เอเอฟพี - หน่วยทหารราบของอิสราเอลปะทะกับกองกำลังฮามาสในฉนวนกาซาอย่างดุเดือดในวันจันทร์ (12) ในระหว่างที่อิสราเอลส่งทหารกองหนุนเข้าเสริมกองกำลังภาคพื้นดิน พร้อมกับที่อียิปต์ก็ยังเจรจาหาทางยุติสงครามที่ยืดเยื้อเข้าวันที่ 17 และมีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปกว่า 900 คนแล้ว
ทหารอิสราเอลสู้รบกับนักรบฮามาสทั่วทั้งฉนวนกาซา แต่มีรายงานว่าเหตุรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นทางตอนเหนือของดินแดนปาเลสไตน์แห่งนี้ โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน ในขณะที่กองกำลังฮามาสและกองกำลังพันธมิตรยังคงไม่ยอมจำนนและได้ยิงจรวด 3 ลูกและปืนครกเข้าไปภายในเขตอิสราเอล แต่ไม่ได้ทำให้ผู้ใดผู้บาดเจ็บ
การสู้รบเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมกับที่อิสราเอลได้ส่งกำลังทหารกองหนุนเข้าเสริมปฏิบัติการของกองกำลังภาคพื้นดินที่เข้าไปฉนวนกาซากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว สื่อของอิสราเอลคาดการณ์ว่าการเสริมกำลังดังกล่าวน่าจะเป็นสัญญาณว่าอิสราเอลจะขยายการรุกให้เข้มข้นขึ้น
ส่วนที่อียิปตก็กำลังเตรียมการเปิดเจรจารอบใหม่ระหว่างเจ้าหน้าที่ของตนกับกลุ่มฮามาส อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของนานาชาติเพื่อหาทางยุติสงครามในครั้งนี้ ทว่า เอมอส กิลาด ตัวแทนเจรจาสงบศึกของฝ่ายอิสราเอล ได้เลื่อนกำหนดการเยือนอียิปต์ออกไป ซึ่งสถานีวิทยุอิสราเอลระบุว่าเป็นกลยุทธ์เพื่อกดดันกลุ่มฮามาส
ทั้งนี้ในวันอาทิตย์ เอฮุด โอลเมิร์ต นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้กล่าวในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า "อิสราเอลไม่มีเจตนาที่จะลดแรงกดดันต่อกลุ่มฮามาสแต่อย่างใด"
ด้านอียิปต์ก็บอกว่าอียิปต์ได้จัดการเจรจาในเชิงบวกกับทีมของฮามาส และทางกลุ่มฮามาสก็เห็นด้วยกับ "ความจำเป็นที่จะต้องหยุดการนองเลือดในปาเลสไตน์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
โอซามา ฮัมดัน ผู้แทนของกลุ่มฮามาสในเลบานอน กล่าวกับสถานีโทรทัศน์อัลญะซีรอห์หลังจากการเจรจาว่า "มีความคืบหน้าในการเจรจาบางประเด็น เราปฏิเสธรายละเอียดบางส่วนของข้อเสนอนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมด"
ทั้งนี้ การเจรจาที่กรุงไคโรมีประเด็นสำคัญที่ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค แห่งอียิปต์เป็นผู้เสนอ 3 ประเด็นด้วยกัน คือ หนึ่ง ให้มีการหยุดยิงในทันทีเพื่อเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในฉนวนกาซาได้ สอง ให้มีการเจรจาเรื่องการเปิดจุดผ่านแดนของกาซาและดำเนินการเพื่อป้องกันการลักลอบขนอาวุธ และสาม ดำเนินการเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ในปาเลสไตน์ครั้งใหม่
ในวันอาทิตย์ (11) อียิปต์ได้เพิ่มแรงกดดันต่ออิสราเอลโดยได้แจ้งต่อเอกอัครราชทูตว่าอิสราเอลจะต้องปฏิบัติตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อสัปดาห์ก่อน และเปิดเส้นทางให้นำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปบรรเทาทุกข์ในพื้นที่สู้รบด้วย
ทว่าทั้งอิสราเอลและกลุ่มฮามาสต่างก็เมินเฉยต่อมติให้หยุดยิงทันที ถึงแม้อิสราเอลกล่าวในวันอาทิตย์เช่นกันว่า สงครามในฉนวนกาซาจวนจะถึงจุดยุติแล้ว
"มติของคณะมนตรีความมั่นคงไม่ได้เปิดทางให้เรามากเท่าไร" มาตัน วิลนาอิ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมกล่าว "แต่ก็ดูเหมือนว่าเรากำลังจะยุติปฏิบัติการภาคพื้นดิน และปฏิบัติการอื่นๆ ทั้งหมดได้แล้ว"
ก่อนหน้านี้ โอลเมิร์ตก็บอกเช่นกันว่าอิสราเอลใกล้จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้แล้ว แต่การสู้รบจะยังคงดำเนินต่อไปอีก
นับตั้งแต่อิสราเอลเปิดฉากถล่มกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม เป็นต้นมา มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 905 คน เป็นเด็กอย่างน้อย 277 คน และมีผู้บาดเจ็บราว 3,950 ราย ชาวเมืองกาซานับล้านต้องอยู่ในภาวะไม่มีไฟฟ้าใช้ และ 750,000 คนขาดแคลนน้ำสะอาด ส่วนฝ่ายอิสราเอลมีทหารเสียชีวิตไป 10 นาย พลเรือน 3 คน โดยฝ่ายปาเลสไตน์นั้นได้ยิงจรวดเข้าไปในอิสราเอลราว 700 ลูก
ทหารอิสราเอลสู้รบกับนักรบฮามาสทั่วทั้งฉนวนกาซา แต่มีรายงานว่าเหตุรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นทางตอนเหนือของดินแดนปาเลสไตน์แห่งนี้ โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน ในขณะที่กองกำลังฮามาสและกองกำลังพันธมิตรยังคงไม่ยอมจำนนและได้ยิงจรวด 3 ลูกและปืนครกเข้าไปภายในเขตอิสราเอล แต่ไม่ได้ทำให้ผู้ใดผู้บาดเจ็บ
การสู้รบเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมกับที่อิสราเอลได้ส่งกำลังทหารกองหนุนเข้าเสริมปฏิบัติการของกองกำลังภาคพื้นดินที่เข้าไปฉนวนกาซากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว สื่อของอิสราเอลคาดการณ์ว่าการเสริมกำลังดังกล่าวน่าจะเป็นสัญญาณว่าอิสราเอลจะขยายการรุกให้เข้มข้นขึ้น
ส่วนที่อียิปตก็กำลังเตรียมการเปิดเจรจารอบใหม่ระหว่างเจ้าหน้าที่ของตนกับกลุ่มฮามาส อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของนานาชาติเพื่อหาทางยุติสงครามในครั้งนี้ ทว่า เอมอส กิลาด ตัวแทนเจรจาสงบศึกของฝ่ายอิสราเอล ได้เลื่อนกำหนดการเยือนอียิปต์ออกไป ซึ่งสถานีวิทยุอิสราเอลระบุว่าเป็นกลยุทธ์เพื่อกดดันกลุ่มฮามาส
ทั้งนี้ในวันอาทิตย์ เอฮุด โอลเมิร์ต นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้กล่าวในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า "อิสราเอลไม่มีเจตนาที่จะลดแรงกดดันต่อกลุ่มฮามาสแต่อย่างใด"
ด้านอียิปต์ก็บอกว่าอียิปต์ได้จัดการเจรจาในเชิงบวกกับทีมของฮามาส และทางกลุ่มฮามาสก็เห็นด้วยกับ "ความจำเป็นที่จะต้องหยุดการนองเลือดในปาเลสไตน์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
โอซามา ฮัมดัน ผู้แทนของกลุ่มฮามาสในเลบานอน กล่าวกับสถานีโทรทัศน์อัลญะซีรอห์หลังจากการเจรจาว่า "มีความคืบหน้าในการเจรจาบางประเด็น เราปฏิเสธรายละเอียดบางส่วนของข้อเสนอนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมด"
ทั้งนี้ การเจรจาที่กรุงไคโรมีประเด็นสำคัญที่ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค แห่งอียิปต์เป็นผู้เสนอ 3 ประเด็นด้วยกัน คือ หนึ่ง ให้มีการหยุดยิงในทันทีเพื่อเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในฉนวนกาซาได้ สอง ให้มีการเจรจาเรื่องการเปิดจุดผ่านแดนของกาซาและดำเนินการเพื่อป้องกันการลักลอบขนอาวุธ และสาม ดำเนินการเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ในปาเลสไตน์ครั้งใหม่
ในวันอาทิตย์ (11) อียิปต์ได้เพิ่มแรงกดดันต่ออิสราเอลโดยได้แจ้งต่อเอกอัครราชทูตว่าอิสราเอลจะต้องปฏิบัติตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อสัปดาห์ก่อน และเปิดเส้นทางให้นำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปบรรเทาทุกข์ในพื้นที่สู้รบด้วย
ทว่าทั้งอิสราเอลและกลุ่มฮามาสต่างก็เมินเฉยต่อมติให้หยุดยิงทันที ถึงแม้อิสราเอลกล่าวในวันอาทิตย์เช่นกันว่า สงครามในฉนวนกาซาจวนจะถึงจุดยุติแล้ว
"มติของคณะมนตรีความมั่นคงไม่ได้เปิดทางให้เรามากเท่าไร" มาตัน วิลนาอิ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมกล่าว "แต่ก็ดูเหมือนว่าเรากำลังจะยุติปฏิบัติการภาคพื้นดิน และปฏิบัติการอื่นๆ ทั้งหมดได้แล้ว"
ก่อนหน้านี้ โอลเมิร์ตก็บอกเช่นกันว่าอิสราเอลใกล้จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้แล้ว แต่การสู้รบจะยังคงดำเนินต่อไปอีก
นับตั้งแต่อิสราเอลเปิดฉากถล่มกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม เป็นต้นมา มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 905 คน เป็นเด็กอย่างน้อย 277 คน และมีผู้บาดเจ็บราว 3,950 ราย ชาวเมืองกาซานับล้านต้องอยู่ในภาวะไม่มีไฟฟ้าใช้ และ 750,000 คนขาดแคลนน้ำสะอาด ส่วนฝ่ายอิสราเอลมีทหารเสียชีวิตไป 10 นาย พลเรือน 3 คน โดยฝ่ายปาเลสไตน์นั้นได้ยิงจรวดเข้าไปในอิสราเอลราว 700 ลูก
