ทรูวิชั่นส์ ปรับทัพผู้บริหารใหม่ ชู"ธิติฏฐ์" จากฝั่งทรู คอร์ปอเรชั่น นั่งคุมบังเหียน ระเบิดศึกเพย์ทีวีปี52 เอาใจคอบอล ปรับช่องทรูสปอร์ต5 ซอยช่องย่อย เป็น 4 ช่อง ฝ่ายรายการใหม่ ชื่อ "ทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล" ฝ่ามรสุมเศรษฐกิจทรุด พร้อมคุมการใช้งบการตลาดลดลง วาดกลยุทธ์ธุรกิจตามสถานการณ์ มุ่งคอนเท้นท์ที่ดี เชื่อฐานคนดูเพิ่ม หรือทั้งปีทะลุ 2 ล้านครัวเรือน
นายธิติฏฐ์ นันทพัฒน์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของทรูวิชั่นส์ ปีนี้ ยังคงเดินหน้าต่อเนื่องในการมุ่งเน้นการขยายฐานสมาชิกสู่ระดับล่างให้มากขึ้น โดยในแง่ขององค์กรแล้ว ตนเพิ่งได้เข้ามาร่วมทำงานในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ เมื่อต้นเดือนธ.ค. 2551 ที่ผ่านมา โดยจะเข้ามาร่วมกัน และวางแผนการทำงานในทรูวิชั่นส์ หลังจากนี้ต่อไป ซึ่งเดิมในทรูวิชั่นส์ยังไม่มีตำแหน่งนี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ ตนทำงานอยู่ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหาร ด้าน โฮม/คอนซูเมอร์ โซลูชั่น& ไฮสปีด แอคเซส บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
สำหรับแผนกลยุทธ์ของทางทรูวิชั่นส์ ซึ่งเป็นธุรกิจด้านเพย์ทีวีนั้น นายธิติฏฐ์ กล่าวว่า ในแง่ของคอนเท้นท์หรือช่องรายการใหม่ ปีนี้จะยังคงดำเนินตามแผนงานที่วางไว้ โดยจะมีทั้งการเพิ่มจำนวนคอนเท้นท์ที่ผลิตเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับดีมานด์ความต้องการของสมาชิกด้วยว่า ต้องการรับชมคอนเท้นท์ทางด้านไหน ขณะเดียวกันสภาพเศรษฐกิจก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการเพิ่มช่องรายการใหม่ย่อมมีเรื่องของการลงทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง
ส่วนงบการตลาดสำหรับปีนี้ โดยส่วนตัวมองว่า ภาพรวมธุรกิจปีนี้น่าจะทรงตัวไม่โต จากปัญหาทางเศรษฐกิจเป็นหลัก ส่งผลให้งบการตลาดในภาพรวมปีนี้ก็น่าจะทรงตัวหรือใช้อย่างระมัดระวังมากขึ้น สำหรับทรูวิชั่นส์เอง ปีนี้ยอมรับว่ามีการใช้งบการตลาดลดลงหรือระมัดระวังในการใช้เช่นกัน แต่เนื่องจากมีสื่อในมืออยู่หลายตัว การทำตลาดจึงไม่น่ามีปัญหา หรือทั้งปีคาดว่าจะมีฐานสมาชิกเพิ่มเป็น 2 ล้านครัวเรือน จากตัวเลขไตรมาส3ของปีที่ผ่านมา ที่มีฐานสมาชิกกว่า 1.3 ล้านครัวเรือน ขณะที่จำนวนลูกค้าที่ยกเลิกบริการมีเพียง 0.8%ของจำนวนดังกล่าว ถือเป็นตัวเลขในระดับปกติ
ทั้งนี้จากผลสำรวจ พบว่า ช่องรายการที่สมาชิกมีการรับชมมากที่สุด คือ ช่องภาพยนตร์ รองลงมาคือ ช่องกีฬา ล่าสุดในส่วนของช่องกีฬา ทรูวิชั่นส์ได้มีการขยายช่องรายการกีฬาเพิ่ม ในรูปแบบรายการที่เรียกว่า "ทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล" มีทั้งหมด 4 ช่อง คือ 1.ทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล M สำหรับกลุ่มที่ชื่นชอบแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2.ทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล L สำหรับสาวกลิเวอร์พูล 3.ทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล C สำหรับแฟนเชลซี และ4ทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล A สำหรับแฟนอาร์เซนอล
โดยรายละเอียดของทั้ง 4 ช่องใหม่นี้ เกิดขึ้นจากยุบช่องรายการทรูสปอร์ต 5 ซึ่งเป็นช่องรายการกีฬา แล้วปรับเพิ่มขึ้นใหม่เป็น 4 ช่องดังกล่าว โดยถือเป็นการการซอยเซกเม้นท์ช่องรายการกีฬาให้ตรงกับความต้องการของสมาชิก ที่ต้องการรับชมสโมสรที่ตนชื่นชอบ ขณะเดียวกันยังถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะช่วยดึงฐานสมาชิกได้พิ่มมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะฐานสมาชิกในกลุ่มทรูไลฟ์พรีวิว ที่มีจำนวนกว่า 7 แสนครัวเรือน คาดว่าจะยอมจ่ายเพิ่มเพื่อรับชมทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล 1 ใน4 ช่องดังกล่าวประมาณ 15-20% นอกจากนี้ยังถือเป็นการเพิ่มฐานสมาชิกในกลุ่มนักศึกษาอีกทางหนึ่ง ที่รับชมได้จากการเป็นผู้ใช้ทรูมูฟ ส่วนราคาแพกเกจการรับชม ทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล จะมีตั้งแต่แบบรายวัน ไปจนถึงตลอดทั้งฤดูกาล การแข่งขันพรีเมียร์ลีก ส่วนราคาของแต่ละแพกเกจนั้น ขึ้นอยู่กับสมาชิกว่าเป็นสมาชิกในแพกเกจใด
นายธิติฏฐ์ ยังได้กล่าวถึงเรื่องโฆษณาในทรูวิชั่นส์ด้วยว่า โฆษณาในทรูวิชั่นส์ ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากต้องรอดูนโยบายของทาง อสมท ก่อน หลังจากที่ช่วงนี้ตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยจัดการใหญ่ว่างลง ซึ่งมองว่าถ้าเราโฆษณาได้ช้ากว่าคู่แข่งในตลาดด้วยกัน ก็ย่อมเกิดความเสียเปรียบ ส่วนกรณีที่เคเบิลทีวีที่มีความเคลื่อนไหวมาตลอดในช่วงปีที่ผ่านมา มั่นใจว่ายังไม่ได้ส่งผลกระทบมากนักกับทางทรูวิชั่นส์ หรือถ้ามีก็ถือว่ายังน้อยมาก
นายธิติฏฐ์ นันทพัฒน์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของทรูวิชั่นส์ ปีนี้ ยังคงเดินหน้าต่อเนื่องในการมุ่งเน้นการขยายฐานสมาชิกสู่ระดับล่างให้มากขึ้น โดยในแง่ขององค์กรแล้ว ตนเพิ่งได้เข้ามาร่วมทำงานในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ เมื่อต้นเดือนธ.ค. 2551 ที่ผ่านมา โดยจะเข้ามาร่วมกัน และวางแผนการทำงานในทรูวิชั่นส์ หลังจากนี้ต่อไป ซึ่งเดิมในทรูวิชั่นส์ยังไม่มีตำแหน่งนี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ ตนทำงานอยู่ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหาร ด้าน โฮม/คอนซูเมอร์ โซลูชั่น& ไฮสปีด แอคเซส บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
สำหรับแผนกลยุทธ์ของทางทรูวิชั่นส์ ซึ่งเป็นธุรกิจด้านเพย์ทีวีนั้น นายธิติฏฐ์ กล่าวว่า ในแง่ของคอนเท้นท์หรือช่องรายการใหม่ ปีนี้จะยังคงดำเนินตามแผนงานที่วางไว้ โดยจะมีทั้งการเพิ่มจำนวนคอนเท้นท์ที่ผลิตเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับดีมานด์ความต้องการของสมาชิกด้วยว่า ต้องการรับชมคอนเท้นท์ทางด้านไหน ขณะเดียวกันสภาพเศรษฐกิจก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการเพิ่มช่องรายการใหม่ย่อมมีเรื่องของการลงทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง
ส่วนงบการตลาดสำหรับปีนี้ โดยส่วนตัวมองว่า ภาพรวมธุรกิจปีนี้น่าจะทรงตัวไม่โต จากปัญหาทางเศรษฐกิจเป็นหลัก ส่งผลให้งบการตลาดในภาพรวมปีนี้ก็น่าจะทรงตัวหรือใช้อย่างระมัดระวังมากขึ้น สำหรับทรูวิชั่นส์เอง ปีนี้ยอมรับว่ามีการใช้งบการตลาดลดลงหรือระมัดระวังในการใช้เช่นกัน แต่เนื่องจากมีสื่อในมืออยู่หลายตัว การทำตลาดจึงไม่น่ามีปัญหา หรือทั้งปีคาดว่าจะมีฐานสมาชิกเพิ่มเป็น 2 ล้านครัวเรือน จากตัวเลขไตรมาส3ของปีที่ผ่านมา ที่มีฐานสมาชิกกว่า 1.3 ล้านครัวเรือน ขณะที่จำนวนลูกค้าที่ยกเลิกบริการมีเพียง 0.8%ของจำนวนดังกล่าว ถือเป็นตัวเลขในระดับปกติ
ทั้งนี้จากผลสำรวจ พบว่า ช่องรายการที่สมาชิกมีการรับชมมากที่สุด คือ ช่องภาพยนตร์ รองลงมาคือ ช่องกีฬา ล่าสุดในส่วนของช่องกีฬา ทรูวิชั่นส์ได้มีการขยายช่องรายการกีฬาเพิ่ม ในรูปแบบรายการที่เรียกว่า "ทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล" มีทั้งหมด 4 ช่อง คือ 1.ทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล M สำหรับกลุ่มที่ชื่นชอบแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2.ทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล L สำหรับสาวกลิเวอร์พูล 3.ทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล C สำหรับแฟนเชลซี และ4ทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล A สำหรับแฟนอาร์เซนอล
โดยรายละเอียดของทั้ง 4 ช่องใหม่นี้ เกิดขึ้นจากยุบช่องรายการทรูสปอร์ต 5 ซึ่งเป็นช่องรายการกีฬา แล้วปรับเพิ่มขึ้นใหม่เป็น 4 ช่องดังกล่าว โดยถือเป็นการการซอยเซกเม้นท์ช่องรายการกีฬาให้ตรงกับความต้องการของสมาชิก ที่ต้องการรับชมสโมสรที่ตนชื่นชอบ ขณะเดียวกันยังถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะช่วยดึงฐานสมาชิกได้พิ่มมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะฐานสมาชิกในกลุ่มทรูไลฟ์พรีวิว ที่มีจำนวนกว่า 7 แสนครัวเรือน คาดว่าจะยอมจ่ายเพิ่มเพื่อรับชมทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล 1 ใน4 ช่องดังกล่าวประมาณ 15-20% นอกจากนี้ยังถือเป็นการเพิ่มฐานสมาชิกในกลุ่มนักศึกษาอีกทางหนึ่ง ที่รับชมได้จากการเป็นผู้ใช้ทรูมูฟ ส่วนราคาแพกเกจการรับชม ทรูสปอร์ตคลับ ชาแนล จะมีตั้งแต่แบบรายวัน ไปจนถึงตลอดทั้งฤดูกาล การแข่งขันพรีเมียร์ลีก ส่วนราคาของแต่ละแพกเกจนั้น ขึ้นอยู่กับสมาชิกว่าเป็นสมาชิกในแพกเกจใด
นายธิติฏฐ์ ยังได้กล่าวถึงเรื่องโฆษณาในทรูวิชั่นส์ด้วยว่า โฆษณาในทรูวิชั่นส์ ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากต้องรอดูนโยบายของทาง อสมท ก่อน หลังจากที่ช่วงนี้ตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยจัดการใหญ่ว่างลง ซึ่งมองว่าถ้าเราโฆษณาได้ช้ากว่าคู่แข่งในตลาดด้วยกัน ก็ย่อมเกิดความเสียเปรียบ ส่วนกรณีที่เคเบิลทีวีที่มีความเคลื่อนไหวมาตลอดในช่วงปีที่ผ่านมา มั่นใจว่ายังไม่ได้ส่งผลกระทบมากนักกับทางทรูวิชั่นส์ หรือถ้ามีก็ถือว่ายังน้อยมาก