xs
xsm
sm
md
lg

UNWTOเชื่อท่องเที่ยวเอเชียแปซิฟิกโตแนะไทยวางแผนระยะยาวเน้นยั่งยืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เลขาฯ UNWTO เชื่อท่องเที่ยวไทยไปรอด เหตุประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกจะได้รับผลกระทบน้อย ขณะที่เศรษฐกิจประเทศจีน อินเดีย ยังโตต่อเนื่อง แถมพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยน หันเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคเดียวกันมากขึ้น คาดท่องเที่ยวโกลปีที่ผ่านมาโต 2% แนะให้รัฐบาลไทยมองการแก้ปัญหาในระยะยาว เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน เน้นสร้างงานสร้างรายได้เป็นภูมิคุ้มกันที่ถาวร

วานนี้(14 ม.ค.52) ภายหลังการเข้าพบ นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานายฟรานเซลโก ฟรังจิอาลี เลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลก (UN World Tourism Organization : UNWTO) เปิดเผยว่า จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นและกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่น ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก , ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต่างชาติขาดความเชื่อมั่นที่จะเดินทางมาไทย จึงต้องการให้รัฐบาลไทยจัดทำแผนแก้ไขปัญหาในระยะยาว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อย่าเน้นแต่การแก้ไขปัญหาระยะสั้นอย่างเดียว

นอกจากนี้ ยังต้องการให้รัฐและหน่วยงานทางการท่องเที่ยวไทย ทำแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวไปรูปแบบการอนุรักษ์ และฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้มีความหลายหลาก โดยเฉพาะในด้านชีวภาพ เป็นแนวทางการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ซึ่งถือเป็นจุดขายที่ดีของไทย ขณะเดียวกันยังต้องคำนึงถึงภาวะโลกร้อน ที่จะเข้ามากระทบต่อภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการท่องเที่ยวที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนด้วย ซึ่งในประเด็นนี้ ทางรัฐบาลเยอรมัน จะมีทุนสนับสนุนให้ไทยจำนวนหนึ่ง เพื่อจัดทำโครงการท่องเที่ยวกับการประหยัดพลังงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือในรายละเอียด ของโครงการและวงเงินสนับสนุน โดยจุดที่จะเน้นย้ำในเรื่องของการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ จ.พังงา ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยได้รับผลกระทบจากสึนามิจนพื้นที่ได้รับความเสียหายมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม นาย ฟรังจิอาลี กล่าวว่า มั่นใจไทยและทุกประเทศในเอเชียแปซิฟิก จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกน้อยกว่า ประเทศในแถบยุโรป และอเมริกา ทั้งนี้เพราะจีนซึ่งเป็นประเทศใหญ่ มีจำนวนประชากรมาก ยังมีตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ปีที่ผ่านมาเติบโต 8% และ คาดว่ายังคงเติบโตต่อไปอีกในปี 2552-2553 ทำให้ชาวจีนมีกำลังซื้อ เพียงพอที่จะเดินทางท่องเที่ยว ประกอบกับรัฐบาลจีนก็ให้การสนุนประชากรให้เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่น ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนหนุนให้คนจีนเดินทางออกนอกประเทศมากถึง 40 ล้านคน นอกจากนั้น อินเดีย เกาหลี มาเลเซีย เศรษฐกิจก็เติบโต เช่นกัน

ทั้งนี้มีความเห็นว่า จากภาวะเศรษฐกิจโลกทำให้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปด้วย โดยหันมาเดินทางระยะใกล้ ภายในภูมิภาคเดียวกัน มีการตัดสินใจก่อนการเดินทางเพียงเล็กน้อย ไม่วางแผนการเดินทางแบบระยะยาวเหมือนที่ผ่านมา และ ระยะเฉลี่ยของวันเดินทางก็จะสั้นลง ดังนั้น การที่ประเทศในเอเชียแปซิฟิก ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษบกิจโลก แต่ก็มีความระมัดระวังการใช้เงิน ก็จะทำให้ หันมาเดินทางท่องเที่ยวกันภายในภูมิภาค ดังนั้น หากประเทศใด มีการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวได้ดีก็จะเป็นข้อได้เปรียบประเทศคู่แข่งขัน

"หากไทยสร้างแผนการท่องเที่ยวแบบหลายหลาก ก็จะเป็นภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง ที่สามารถประคองอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้อยู่รอดได้ แม้ภาพรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะเติบโตลดลง โดย อัตราเฉลี่ย 10 เดือนแรก ของปี 2551 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก โตเฉลี่ย 3.7% แต่ภาพรวมทั้งปีน่าจะโตที่ 2% ซึ่งการที่รัฐบาลไทย ออกมาย้ำจุดยืนถึงแนวทาง การพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน การจัดทำโครงการด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืน พร้อมกับสร้างภาพลักษณ์ให้ไทยด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น