำเป็น รัฐบาลจึงได้ขยายออกไป 3 เดือน แต่ประเด็นที่เราต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาคือ เมื่อเป็นพ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป้าหมายของเราคือ ในที่สุดต้องเลิก เพราะมันไม่ควรจะมีสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป อย่างไรก็ตาม แนวคิดที่จะนำไปมอบให้กองทัพคือ การทำความเข้าใจของกระบวนการพัฒนาที่จะต้องทำคู่ขนาน และเสริมกับการปฏิบัติการด้านความมั่นคง

**ยันจะลงพื้นที่หลายครั้ง
เมื่อถามว่ารัฐบาลจะใช้ยุทธศาสตร์อะไรให้ได้ใจประชาชน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าการพิสูจน์ให้เห็นว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการให้พี่น้องประชาชนที่นั่นได้รับความเป็นธรรมและมีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อถามว่า จะใช้อะไรเป็นบทพิสูจน์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การทำงานที่จะทำให้เห็นว่า สิ่งที่เขาไม่ได้รับความเป็นธรรม เราดูแลให้เขาจริงๆ และมีโครงการแนวทางการพัฒนาเพื่อให้ชีวิตเขาดีขึ้น สร้างโอกาสให้กับเขา และการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการลงครั้งเดียว ในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน ก็ลงหลายครั้ง แต่ตอนนี้คงไม่สามารถตอบได้ว่าจะลงพื้นที่ถี่แค่ไหน คงต้องลงไปอีกแน่นอน แต่ไม่จำเป็นต้องลงไปคณะใหญ่เสมอไป ความตั้งใจของเราคือ จะต้องมีรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องนี้ และต้องลงไปประจำ คือ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามถึงกรณี นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร สอบถามถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้ติดตามอยู่ และยังมีความเชื่อว่า น่าจะทำให้เกิดความคืบหน้าได้ ซึ่งขณะนี้ยังมีการดำเนินการอยู่ แต่ช่วงที่ผ่านมาดูยังมีอุปสรรคสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ ซึ่งเราจะขจัดอุปสรรคนี้ไปให้ได้
เมื่อถามว่า ถ้าคลี่คลายปัญหานี้ได้ คิดว่าจะช่วยให้สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ช่วยได้ แต่คงไม่ใช่กรณีนี้กรณีเดียว ยังมีหลายกรณีที่ต้องช่วยกัน
เมื่อถามว่า ได้รับรายงานที่องค์กรต่างประเทศโจมตีประเทศไทยเรื่องที่ผลักดันพม่าเชื้อสายมุสลิมโรฮินญา ออกจากไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าได้รับรายงานแล้ว กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้แถลงการณ์ ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง ขอเรียนว่า นโยบายของรัฐบาลในการรักษาความมั่นคง ดูแลปัญหาการเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายต้องดำเนินการ โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายกฯจะเดินขึ้นห้องทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า นายกฯได้หันไปยืนมองกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ที่ปราศรัยหน้าทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับโบกมือให้

**ให้"ถาวร"ดูแลภาพรวมทั้งหมด
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ของนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันนี้ ว่า เป็นการไปโดยเปิดเผย ไม่มีกำหนดการลับแต่อย่างใด เมื่อถามว่าจะไปฟังรายงานที่ จ.ยะลา หรือปัตตานี นายสุเทพ กล่าวว่า จะมีหน่วยเฉพาะกิจ( ฉก.) อรุโณทัย ซึ่งเป็นกองอำนวยการส่วนหน้าของ กอ.รมน.ซึ่งจะเรียกว่าอยู่ จ.ยะลา หรือปัตตานีก็ได้ เพราะอยู่ติดกัน โดยคณะจะเดินทางไปเช้า และกลับเย็น
ทั้งนี้การเดินทางไปครั้งนี้จุดประสงค์เพื่อให้รัฐมนตรีทุกคนที่รับผิดชอบการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับทราบสถานการณ์จริง และสิ่งที่ กอ.รมน.ได้ปฏิบัติมาก่อนหน้านี้ รวมทั้งปัญหาต่างๆ และนอกจากนี้ก็จะไปพบปะกับประชาชนที่เรียกว่า สภาสันติสุข และไปดูโครงการพระราชดำริ ที่เป็นฟาร์มตัวอย่าง จะได้เกิดความคิดเป็นพื้นฐาน
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงบทบาทของนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ในการแก้ปัญหาภาคใต้ว่า จะเป็นผู้ที่ต้องอยู่ติดกับพื้นที่มากกว่าคนอื่น และคงต้องดูทั้งหมด เพราะรัฐมนตรีคนอื่นๆ จะดูเฉพาะตามอำนาจหน้าที่ในกระทรวงของตนเอง
เมื่อถามว่าแนวทางจริงๆ ของรัฐบาลที่จะยุติปัญหาความรุนแรง จะเริ่มต้นอย่างไร เพราะที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่าเหตุการณ์ในพื้นที่รุนแรงขึ้น แม้จะบอกว่ามาถูกทางแล้ว หรือสถิติลดลงก็ตาม รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เราคงพูดตามที่เล่าลือกันไม่ได้ ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน ซึ่งอีกระยะหนึ่งตนจะเอาข้อเท็จจริงมาแถลงให้ทราบเป็นระยะๆ ว่าข้อเท็จจริงนั้นรุนแรงขึ้น หรือเบาบางลงอย่างไร ต้องรายงานผลให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆ จะได้ไม่ต้องลือกัน

**ไม่ขีดเส้นต้องสงบภายในกี่เดือน
เมื่อถามว่าปัญหาในภาคใต้ควรจะเบาลงได้แล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาสักประมาณเท่าใด รองนายกฯ กล่าวว่า คงไม่ไปพูดอย่างนั้น เพราะมีคนพูดกันมามากแล้ว มีคนพูดมาแล้วว่า จะต้องจบภายใน 2 เดือน 3 เดือน 4 เดือน แต่เอาเป็นว่า ทำให้ดีที่สุด และมีเป้าหมายว่าจะทำให้สถานการณ์คืนสู่ความปกติสุขให้ได้
เมื่อถามว่าที่ไม่ขีดเส้นเพราะเกรงว่าปัญหาอาจจะลุกลามขึ้นอีกครั้งหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เลย แต่เพราะคนที่ขีดเส้นนั้นบางทียังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริง หรือสภาพความเป็นจริง เป็นอย่างไร และรับสรุป ขีดเส้นไว้ ทำให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ว่ากี่รัฐบาลผ่านมาก็บอกว่ามาถูกทาง แต่สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้นเลย นายสุเทพ กล่าวว่า สำหรับตนยังไม่เคยพูดว่ามาถูกทาง ตนอาจจะต่างจากรัฐบาลอื่น ดังนั้นผลอาจจะต่างกันก็ได้ แต่ตนพูดได้ว่า เราตั้งใจจะทำให้สถานการณ์คืนกลับสู่ปกติสุขโดยเร็วที่สุด
เมื่อถามว่าอะไรคือจุดเปลี่ยนที่ว่าแตกต่างจากรัฐบาลที่ผ่านๆมา นายสุเทพ กล่าวว่า หลายเรื่องเป็นการสืบเนื่องมาจากรัฐบาลเก่าทำมา แต่บางเรื่องก็ต้องทำขึ้นมาใหม่ เช่น การเน้นการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ ยกระดับรายได้ของประชาชน หรือการตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นมาเป็นชุดพิเศษสำหรับดูแลพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการเฉพาะ ตรงนี้ก็ถือว่าแตกต่างกัน
เมื่อถามว่าจะซ้ำซ้อนหรือไม่ เพราะความจริงใน กอ.รมน. ก็มีหน่วยงานปฏิบัติอยู่แล้ว นายสุเทพ กล่าวว่าหลายฝ่ายคงไม่ได้ศึกษา กอ.รมน.จริงๆ ซึ่งกอ.รมน.นั้นนายกฯ เป็นประธาน และมีผบ.ทบ.เป็นรองประธาน แต่เรื่อง กอ.รมน.กับคณะรัฐมนตรีพัฒนาภาคใต้ คงจะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้คนละส่วนกัน กอ.รมน.นั้นเป็นเรื่องของการปฏิบัติการ ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีพัฒนาภาคใต้ เป็นเรื่องของการกำกับดูแลเรื่องนโยบาย

**ยันจัดตั้งองค์กรแก้ปัญหาโดยเฉพาะ
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาบรรดานักวิชาการ และประชาชนในพื้นที่ พยายามเสนอรูปแบบการบริหารการปกครองแบบพื้นที่พิเศษ รัฐบาลมีแนวคิดนี้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลได้แถลงเป็นนโยบายไว้แล้วว่า จะตราพ.ร.บ. เพื่อจัดตั้งองค์กรถาวรขึ้นมาทำหน้าที่บริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นการเฉพาะ แต่การตราพ.ร.บ.นั้น ก็ต้องดูให้รอบคอบ ต้องระดมสมองของทุกฝ่าย
เมื่อถามว่าหมายถึงองค์กรที่เกิดขึ้นตาม พ.ร.บ.ที่จะตราขึ้นนี้ จะเข้าไปดูแล และสั่งการงานด้านการปกครองในพื้นที่ นายสุเทพ กล่าวว่า สั่งการในเรื่องของการบริหารราชการ เมื่อถามว่าแล้วอย่างนี้โครงสร้างการบริหารท้องถิ่น จะเลื่อมล้ำกันหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า อย่าเพิ่งถามตนตอนนี้เลย ขอให้ร่าง พ.ร.บ.เสร็จมาก่อนแล้วจะได้เห็น

**"ถาวร"ลั่นนายกฯล่องใต้ปลอดภัย
นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวถึงความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี ในการเดินทางลงพื้นที่ชายแดนภาคใต้ว่า ไม่มีการกำชับอะไรกับเจ้าหน้าที่เป็นกรณีพิเศษ เพราะการทำงานที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ผู้นำฝ่ายค้าน ไม่เคยทำอะไรเสียหายกับประชาชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงไม่เกิดความไม่พอใจของคนในพื้นที่แน่นอน เพราะคนใต้ ยังหวังในนโยบายการแก้ปัญหาของรัฐบาล
ส่วนที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ระบุว่า การตั้งครม.พิเศษเพื่อดูแลสถานการณ์ภาคใต้ จะเป็นองค์กรที่ยุ่งยากเกินไป นายถาวร กล่าวว่า หลักการของการตั้ง ครม.พิเศษก็เพื่อจะให้มีผู้มีอำนาจตัดสินใจครอบคลุมถึงการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และความมั่นคง เพราะเมื่อเห็นว่าพื้นที่ควรเป็นเขตพัฒนาเป็นกรณีพิเศษ จึงต้องนำผู้ที่รับผิดชอบเข้ารับรับทราบปัญหาและตัดสินใจ ไม่เช่นนั้นหากนำข้าราชการประจำเข้ามาทำงาน ก็อาจจะไม่มีอำนาจตัดสินใจ และยังต้องไปถามการตัดสินใจจากรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงอีก อาจทำให้การทำงานล่าช้าได้
ส่วนที่นายจาตุรนต์ ระบุว่าทหารไม่พอใจการตั้งองค์กรใหม่เพื่อดูแลแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายถาวร กล่าวว่า ไม่จริง เพราะไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใด ก็มีหน้าที่ที่จะนำนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและขั้นตอนการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้น อย่ากังวลไป
กำลังโหลดความคิดเห็น