xs
xsm
sm
md
lg

ตร.สัมมนาปัญหา"7 ตุลาฯ"ปลุกใช้สิทธิถอดถอนปปช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-นายกสมาคมตำรวจยอมรับ จัดสัมนาเพื่อเป็นเวทีสาธารณะให้ตำรวจแสดงความคิดเห็น และถกปัญหา 7 ตุลาเลือด ยอมรับมีตำรวจคิดล่าชื่อไล่ป.ป.ช. ระบุถือเป็นสิทธิทำได้ ด้านโฆษกตร.โบ้ยถาม "อำนวย"โดยตรง ชี้สื่ออย่ามองให้มีนัยแอบแฝง "สุชาติ"เผยมีการเตรียมการถอดถอนป.ป.ช.จริง
วานนี้ (15 ม.ค.)พล.ต.อ.วิสุทธิ์ กิตติวัฒน์ นายกสมาคมตำรวจ เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์การจัดสัมนาวิชาการ เรื่อง "องค์กรตามรัฐธรรมนูญกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ" ในวันที่19 ม.ค.นี้ว่า วัตถุประสงค์งานสัมมนาที่จัดขึ้นมองว่าจากเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม 2551 ตำรวจตกเป็นจำเลยของสังคม ตนในฐานะที่เป็นนายกสมาคมตำรวจ มีหน้าที่ในการดูแลสิทธิประโยชน์ของตำรวจ เพราะหลังเหตุการณ์ดังกล่าวตำรวจหลายคนเล่าปัญหาให้ฟังว่า ถูกโจมตีในการทำหน้าที่ ทั้งที่ความจริงตนเห็นการทำงานตำรวจที่ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาจากต่างจังหวัดเนื่องจากต้องมาพักที่สโมสรตำรวจ ทุกคนบอก ว่า หวาดกลัวเพราะมีเพียงโล่ห์ที่ใช้ป้องกันตัว ไปเยี่ยมตำรวจที่บาดเจ็บก็สงสาร เพราะไม่ค่อยมีใครมาดูแล จึงจัดการสัมมนาครั้งนี้ เพื่อเป็นเวทีสาธารณะสำหรับตำรวจให้แสดงวความคิดเห็น และถกปัญหาเหล่านี้หาทางแก้ไขร่วมกับฝ่ายอื่นๆ
ส่วนกรณีที่มีข่าวออกมาว่าจะมีการใช้งานสัมมนาครั้งนี้แอบแฝง เพื่อล่ารายชื่อตำรวจในการยื่นถอดถอนป.ป.ช. นั้นพล.ต.อ.วิสุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับผมไม่เคยคิดที่จะทำอย่างนั้น ผมรักอาชีพตำรวจ แต่ก็รักประเทศชาติยิ่งกว่า แต่ก็ได้ยินมาว่ามีตำรวจบางส่วนจะมีการลงรายชื่อในวันนั้น แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะก็เห็นว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะออกมาในรูปแบบใด หากมีคนมาส่งหนังสือให้ลงชื่อก็คงไม่รับ แต่ก็จะรอดูผลการฟังอภิปรายในวันที่ 19 ม.ค.นี้ด้วย ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การสัมมนาครั้งนี้ได้มีหนังสือเชิญให้ตำรวจทุกหน่วยที่สนใจให้เข้าร่วม ซึ่งเป็นหน้าที่ของสมาคมตำรวจอยู่แล้วในการจัดสัมมนาเพื่อพัฒนาองค์กร
ส่วนเรื่องที่สื่อออกมาระบุว่า การสัมนาเป็นการจัดฉากเพื่อล่ารายชื่อในการถอดถอนป.ป.ช.จากการสอบถามดูไม่น่าจะเป็นอย่างข่าวที่ปรากฏ เนื่องจากมีการระบุวัตถุประสงค์การจัดงานอย่างชัดเจน ซึ่งพิจารณาดูแล้ว เป็นความตั้งใจดีของทางสมาคม ไม่อยากให้มองว่ามีประเด็นแอบแฝง
ส่วนกรณีที่ ป.ป.ช.ออกมาชี้มูลความผิดตำรวจนั้น ถือว่าเป็นกระบวนการตามขั้นตอน มีการตรวจสอบการทำงานเป็นเรื่องดี แต่ยังมีขั้นตอนที่สามารถชี้แจงได้ ส่วนการที่ตำรวจจะออกมาเรียกร้องสิทธิของตนเองก็สามารถทำได้ เพราะตำรวจก็เป็นประชาชนทั่วไปมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ หากจะเรียกร้องสิทธิ แต่ก็มีเรื่องวินัยตำรวจที่ควบคุมอยู่ จะทำได้หรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบอีกครั้ง
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ข่าวเรื่องนี้ทาง ตร.เห็นว่าเป็นแค่ข่าวเท่านั้น ยังไม่ปรากฏหลักฐานยังไม่เห็นเอกสารสั่งให้ตำรวจรวบรวมรายชื่อดังกล่าว หนังสือที่ได้รับให้ไปร่วมงานสัมมนา ก็ตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีการให้ดำเนินการอย่างอื่น ซึ่งเรื่องนี้ควรไปถาม พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. โดยตรงจะชัดเจนกว่า
"ส่วนตัวมองว่า สมาคมตำรวจเป็นสมาคมวิชาชีพ มีวัตถุประสงค์ชัดเจน การหยิบประเด็นที่เป็นที่สนใจมาทำการอภิปราย เป็นเรื่องที่ถูกต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของการจัดตั้งสมาคมฯ หากไม่ทำก็จะผิดหลักการ เป็นการทำตามหลักสมาคมทั่วไป อย่างสมาคมสื่อมวลชนก็เช่นเดียวกัน แต่อย่าไปมองว่ามีนัยอะไรแอบแฝง เพราะคนจัดการคงไม่ได้มีวัตถุประสงค์แบบนั้น”
ด้านพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยถึงข่าวการจัดสัมนาเพื่อล่ารายชื่อข้าราชการตำรวจ โดยปฏิเสธว่าไม่ได้จัดสัมมนาล่ารายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อถอดถอน ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน เนื่องจากมีความเห็นว่าทั้ง 9 เป็นผู้ที่มีความเป็นธรรมและเป็นที่เคารพของบุคคลทั่วไปอยู่แล้ว
"ไม่ทำแน่นอน ผมคงไม่ทำอย่างนั้น เพราะจริงๆแล้วทุกคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง แต่ถามว่าจะจัดกระบวนการถอดถอนด้วยเรื่องอะไร ใครเป็นคนทำนั้น ผมไม่ได้ปฏิเสธ แต่ไม่รู้เรื่อง เพราะถ้าถามว่า จะถอดถอนอย่างเดียวจะเป็นไปอย่างไร คณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็คงสู้ไปตามกติกา เพราะล้วนแต่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทั้งนั้น ท่านก็มีกติกาของท่าน ไม่น่าจะมีความไม่เป็นธรรม ส่วนเราถูกกล่าวหาก็ว่ากันไป เมื่อกล่าวหาก็ต้องดำเนินการสอบพยานหลักฐานต่างๆ แจ้งข้อกล่าวหาอย่างไร และจะแก้ข้อกล่าวหาอย่างไร เราก็ว่าไปตามนั้น”
วันเดียวกันนี้ พล.ต.ท.สุชาติ ได้เป็นประธานเปิดการบรรยายในหัวข้อ "แนวทางการปราบปรามละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา" โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมรับฟังการบรรยายตั้งแต่ระดับ สว.- รอง ผกก.จากทุกกองบังคับการ จำนวนกว่า 200 นาย เพื่อเป็นการวางมาตรการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับภาคเอกชน ณ ห้องประชุมใหญ่กองบัญชาการตำรวจ และวางแนวทางในการทำสำนวนการสอบสวนคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เกี่ยวกับคดีละเมิดลิขสิทธิ์ คดีละเมิดเครื่องหมายการค้า และคดีละเมิดสิทธิบัตร รวมถึงการป้องกันปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง เนื่องจากสถิติการจับกุมในปีที่ผ่านมา พบมีการกระทำผิดถึงกว่า 5 พันคดี และมีของกลาง กว่า 5 ล้านชิ้น
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวถึงมาตรการป้องกันปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยพื้นที่ที่มีการกระทำผิดเป็นจำนวนมาก เช่น ย่านคลองถม บ้านหมอ และพันธุ์ทิพย์ พลาซา จะมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจ เข้าไปตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้น พร้อมทั้งจะมีการประเมินผลทุก 3 เดือน ทั้งนี้ หากผลการดำเนินการในพื้นที่ยังพบมีการกระทำผิดผู้บังคับการ แต่ละกองบังคับการ รวมถึง 6 เสือโรงพักต่างก็จะต้องเป็นคนรับผิดชอบ
"ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สืบทราบเครือข่ายที่กระทำผิดแล้ว ซึ่งส่วนมากอยู่ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ในพื้นที่ดำเนินการจับกุมแล้ว และมีอีกหลายสมาพันธ์ได้ให้ข้อมูลมากับทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ดีที่จะนำไปสู่การจับกุมต่อไป”
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวถึงการปราบปรามเว็บไซต์หมิ่นเบื้องสูงว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า มีเว็บไซต์ลักษณะดังกล่าวประมาณ 1,000-1,500 เว็บไซต์ โดยขณะนี้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามดำเนินการจับกุม แต่ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะรับผิดชอบดำเนินคดีเกี่ยวกับคดีหมิ่นเบื้องสูงเท่านั้น ไม่ว่าคดีจะเกิดขึ้นที่ใด ก็จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเข้ามารวมกัน และจากการประชุมขณะนี้ คดีที่ยังไม่มีการฟ้องร้องประมาณ 8 คดี จาก 17 คดี อาทิ คดีของนายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำกลุ่มพิราบขาวนั้นเจ้าหน้าที่ก็เร่งจับกุมอย่างเต็มที่ และคาดว่าขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น