xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ฮึมเสื้อแดงป่วนหาเสียงส่อผิดกม.อาญา-กม.เลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุเมธ อุปนิสากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการมีส่วนร่วม แสดงความเป็นห่วงต่อการที่ กลุ่มคนเสื้อแดงที่ไปขัดขวางและโห่ไล่การหาเสียงของ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะกรณีของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ว่า เรื่องดังกล่าว ไม่ได้เขียนโทษของการขัดขวางการเลือกตั้งไว้ชัดเจน แต่อาจเข้าข่ายกฎหมายอาญาได้ หรือถ้ามีการข่มขู่และมีการร้องเรียนเข้ามาก็ต้องฟังว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่ง กกต.เคยวินิจฉัยไว้ว่า การข่มขู่อาจจะทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมได้ แต่ทั้งนี้ก็มีข้อห้ามว่า ถ้าการข่มขู่นั้นไม่เกี่ยวกับผู้สมัครคนใดก็น่าจะไม่เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งจะเป็นความผิดอาญาไป
ถ้าไม่เกี่ยวกับผู้สมัครแล้วไปข่มขู่อย่างนั้นก็เป็นความผิดอาญา ต้องไปแจ้งความ แต่ถ้าพบว่ามีพรรคการเมืองหรือนักการเมืองคู่แข่ง เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็อาจมีปัญหาว่าทำให้เกิดความไม่ยุติธรรม การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ก็อาจต้องมีการเลือกตั้งใหม่ได้ เพราะตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และส.ว. มาตรา 53 (5) บัญญัติว่า ห้ามมีการหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองใด โดยกรณีดังกล่าวถ้ามีการกระทำการข่มขู่ผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง หรือเกี่ยวข้องทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ก็อาจเข้าข่ายกฎหมายดังกล่าวได้
นายสุเมธ กล่าวว่า สำหรับการพูดจาใส่ร้ายป้ายสีให้เสียคะแนนนิยมนั้น ในกฎหมายเขียนไว้ถ้าเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมก็เข้าข่ายได้ แต่ต้องฟังข้อเท็จจริงก่อนว่าจะมีความผิดหรือไม่ผิดอย่างไร ทั้งนี้ ต้องดูที่ กกต.จังหวัดด้วยว่า มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาหรือไม่
นายสุเมธ กล่าวด้วยว่า คงไม่สามารถมีคำเตือนอะไรไปยังกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะกรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของบ้านเมืองที่ต้องดูแล โดยการแสดงออกสามารถ ทำได้แต่ถ้าผิดกฎหมายก็ต้องจับ หากจะอ้างว่าคนอื่นทำได้ เราก็ทำได้อย่างนี้ ก็ไม่ถูกต้อง และหากมีผู้ร้องเข้ามาก็ต้องฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่มี ซึ่งผู้ที่ถูกกระทำน่าจะร้องเรียนเข้ามาเพื่อสอบข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตามยังรู้สึกเป็นห่วงวันเลือกตั้งว่าอาจจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงไปรวมตัวที่หน้าหน่วยเลือกตั้ง ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในช่วงวันเลือกตั้งล่วงหน้ามาแล้ว รวมทั้งการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจมีผลให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิน้อย และมีปัญหาเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากมีผู้ใดฝ่าฝืน ตามมาตรา 53 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พ.ศ.2550 ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาทและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกำหนด 10 ปี

ศอกกลับผู้ว่าฯจะไปไม่ต้องบอกล่วงหน้า
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่างถึงกรณีที่ คนในรัฐบาลขู่จะล้างบางอำนาจเก่าจากเหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงก่อความวุ่นวาย โดยเจ้าหน้าที่รัฐทำอะไรไม่ได้ว่า ตนได้บอกแล้วว่า ไม่ควร ตำหนิผู้ว่าราชการจังหวัด และ ผบก.จังหวัด เพราะเขาคงไม่อยากให้เกิดเหตุนี้ เพียงแต่ว่าคนที่เขาเตรียม สร้างสถานการณ์ได้เตรียมตัวมาแล้ว ใครจะไปคุมก็คงคุมได้ในระดับหนึ่ง เพราะการแสดงออกคงต้องมีเพียงแต่ว่าการดูแลบ้านเมืองนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายใด ที่จะต้องไปบอก ถ้าใครจะไปเชียงใหม่ ลำปาง หรือลำพูน หรือจุดไหนก็ตามก็ไม่จำเป็น ต้องไปบอกผู้ว่าฯ ถึงจะคุ้มครอง ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ทั้งนี้เวลาเกิดเรื่องขึ้นมาไม่ใช่ว่าจะไปตำหนิบุคคลเหล่านั้นเพราะฝ่ายบ้านเมืองก็มีหน้าที่ดูแลความสงบแม้จะไม่มีใครบอกก็มีหน้าที่ต้องดูและอยู่แล้ว เหตุเกิดแล้วจะไปโทษผู้ว่าฯ ผู้การฯ ไม่ดีคงไม่ได้ เพราะเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องความผิดพลาด

เชื่อผู้สมัครส.ส.ปชป.ได้คะแนนสงสาร
ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่กลุ่มเสื้อแดงออกมาตามขับไล่คณะของพรรคประชาธิปัตย์ที่ช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมมีผลทำให้คะแนนตีกลับมาเลือกผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้นหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ไม่สามารถประเมินได้ เพราะที่จริงผู้สมัคร ของเราก็อ่อนแต่ถือว่าเป็นผู้น่าชื่นชมเนื่องจากผูกพันกับพรรคมานาน ไม่มีความ เปลี่ยนแปลงไม่ว่ากระแสพรรคจะขึ้นหรือลง ฉะนั้นพวกตนก็ต้องลงไปช่วยเพื่อให้กำลังใจให้เขาสู้ต่อไป ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับ ซึ่ง การหาเสียงเป็นวิธีเดียว ที่เราจะสู้คู่แข่งได้ เพราะเราไม่มีนโยบายซื้อเสียง
ส่วนจะทำให้พรรคได้คะแนนสงสารมากขึ้นหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า อยู่ที่ชาวบ้าน แต่คิดว่าการกระทำที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อชาวบ้านเพราะคนส่วนใหญ่ ไม่ชอบวิธีการรุนแรงสกปรก ซึ่งพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าศึกษาเพราะเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติเหมือนไม่ใช่คน เหมือนถูกปล่อยออกมาจากคอกมีอาการ กราดเกรี้ยว ก้าวร้าวขนาดนักเลงบ้านนอกตีกันยังไม่ถึงขนาดนี้
นายชวน ยังกล่าวถึงการหวังผลในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ว่า พรรคหวังว่าที่เราส่งไปทั้งหมด 9 คนก็คงจะได้มาบ้าง

กำชับผู้ว่าฯดูม็อบหวั่นซ้ำรอยชวน
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย(มท.1)กล่าวระหว่างมอบนโยบาย ต่อผู้บริหารระดับสูงในสังกัดกระทรวงมหาดไทยว่า ต้องทำให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ โดยทุกคนต้องอยู่ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย ถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด ไม่มีข้อยกเว้น และไม่ยอมให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายเด็ดขาด ซึ่งภายในจังหวัด ต้องหาวิธีเจรจาเพื่อให้เกิดความเข้าใจ โดยใช้มาตรการที่นุ่มนวล มีเหตุมีผล และเมื่อมีบุคคลสำคัญของประเทศไปเยือนจังหวัด ต้องถือว่าผู้ว่าฯคือผู้ที่รับผิดชอบสถานการณ์ และต้องให้การรักษาความปลอดภัยอย่างดีที่สุด ตนขออย่าให้มีเหตุการณ์อย่างที่เกิดขึ้นกับนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีในการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา

"เพื่อแม้ว"แจ้งจับเสื้อแดงบุรีรัมย์
วานนี้ (8 ม.ค.) เวลา 10.30 น.นายจำรัส เวียงสงค์ ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 2 หมายเลข 3 พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ทองดี วิชชุเมธาลักษณ์ สารวัตรเวร สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มชายฉกรรจ์เสื้อแดง 200 คน ที่ก่อความวุ่นวายในการปราศรัยหาเสียง ด้วยการขว้างปาก้อนหิน ขวดน้ำ และไข่เน่า ใส่เวทีปราศรัยหาเสียง เมื่อค่ำวันที่ 7 ม.ค.ที่สนามโรงเรียนเมืองตลุง พิทยาสรรพ์ อ.ประโคนชัยที่ผ่านมา ทำให้การปราศรัยต้องยกเลิกทันที
นายจำรัส กล่าวว่า ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่ม นปช.กำลังปราศรัยบนเวทีได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อมีกลุ่มคนเสื้อแดงที่นั่งฟังอยู่ประมาณ 200 คนลุกขึ้นยืนตะโกนด่าทอนายจตุพร ด้วยถ้อยคำรุนแรง ก่อนจะพากันขว้างปาก้อนหิน ขวดน้ำ และไข่เน่า ขึ้นไปบนเวทีตรงที่นายจตุพร กำลังปราศรัย ทำให้คนที่อยู่บนเวที ประกอบด้วยนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช., นายโสภณ เพชรสว่าง อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ และตน นายจำรัส เวียงสงค์ ต่างพากันหลบอย่างจ้าละหวั่นโดยพยายามเอาเก้าอี้มาปิดบังศีรษะไว้ก่อนจะหลบลงมาข้างหลังเวที โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
นายจำรัส กล่าวว่า เชื่อว่ามีการจัดตั้งให้กลุ่มดังกล่าวใส่เสื้อแดง มาป่วนเวทีปราศรัยหาเสียงของตน ตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นกลุ่มประมาณ 100-200 คน จนกระทั่งเย็นเริ่มทยอยเดินทางเข้าสู่หน้าเวทีปราศรัย มีการพูดจายุแหย่ ข่มขู่ชาวบ้านที่นั่งฟัง บางรายมีอาการมึนเมาสุรา ถือขวดน้ำ และพยายามกีดกันไม่ให้ชาวบ้านบางส่วนเข้าฟังการปราศรัย
ผมมาแจ้งความครั้งนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การกระทำของกลุ่มตนตนเอง เชื่อว่าการกระทำดังกล่าวน่าจะมีกลุ่มการเมืองหนุนหลังแน่นอน ทราบว่าชายฉกรรจ์เสื้อแดงดังกล่าวส่วนใหญ่มาจาก อ.ชำนิ และ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ผมไม่รู้สึกหวั่นไหว จะเดินหน้าหาเสียงสู้ต่อไป ซึ่งทั้ง นายจตุพร และ นายณัฐวุฒิ ต่างก็ไม่หวั่นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ให้กำลังใจตลอด บ้านเมืองบุรีรัมย์เราคนดีมีเยอะ คนเลวน้อย เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคุ้มครองคนดี
ขณะที่ พล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์ ผบก.บุรีรัมย์ ได้สั่งให้ตำรวจ สภ.ประโคนชัย ดำเนินคดีกับเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐาน ซึ่งขณะเกิดเหตุทางตำรวจได้จัดกำลังเข้าระงับเหตุ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์รุนแรงบานปลาย จนเหตุการณ์สงบลงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

จตุพรโวยลั่นพวกจัดตั้งปาไข่
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ถูกกลุ่มเสื้อแดงขว้างปาไข่เข้าใส่ระหว่างการปราศรัยที่โรงเรียนเมืองตลุงพิทยาสรรพ์ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนและนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ไปช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นจุด สุดท้ายในภาคอีสาน โดยระหว่างที่กำลังปราศรัยอยู่นั้น ตนสังเหตุเห็นความผิดปกติ ของกลุ่มประชาชนที่มาฟังการปราศรัย เนื่องจากมีชายสวมเสื้อสีแดงประมาณ 200 คนซึ่งนั่งกระจายกันอยู่นั้นมีการดื่มเหล้าและไม่สนใจฟังการปราศรัยของพวกตนเลย ซึ่งเมื่อตนขึ้นปราศรัยก็มีการตะโกนโวยวายและขว้างปาสิ่งของ เช่น ไข่ และขวดน้ำ ขึ้นมาบนเวทีทันที และมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังการปราศรัยนั้นตนได้สอบถามไปยังนายโสภณ เพชรสว่าง อดีตส.ส.บุรีรัมย์ พรรคไทยรักไทยเดิม สมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งดูแลพื้นที่ดังกล่าว จึงทราบว่า ประชาชนกลุ่มดังกล่าวมาจาก อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่นอกเขตเลือกตั้ง จึงขอตั้งข้อสังเกตุว่าคนกลุ่มนี้ถูกจัดตั้งจากกลุ่มการเมืองเพื่อให้เดินทางมาขัดขวางการปราศรัย รวมทั้งพยายามที่จะสื่อให้เห็นว่า กลุ่มคนเสื้อแดงต่อต้านตนและนายณัฐวุฒิ
กรณีนี้ที่มีคนสวมเสื้อแดงแล้วอ้างว่าเป็นเสื้อแดงของจริง มาขว้างปาของ ใส่ผมและนายณัฐวุฒินั้น ขอฝากขอบคุณนายเนวิน (ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน) และนายทรงศักดิ์ (ทองศรี แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน) พูดแค่นี้นายเนวินและนายทรงศักดิ์ก็น่าจะรู้ตัวแล้ว เพราะการมาฟังปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดงครั้งนี้มีความผิดปกติ เพราะมาจากต่างอำเภอ นอกเขตเลือกตั้ง และพยายามยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ขอบอกว่า เราจะไม่หวั่นไหว เพราะเป็นแค่วิธีตื้นๆจากคนบ้องตื้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ใหม่หลังจากนี้หรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ต่อให้มีการจัดตั้งขึ้นมาอีก โดยเอาคนมาใส่เสื้อสีแดงแล้วอ้างว่าเป็นเสื้อแดง ของจริง เราก็เชื่อว่าประชาชนจะแยกออก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์อะไร เพราะคนเสื้อแดงแค่เห็นหน้าก็รู้ว่าใครเป็นใคร

ณัฐวุฒิบอกให้ต้ำไข่สุกก่อนปา
ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่จ.บุรีรัมย์เมื่อวานนี้(7 ม.ค.) เป็นเหตุการณ์ที่ชัดเจนว่า มีนักการเมืองเข้ามาจัดตั้งกลุ่มชายเสื้อแดงให้มาขว้างปา สิ่งของในระหว่างที่มีการปราศรัย เพื่อขัดขวางไม่ให้การปราศรัยดำเนินต่อไปได้ เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อคู่แข่งจากพรรคอื่นๆ ในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจากนี้ เมื่อประชาชนเสื้อแดงของจริงเห็นภาพดังกล่าวจะเกิดเป็นพลังและออกมาร่วมกันต่อสู้ รวมทั้งให้การต้อนรับกลุ่มเสื้อแดงที่จัดตั้งมาอย่างสามสม ในระหว่างที่พวกตน ไปปราศรัยในพื้นที่ต่างๆ เราจึงไม่จำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์หรือกังวลอะไร หรือไปฟันธงว่ากลุ่มเพื่อนใครอยู่ข้างหลัง เพราะสังคมจะรู้เอง
โดยเฉพาะจะรู้ว่าตนและนายจตุพรนั้นไม่มีรสนิยมกินไข่ดิบ ขอเรียกร้อง กลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมีการจัดตั้งมาหลังจากนี้อยู่เรื่อยๆว่า ขอให้ต้มไข่ให้สุกเสียก่อนที่จะขว้างปาขึ้นมาบนเวที

เพื่อนเนวินปัดอยู่เบื้องหลังปาไข่เน่า
นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน สมาชิกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า กลุ่มเพื่อนเนวินอยู่เบื้องหลังการจัดตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงไปป่วนการปราศรัยที่จ.บุรีรัมย์ว่า ขอยืนยันว่ากลุ่มเพื่อนเนวินไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างแน่นอน เพราะคนระดับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วนั้น คงไม่คิดจะทำพฤติกรรมไปกลั่นแกล้งแน่นอน อีกทั้งนายจตุพรและนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็เป็นคนกันเอง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ประชาชนเริ่มเปลี่ยนความคิด ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของนายจตุพรและนายณัฐวุฒิที่มักใช้วิธีการใส่ร้ายโจมตีกันจนทำให้เกิดผลเสียหายต่อประเทศชาติ จึงขอเรียกร้องนายจตุพรว่า หยุดกล่าวให้ร้ายกลุ่มเพื่อนเนวินเพราะจะเกิดความเสียหายและตอบโต้ไม่จบสิ้น
อย่างกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงไล่ปาไข่ใส่ระหว่างช่วยผู้สมัครส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์หาเสียงที่จ.ลำปางนั้น พรรคเพื่อไทยก็ถูกมองว่าอยู่เบื้องหลังเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น