รอยเตอร์ - รัฐบาลสหรัฐฯ แถลงในวันพุธ(14) ไม่ให้ราคาแก่เทปเสียงชุดใหม่สุดของอุซามะห์ บินลาดิน ผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ พร้อมระบุว่ามันไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของบารัค โอบามา ซึ่งจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคมนี้
ทั้งนี้หน่วยข่าวกรองเอสไอทีไอซึ่งเฝ้าระวังการก่อการร้ายโดยตรวจสอบทางอินเทอร์เน็ตระบุว่า เทปเสียงล่าสุดของบินลาดินนี้ มุ่งประเด็นไปที่การเรียกร้องให้โลกมุสลิมทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ต่อต้านการที่อิสราเอลรุกรานปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา และกล่าวพาดพิงถึงโอบามาว่า ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ จะได้รับ "มรดกอันหนักหน่วง" ของสงครามการก่อการร้ายอันยาวนานซึ่งอาจจะเปิดแนวรบใหม่ๆ ขึ้นอีก
ทางการสหรัฐฯ แสดงท่าทีเชื่อมั่นว่าบินลาดินและผู้นำระดับสูงของกลุ่มอัลกออิดะห์นั้นอ่อนแอลงอย่างมาก หลังจากถูกแรงกดดันทางการทหารอย่างหนักในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนอัฟกานิสถานและปากีสถาน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว
"ดูเหมือนว่าเทปเสียงชุดนี้บ่งบอกถึงการถูกโดดเดี่ยว แต่ยังพยายามที่จะเกาะติดสถานการณ์ทั้งๆ ที่อุดมการณ์ ปฏิบัติการ และวาระต่างๆ ของอัลกออิดะห์นั้นกำลังถูกตั้งคำถามและถูกท้าทายจากทั่วทุกมุมโลก" กอร์ดอน จอห์นโดร โฆษกทำเนียบขาวกล่าว และบอกอีกว่าฟังดูแล้วเหมือนเป็นการพยายามระดมทุนสนับสนุนด้วย
ภายหลังเหตุการณ์โจมตีสหรัฐฯ วันที่ 11 กันยายน 2001 ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้ประกาศว่าจะล่าตัวบินลาดินให้ได้ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย แต่ผู้นำของอัลกออิดะห์ก็หลบรอดการไล่ล่าของสหรัฐฯ มาได้จนทุกวันนี้
ส่วนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้นคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานในเมืองหลวงของสหรัฐฯ ถึง 1.5 ล้านคนในสัปดาห์หน้าโดยมีการจัดงานเฉลิมฉลองสามวันด้วยกัน
ริชาร์ด โคลโก โฆษกของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) กล่าวว่า เทปเสียงของบินลาดินดังกล่าวไม่ได้บ่งบอกว่าจะเป็นภัยคุกคามต่อพิธีสาบานตนของโอบามา แต่หน่วยข่าวกรองหลายแห่งระบุว่า แม้ความเป็นผู้นำของกลุ่มอัลกออิดะห์จะอ่อนแอลงแล้ว แต่ความมุ่งมั่นที่จะก่อเหตุรุนแรง ก็ยังทำให้กลุ่มก่อการร้ายนี้เป็นอันตราย
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้จัดกำลังตำรวจและทหารหลายหมื่นนายเข้าดูแลเรื่องความปลอดภัยในระหว่างพิธีสาบานตนครั้งนี้ ขณะที่โอบามาก็กล่าวถึงกรณีเทปเสียงของบินลาดินว่า เขาคิดว่ากำลังของผู้นำอัลกออิดะห์อ่อนแอลงมากแล้ว
"แน่นอนว่าผมยังมุ่งมั่นที่จะจับตัวเขามาหรือฆ่าเขาให้ได้ แต่ถ้าหากเราได้กดดันอย่างหนักจนเขาต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำแห่งใดแห่งหนึ่ง และไม่สามารถแม้แต่จะสื่อสารกับกองกำลังของเขาได้ นั่นก็หมายความว่าเราจะบรรลุเป้าหมายของเราในการปกป้องอเมริกา" เขาบอก
บินลาดินได้เผยแพร่เทปเสียงของเขาครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2008 ซึ่งเขาก็ได้มุ่งประเด็นไปที่ฉนวนกาซาเช่นกัน โดยเรียกร้องให้โลกมุสลิมช่วยกันทำลายการปิดล้อมฉนวนกาซาของอิสราเอล ขณะที่หน่วยข่าวกรองหลายแห่งเชื่อว่ากลุ่มอัลกออิดะห์พยายามที่จะเข้าไปสร้างฐานปฏิบัติการของตนในฉนวนกาซา แต่ถูกปฏิเสธจากกลุ่มอิสลามิสต์ฮามาสซึ่งควบคุมพื้นที่ดังกล่าวอยู่
ทั้งนี้หน่วยข่าวกรองเอสไอทีไอซึ่งเฝ้าระวังการก่อการร้ายโดยตรวจสอบทางอินเทอร์เน็ตระบุว่า เทปเสียงล่าสุดของบินลาดินนี้ มุ่งประเด็นไปที่การเรียกร้องให้โลกมุสลิมทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ต่อต้านการที่อิสราเอลรุกรานปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา และกล่าวพาดพิงถึงโอบามาว่า ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ จะได้รับ "มรดกอันหนักหน่วง" ของสงครามการก่อการร้ายอันยาวนานซึ่งอาจจะเปิดแนวรบใหม่ๆ ขึ้นอีก
ทางการสหรัฐฯ แสดงท่าทีเชื่อมั่นว่าบินลาดินและผู้นำระดับสูงของกลุ่มอัลกออิดะห์นั้นอ่อนแอลงอย่างมาก หลังจากถูกแรงกดดันทางการทหารอย่างหนักในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนอัฟกานิสถานและปากีสถาน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว
"ดูเหมือนว่าเทปเสียงชุดนี้บ่งบอกถึงการถูกโดดเดี่ยว แต่ยังพยายามที่จะเกาะติดสถานการณ์ทั้งๆ ที่อุดมการณ์ ปฏิบัติการ และวาระต่างๆ ของอัลกออิดะห์นั้นกำลังถูกตั้งคำถามและถูกท้าทายจากทั่วทุกมุมโลก" กอร์ดอน จอห์นโดร โฆษกทำเนียบขาวกล่าว และบอกอีกว่าฟังดูแล้วเหมือนเป็นการพยายามระดมทุนสนับสนุนด้วย
ภายหลังเหตุการณ์โจมตีสหรัฐฯ วันที่ 11 กันยายน 2001 ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้ประกาศว่าจะล่าตัวบินลาดินให้ได้ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย แต่ผู้นำของอัลกออิดะห์ก็หลบรอดการไล่ล่าของสหรัฐฯ มาได้จนทุกวันนี้
ส่วนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้นคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานในเมืองหลวงของสหรัฐฯ ถึง 1.5 ล้านคนในสัปดาห์หน้าโดยมีการจัดงานเฉลิมฉลองสามวันด้วยกัน
ริชาร์ด โคลโก โฆษกของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) กล่าวว่า เทปเสียงของบินลาดินดังกล่าวไม่ได้บ่งบอกว่าจะเป็นภัยคุกคามต่อพิธีสาบานตนของโอบามา แต่หน่วยข่าวกรองหลายแห่งระบุว่า แม้ความเป็นผู้นำของกลุ่มอัลกออิดะห์จะอ่อนแอลงแล้ว แต่ความมุ่งมั่นที่จะก่อเหตุรุนแรง ก็ยังทำให้กลุ่มก่อการร้ายนี้เป็นอันตราย
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้จัดกำลังตำรวจและทหารหลายหมื่นนายเข้าดูแลเรื่องความปลอดภัยในระหว่างพิธีสาบานตนครั้งนี้ ขณะที่โอบามาก็กล่าวถึงกรณีเทปเสียงของบินลาดินว่า เขาคิดว่ากำลังของผู้นำอัลกออิดะห์อ่อนแอลงมากแล้ว
"แน่นอนว่าผมยังมุ่งมั่นที่จะจับตัวเขามาหรือฆ่าเขาให้ได้ แต่ถ้าหากเราได้กดดันอย่างหนักจนเขาต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำแห่งใดแห่งหนึ่ง และไม่สามารถแม้แต่จะสื่อสารกับกองกำลังของเขาได้ นั่นก็หมายความว่าเราจะบรรลุเป้าหมายของเราในการปกป้องอเมริกา" เขาบอก
บินลาดินได้เผยแพร่เทปเสียงของเขาครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2008 ซึ่งเขาก็ได้มุ่งประเด็นไปที่ฉนวนกาซาเช่นกัน โดยเรียกร้องให้โลกมุสลิมช่วยกันทำลายการปิดล้อมฉนวนกาซาของอิสราเอล ขณะที่หน่วยข่าวกรองหลายแห่งเชื่อว่ากลุ่มอัลกออิดะห์พยายามที่จะเข้าไปสร้างฐานปฏิบัติการของตนในฉนวนกาซา แต่ถูกปฏิเสธจากกลุ่มอิสลามิสต์ฮามาสซึ่งควบคุมพื้นที่ดังกล่าวอยู่
