xs
xsm
sm
md
lg

พลัง “เครื่องดูดฝุ่น” การเมือง “สีเขียว”!

เผยแพร่:   โดย: ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทุกรัฐบาล มักล้มคว่ำคะมำหงายเพราะตัวเองเสมอ!

พูดตรงไปตรงมาก็คือ รัฐบาล “มาร์ค 1” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หากจะเจ๊ง..ก็เจ๊งเพราะแพ้ภัยตนเอง มิใช่เพราะฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาราชทำให้ล้มครับ

รู้ๆ กันอยู่ว่า..รัฐบาล “มาร์ค 1” คือ การรวมตัวของพรรคการเมืองที่เคยอยู่กับรัฐบาลระบอบทักษิณ โดยลือกันหึ่งทั่วแดนไทยว่า

มีพลัง “เครื่องดูดฝุ่นสีเขียว” ดูดเอานักการเมืองสารพัดพิษ ทั้งกลุ่มเพื่อน “ยี้ห้อย” เนวิน ชิดชอบ ตามด้วยพรรคที่เคยร่วมรัฐบาลทักษิณอื่นๆ ยกขบวนมาร่วมสังฆกรรมกับ “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ แห่ง ปชป.จนเกิดตำนาน “งูเห่า” ยุคดิจิตอลและรัฐบาลพลิกขั้วขึ้นอีกครั้งในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย

กลายเป็น “ความสุขของกะทิ” เมื่อหนุ่มรูปหล่อ มาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทย

การผสมพันธุ์ผิดฤดูกาลของพรรคการเมือง และนักการเมืองเก่าคร่ำสารพัดพิษ เพื่อตั้งรัฐบาล “มาร์ค 1” ในครั้งนี้ จึงเป็นไปแบบหลวมๆ มิได้ทำเพื่อชาติบ้านเมืองจริงดังอ้างกัน จึงมีโอกาสจะแตกและแยกทางกันได้ทุกเมื่อเชื่อวัน

สถานการณ์ที่ ปชป.ต้องพึ่งพิง เสียงจาก ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินกับพรรคร่วมรัฐบาลต่อการอยู่รอดของรัฐบาล “มาร์ค 1” ชนิดขาดเธอ “เนวิน”..เมื่อไหร่ แอ่น..แอ๊น..ฉัน “เทพเทือก” ที่เพลินอยู่บนสวรรค์ เป็นต้องขาดใจตายหล่นตุ๊บลงนรกแบบทันที!

ทำให้ ปชป.แม้นจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ในสภาพความเป็นจริง..ปชป.เป็นไก่รองบ่อนทางการเมือง และด้อยอำนาจต่อรองกับพรรคร่วมรัฐบาลเป็นธรรมด้า..ธรรมดา..

นั่นเป็นเงื่อนไขที่บีบคนของ ปชป.ที่จ้อเก่ง ต้องกลายเป็นพวก “น้ำท่วมปาก” โดยอัตโนมัติ ทั้งนายกฯ อภิสิทธิ์และแกนนำพรรคต้องนั่งทำตาปริบๆ พูดน้อย..และเป็นเด็กดีกับบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลที่หนุนตนอยู่

กระทั่งบางเรื่องบางราวนายกฯ และแกนนำ ปชป.ยังต้องตากหน้าออกมาแก้ต่างและค้ำจุน พฤติกรรมไม่โปร่งใสของพรรคร่วมรัฐบาลอีกด้วย ในขณะที่ภายในรัฐบาล “มาร์ค 1” จะเต็มไปด้วย การตั้งแง่และต่อรองกันแบบสารพัดเรื่อง

ปชป.จึงต้องยอมถวายตำแหน่งรัฐมนตรีสำคัญๆ ประเคนให้พรรคร่วมรัฐบาลอย่างชนิดอยากได้ตำแหน่งใหญ่อะไร..เอาไปได้เล้ย..

แม้นรัฐบาล “มาร์ค 1” จะเข้มแข็งขึ้นจากการเลือกตั้งซ่อมครั้งล่าสุด ในเขตเลือกตั้ง 26 เขต ที่มีตำแหน่ง ส.ส.เป็นเดิมพันถึง 29 คน ปรากฏว่า..พรรคร่วมรัฐบาลตุน ส.ส.เข้ากระเป๋าได้อีก 20 คน ในขณะที่ฝ่ายค้านได้ ส.ส.เพียง 9 คนเท่านั้น

แถมการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อีกครา พรรค ปชป.ที่นำโดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ก็กวาดคะแนนคนกรุงเทพฯ ถึง 934,602 เสียง ทำให้ชนะพรรคเพื่อไทย ที่นำโดยนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ซึ่งได้คะแนนเพียง 611,669 เสียงเท่านั้น

ทำให้คุณชายสุขุมพันธุ์ บริพัตร หรือปชป.ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.อีกตำแหน่งหนึ่ง

เรียกว่าเวทีเลือกตั้งต่างจังหวัดและกทม.ครั้งนี้ สื่อมวลชนต่างพาดหัวข่าวว่า..ฝ่ายค้านพลพรรคทักษิณพ่ายแพ้รัฐบาลอย่างหมดรูป

นับเป็นการส่งสัญญาณจากประชาชนคนไทย ให้ทักษิณและบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลเดิม รวมทั้งพรรคเพื่อไทยและบรรดาพลพรรคเสื้อแดง อันเป็นกองกำลังอันธพาลของทักษิณได้รู้ว่า

ประชาชนคนไทยต้องการให้โอกาสรัฐบาล “มาร์ค 1” บริหารชาติบ้านเมืองฝ่าวิกฤตทุกด้านในห้วงเวลานี้ครับ

อย่างไรก็ตาม..แม้นประชาชนคนไทย จะให้โอกาส “มาร์ค 1” เป็นรัฐบาลบริหารชาติ ทว่า..หากรัฐบาล “มาร์ค 1” ทำอะไรหน่อมแหน้ม ไม่เป็นโล้เป็นพายจนไม่มีผลงานดี-เด่น-ดัง ให้ประทับใจประชาชนคนไทย รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็จะอยู่ยาก..หรืออยู่ไม่ได้นานอย่างแน่นอน

อีกเรื่องที่ดูเหมือนเล็ก แต่จริงๆ ใหญ่และพร้อมเป็นปัจจัยซ่อนเร้น ในการทำลายรัฐบาล “มาร์ค 1” ของปชป. นั่นก็คือ..ยามใดก็ตามที่ ปชป.เป็นรัฐบาล คนของ ปชป.มักยะโสโอหังหลงใหลได้ปลื้ม ระเริงร่ากับการเป็นรัฐบาลจนเกิดอาการลืมตัว กระทั่งบางคนเปลี่ยนจากคนกลายเป็น “วัว” ที่ “ลืมตีน” ไปเลย

ประเด็นนี้..จะทำให้แฟนๆ ที่รัก ปชป.เกิดอาการหมั่นไส้สะสมไปเรื่อยๆ จนในที่สุดจะกลายเป็นหนึ่งในปัจจัย ที่บ่อนเซาะความมั่นคงของรัฐบาล “มาร์ค 1” โดยพลพรรค ปชป.ไม่รู้ตัว..

อีกประเด็นที่รัฐบาล “มาร์ค 1” จะหงายเก๋ง ก็คือ พรรคร่วมรัฐบาลรับประทานหรือ “แด๊กซ์” กันอย่างมูมมาม เพื่อสะสมทุนไว้สู้ศึกเลือกตั้งกับพรรคระบอบทักษิณ จนประชาชนและฝ่ายค้านจับได้ไล่ทันถึงการคอร์รัปชันอันน่าขยะแขยงนั้น

นั่นก็เป็นอีกหนึ่งในสาเหตุ ที่จะทำให้รัฐบาล “มาร์ค 1” ล้มหายตายจากได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

ที่สำคัญ..ขณะนี้อาการตะกละมูมมาม ส่อเค้าลางออกมาให้เห็นแล้วในหลายโครงการ ยิ่งมีการตั้งบุคลากรที่ไม่สะอาดโปร่งใส อย่างนายศรีสุข จันทรางศุ ให้กุมบังเหียนการขยายสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ที่มีเม็ดเงินงบประมาณสูงถึง 73,000 ล้านบาท เป็นต้น

การไม่แยแสความรู้สึกของประชาชนแบบนี้แหล่ะ จะทำให้รัฐบาล “มาร์ค 1” ชกไม่ครบยก เพราะจะถูกฝ่ายตรงข้ามเตะเจาะยาง จนอาจทำให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ล้มทั้งยืนแบบฉับพลันก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ..จริงไหม?

แต่ประเด็นลับๆ ที่รัฐบาล “มาร์ค 1” ต้องระวัง ก็คือ คนบางคนในชุดเขียวที่เป็นเจ้าของ “เครื่องดูดฝุ่นสีเขียว” เขาอยากเป็นนายกรัฐมนตรีน่ะ “มิสเตอร์มาร์ค” และพวกเขาได้แอบตกลงจับมือกับกลุ่มเพื่อนเนวินลับๆ แล้ว โดยการใช้พลัง “เครื่องดูดฝุ่นสีเขียว” ดูดเงินทุน ตามด้วยการดูด ส.ส.มากมายมาเก็บไว้ในพรรค “ภูมิใจไทย” เพื่อเดินทางลัดแบบซื้อตรง-ขายตรงสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไงล่ะครับ

ประเทศไทยตอนนี้..จึงเกิดกลุ่มการเมืองใหญ่ 3 กลุ่ม ที่จะกลายเป็นศึก “สามเส้า” หรือ “สามก๊ก” สัปยุทธ์กันอย่างดุเดือด ในเวทีเลือกตั้งคราวหน้านี้แหละ

เป้าหมายหลักของพรรคภูมิใจไทย จะเน้นใช้ “กระสุนดินดำ” แย่ง ส.ส.ในภาคอีสานกับพลพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก ดังนั้นพรรคของทักษิณจะต้องเผชิญความเหนื่อยหนักกว่าเดิม ในขณะที่ ปชป.ก็ต้องระวังกลเกมการเมือง ที่พรรคภูมิใจไทยมุ่งสร้าง “เจ้าของเครื่องดูดฝุ่นสีเขียว” ให้เป็นนายกรัฐมนตรี

ดังนั้นเกมการผสมพันธุ์ทางการเมือง ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทย ที่โกรธกันในวันนี้..ก็อาจจะดีกันในวันหน้า ด้วยนักการเมืองสไตล์เก่าของไทยที่ถือหลัก “ไม่มีมิตรแท้” และ “ไม่มีศัตรูถาวร” ไงล่ะครับ

หากก๊ก “พลังสีเขียว” กับเพื่อนเนวิน พร้อมรบในสนามเลือกตั้งเมื่อใด แน่นอน..รัฐบาล “อภิสิทธิ์” จะเริ่มง่อนแง่น เกิดปัญหาวุ่นวายในรัฐบาลจน “อภิสิทธิ์” อาจต้อง “ยุบสภาฯ” ครับ

อีกปัจจัยอันตรายและมีโอกาสจะเกิดขึ้น ก็คือ รัฐบาล ปชป.ไม่แยกมิตรแยกอริทางการเมือง ด้วยการแสดงท่าทีไม่ให้เกียรติกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ต่อสู้กับระบอบนายทุนสามานย์ในระบอบทักษิณ ชนิดเอาเลือดเนื้อและชีวิตเข้าแลก จนเป็นต้นเหตุให้รัฐบาลทักษิณ-สมัคร-สมชายต้องล้มครืนลงอย่างต่อเนื่อง

หลังจากนั้นยังเป็นช่องทางให้เจ้าของ “เครื่องดูดฝุ่นสีเขียว” ต้องใช้พลังดูดเอาพรรคร่วมรัฐบาลระบอบทักษิณเปลี่ยนขั้วทางการเมือง หันมาหนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี..จนสามารถตั้งรัฐบาลใหม่ “มาร์ค 1” ได้สำเร็จ

ทีท่า “เกลียดตัวกินไข่” ของรัฐบาล ปชป.จะทำให้มิตรสลายหายไป..และทำมิตรให้กลายเป็นศัตรู ดังนั้น..หากไม่มีการประสานเชื่อมและจัดการปัญหานี้ให้ดี โอกาสบานปลายในทางลบย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ

แต่หากจัดการดี..ประสานดี ร่วมกันสร้างกิจกรรมทางการเมืองดีๆ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ย่อมก่อเกิดประโยชน์ให้กับประเทศชาติและสังคมไทยอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจตรงกันว่า องค์กรพันธมิตรฯ นั้น มิได้เป็นองค์กรของพรรค ปชป.หากแต่เป็นองค์กรภาคพลเมืองที่เป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง ยืนอยู่บนหลักการผลประโยชน์ชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง

ดังนั้น..หากพรรคการเมืองใดทำดี..พันธมิตรฯ ก็จะชื่นชม แต่หากพรรคการเมืองใดกระทำเรื่องไม่ดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พันธมิตรฯ ย่อมต้องวิพากษ์วิจารณ์ ต่อต้าน คัดค้าน กระทั่งสุดท้ายอาจจะออกมาต่อสู้กับอธรรม โดยไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น

สถานการณ์การเมืองดังกล่าว พ่อแม่พี่น้องประชาชนพอมองเห็นจุดร่อแร่-จุดดับ-จุดรอด ของรัฐบาลอภิสิทธิ์แล้วใช่ไหมครับ

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะพลิ้วเอาตัวรอดได้อย่างไรน่ะหรือ?

ทุบโต๊ะเปรี้ยงลงไปได้เลยว่า ตัวนายอภิสิทธิ์เอง..จะต้องใช้ทั้งความเก่ง-กล้าหาญ และใช้ความเป็นนายกรัฐมนตรี สร้างผลงานดี-เด่น-ดังจริงๆ ให้กับชาติบ้านเมือง จนประชาชนยอมรับในความสามารถของนายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงขั้นเป็นขวัญใจชาวไทยให้ได้โดยไวครับ

แน่นอน..การทำผลงานดี-เด่น-ดังจนประทับใจผู้คนในชาติ มิใช่เรื่องง่าย..แต่ก็มิใช่เรื่องทำไม่ได้ การทำงานดีจนเป็นขวัญใจคนไทย จะเป็นอานิสงส์ส่งให้นายกฯ อภิสิทธิ์ และรัฐบาล ปชป.อยู่ได้นานขึ้น และมีโอกาสชนะการเลือกตั้งในครั้งต่อไป

แม้นพรรคเพื่อไทยจะมี นช.ทักษิณ ถือถุงเงินถุงทองคอยจ่าย และพรรคภูมิใจไทยจะมีเจ้าของ “เครื่องดูดฝุ่นสีเขียว” เป็นอีแอบหนุนหลังอยู่ แต่ผมเชื่อว่า..ผลงานดี-เด่น-ดังของ “มิสเตอร์มาร์ค-อภิสิทธิ์” จะนำ ปชป.ฝ่าฟัน “ฝนสีม่วง” ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้อย่างแน่นอน

“เครื่องดูดฝุ่นสีเขียว” อันทรงพลังนั้นน่ะ ดูดไม่ดูตาม้าตาเรือ..ดูดไม่เลือกหน้า ดูดได้แต่พวกนักการเมืองสารพัดพิษเข้าเครื่อง เชื่อเถอะ..เดี๋ยวเครื่องก็พังครับ!!!
กำลังโหลดความคิดเห็น