ปตท.สวมบทพระเอกได้แค่ 1 วัน ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีก เบนซิน-ดีเซล 60 สตางค์/ลิตร มีผล 05.00 น. วันที่ 8 ม.ค.นี้ ผู้บริหาร ระบุ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในระยะสั้น ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลต่อการปรับขึ้นราคาน้ำมันในประเทศ
วันนี้ (07 มกราคม 2552) นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิด ทั้งเบนซิน และดีเซล 60 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้นแก๊สโซฮอล์ E85 โดยให้มีผล 05.00 น.พรุ่งนี้
ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E 85 พลัส) อยู่ที่ 18.89 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E 20 พลัส) อยู่ที่ 15.59 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) อยู่ที่ 16.89 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) อยู่ที่ 16.09 บาทต่อลิตร น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) อยู่ที่ 21.39 บาทต่อลิตร น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) อยู่ที่ 17.44 บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) อยู่ที่ 18.94 บาทต่อลิตร
ผู้บริหาร ปตท.กล่าวถึงราคาน้ำมันในตลาดโลก วันนี้ (7 ม.ค.) ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 48.48 ดอลลาร์สหรัฐฯ (สูงขึ้น 11.74 ดอลลาร์) น้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ เบนซินขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50.33 ดอลลาร์สหรัฐฯ (สูงขึ้น 11.46 ดอลลาร์) และดีเซลขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 64.81 ดอลาร์สหรัฐฯ (สูงขึ้น 10.12 ดอลลาร์)
สาเหตุที่ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น เป็นผลจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ที่ยืดเยื้อมากว่า 2 สัปดาห์ และล่าสุด ทวีความรุนแรงขึ้น โดยอิสราเอลส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้ากวาดล้างกลุ่มฮามาส ประกอบกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย มีความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้น เช่น เวียดนาม และ อินโดนีเซีย ขณะที่ผู้ประกอบการกลั่นรายใหญ่ เช่น จีน และ ญี่ปุ่น ได้ลดอัตราการกลั่นน้ำมันลง พร้อมคาดว่า ในระยะสั้นนี้ราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในภาวะผันผวนต่อไป