xs
xsm
sm
md
lg

ออฟฟิศเมทลดเงื่อนไขเข้มลุยเว๊บขายสินค้าไลฟ์สไตล์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ออฟฟิศเมทหวั่นปีนี้ตลาดอุปกรณ์สำนักงานนิ่ง หันเปิดธุรกิจใหม่ ขายสินค้าไลฟ์สไตล์ผ่านเว๊บไซต์ใหม่ ขณะที่ธุรกิจเดิมเพิ่มสัดส่วนราชการ เหตุเอกชนมีปัญหามากจากเศรษฐกิจแย่ เพิ่มเฮาส์แบรนด์ ลดเงื่อนไขซื้อแค่ 800 บาทส่งฟรีทั่วประเทศ จากเดิม 4,000 บาท

นายวรวุฒิ อุ่นใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจออฟฟิศซัปพลายผ่านระบบแคตตาล็อกและอินเทอร์เน็ต เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯได้ขยายธุรกิจด้วยการเปิดเว๊บไซต์ “trendyday.com” (เทรนด์ดี้เดย์ดอทคอม) เพือ่อจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ ผ่านระบอีคอมเมิร์ซ เช่น เครื่องสำอาง หนังสือ สื่อบันเทิง ของเด็กเล่น เป็นต้น รวมประมาณ 2,000 เอสเคยูในเบื้องต้น จะเริ่มเป็นทางการที่ 1 ก.พ.ศกนี้
“เราทำตรงนี้ไม่ต้องลงทุนอะไรมากและไม่เสี่ยง เพราะเราต่อยอดจากฐานธุรกิจเดิมอยู่แล้วที่เราทำขายสินค้าอุปกรณ์สำนักงานผ่านระบบแคตตาล็อก มีรถส่งสินค้า 80 คัน มีคลังสินค้า รู้จักเส้นทาง และมีฐานรายชื่อลูกค้าอยู่แล้ว มีอินฟราสตรัคเจอร์พร้อมทุกอย่าง ราคาสินค้าถูกกว่าทั่วไป 20% ขั้นต่ำลูกค้าต้องสั่งซื้อ 800 บาทขึ้นไปจัดส่งให้ฟรี จับกลุ่มเป้าหมายหลักอายุ 18-35 ปี โดยสามารถชำระเงินผ่านมือถือได้
สำหรับธุรกิจหลักอย่างออฟฟิศเมทนั้นไปได้ดีเพราะตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโตกว่า 25% คาดว่าปีนี้โต 35% ในภาพรวม โดยปีนี้เน้นตลาดภาคราชการเพราะรัฐบาลมีงบประมาณให้มากขึ้น ขณะที่ภาคเอกชนนั้นได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจทำให้ตลาดหายไปมาก คาดว่าสัดส่วนยอดขายปีนี้จะมาจากราชการ 15-20% จากเดิมมี 5% และจากเอกชนเหลือ 80% จากเดิม 95% รวมทั้งเน้นตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้เพียง 10% เท่านั้น
รวมทั้งการปรับลดจำนวนการซื้อเหลือ 800 บาทต่อบิลก็จะจัดส่งให้ฟรีทั่วประเทศ จากเดิมที่ต้องสั่งซื้อสูงถึง 4,000 บาท เพื่อให้สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจที่กำลังซื้อตกลง เริ่มวันที่ 1 เมษายนศกนี้ ส่วนในกรุงเทพฯขั้นต่ำสั่งซื้อ 500 บาทจัดส่งฟรี
นอกจากนั้นยังร่วมมือกับทางเอ็มเปย์ในการพัฒนาระบบการชำระเงินผ่านมือถือ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าและสร้างความมั่นใจรวมทั้งกระตุ้นให้ตลาดเติบโตด้วย ซึ่งจะมีความปลอดภัยมากกว่าการชำระผ่านทางอินเทอร์เน็ต
ส่วนสินค้าจะเพิ่มอีก 20% จากจำนวน 10,000 เอสเคยูในสต๊อค จากทั้งหมด 8 กลุ่มหลัก รวมทั้งเฮาส์แบรนด์ด้วยซึ่งมีจำนวน 15% และสัดส่วนรายได้ 15% และมีราคาต่ำกว่า 20% จากแบรนด์เนมทั่วไป พร้อมทั้งการเพิ่มเฮาส์แบรนด์ พิมพ์แคตตาล็อกจำนวน 2 แสนเล่ม ล่าสุดเพิ่มเป็น 660 หน้าจากเดิม 600 หน้า และมีลูกเล่นเป็นแคตตาล็อก 3 มิติด้วย และมีฐานลูกค้าองค์กรกว่า 70,000 บัญชี โดยตั้งงบการตลาดไว้ที่ 50 ล้านบาท
นายวรวุฒิกล่าวว่า ตลาดอุปกรณ์สำนักงานปีนี้คาดว่าไม่เติบโต หรือโตน้อยมาก ขณะที่ปีที่แล้วเติบโต 10% โดยยอดการสั่งซื้อปีที่แล้วเฉลี่อ 3,700 บาทต่อครั้งต่อราย คาดว่าปีนี้อยู่ที่ 3,500 บาทต่อครั้งต่อราย ขณะที่ปี 2549 อยู่ที่ 4,200 บาทต่อครั้งต่อราย ส่วนปี 2550 อยู่ที่ 3,900 บาทต่อครั้งต่อราย
สำหรับผลประกอบการปีที่แล้ว มียอดขาย 970 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ประมาณ 3% แต่เติบโต 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ปี 2552 นี้ตั้งเป้ารายได้ 1,100 ล้านบาท เติบโต 12% ซึ่งปรกติแล้วหากสถานการณ์การเมืองดี เศรษฐกิจดีจะเติบโตเฉลี่ย 30% เพราะช่วง 1-2 ปีนี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจตกต่ำอย่างมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น