ASTVผู้จัดการรายวัน – ซีพี ออลล์ ไม่หวั่นวิกฤตเศรษฐกิจกระทบธุรกิจค้าปลีกโต 3-5% ทุ่ม 5,000 ล้านบาท เดินหน้าผุด 500 สาขาทั่วประเทศ เร่งลดต้นทุนจ่อคิวเปิด 2 ศูนย์กระจายสินค้า ภาคเหนือ-ใต้ พร้อมเพิ่มสัดส่วนอาหาร เครื่องดื่ม หวังดันสินค้าเรือธงโกยรายได้เพิ่ม ตั้งเป้าปีวัวโต 5%
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้าน สะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดเผยว่า ท่ามกลางปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่นโยบายการดำเนินธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น ในปีนี้บริษัทยังคงเดินหน้าทุ่มงบ 3,000-4,000 ล้านบาท ขยายร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น 400-500 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จากปัจจุบันมีทั้งหมด 4,750 สาขาทั่วประเทศ เนื่องจากยังมีช่องทางทำให้ตลาดอีกมาก
พร้อมกันนี้ได้ทุ่มงบ 500 ล้านบาท ผุดศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ที่ภาคใต้ ใน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง จากเดิมต้องขนส่งสินค้าผ่านทางศูนย์กระจายสินค้าย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรีไปถึงอ.เบตง จ.ยะลา ระยะทาง 1,300 กม. ดังนั้นการเปิดศูนย์ดังกล่าวทำให้ระยะทางขนส่งลดลง 50% โดยศูนย์จ.สุราษฎร์ธานี จะกระจายสินค้าตามจังหวัดภาคใต้ อาทิ อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส
ทั้งนี้ ศูนย์กระจายสินค้าดังกล่าว กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างคาดว่าเสร็จในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ขณะเดียวกันยังวางแผนผุดศูนย์กระจายสินค้าอีก 1 แห่งในภาคเหนือ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาสถานที่ระหว่างจ.ลำพูน และจ.ลำปาง คาดว่าจะสรุปได้เร็วๆ นี้ โดยประมาณการณ์ใช้งบ 500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าทั้ง 2 แห่ง ส่งผลให้ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมีศูนย์กระจายสินค้าทั้งหมด 5 แห่ง คือ บางบัวทอง สุวรรณภูมิ ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี และลำพูน หรือลำปาง
“ผลประกอบการร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 5-10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคเดินทางออกต่างจังหวัดมากขึ้น จึงทำให้สาขาในตลาดต่างจังหวัดมียอดขายที่ดีโดยเฉพาะในปั้มน้ำมัน” นายสุวิทย์ กล่าว
นายปิยะวัฒน์ ฐิติสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี. ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการในช่วงปีที่ผ่านมามีรายได้ 90,000 ล้านบาท เติบโต 20% มาจากการขยายสาขาร้านเซเว่นฯอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการรุกธุรกิจในกลุ่มของอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต
พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนที่จะปรับสัดส่วนกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นมาเป็น 80-85% ในอีก 2 ปีข้างหน้าจากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 70% เพื่อผลักดันให้ภาพรวมร้านเซเว่นฯ สิ้นปี 2552 มียอดขายเติบโตที่ 5% ในขณะที่ภาพรวมค้าปลีกคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 3-5% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้าน สะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดเผยว่า ท่ามกลางปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่นโยบายการดำเนินธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น ในปีนี้บริษัทยังคงเดินหน้าทุ่มงบ 3,000-4,000 ล้านบาท ขยายร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น 400-500 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จากปัจจุบันมีทั้งหมด 4,750 สาขาทั่วประเทศ เนื่องจากยังมีช่องทางทำให้ตลาดอีกมาก
พร้อมกันนี้ได้ทุ่มงบ 500 ล้านบาท ผุดศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ที่ภาคใต้ ใน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง จากเดิมต้องขนส่งสินค้าผ่านทางศูนย์กระจายสินค้าย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรีไปถึงอ.เบตง จ.ยะลา ระยะทาง 1,300 กม. ดังนั้นการเปิดศูนย์ดังกล่าวทำให้ระยะทางขนส่งลดลง 50% โดยศูนย์จ.สุราษฎร์ธานี จะกระจายสินค้าตามจังหวัดภาคใต้ อาทิ อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส
ทั้งนี้ ศูนย์กระจายสินค้าดังกล่าว กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างคาดว่าเสร็จในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ขณะเดียวกันยังวางแผนผุดศูนย์กระจายสินค้าอีก 1 แห่งในภาคเหนือ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาสถานที่ระหว่างจ.ลำพูน และจ.ลำปาง คาดว่าจะสรุปได้เร็วๆ นี้ โดยประมาณการณ์ใช้งบ 500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าทั้ง 2 แห่ง ส่งผลให้ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมีศูนย์กระจายสินค้าทั้งหมด 5 แห่ง คือ บางบัวทอง สุวรรณภูมิ ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี และลำพูน หรือลำปาง
“ผลประกอบการร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 5-10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคเดินทางออกต่างจังหวัดมากขึ้น จึงทำให้สาขาในตลาดต่างจังหวัดมียอดขายที่ดีโดยเฉพาะในปั้มน้ำมัน” นายสุวิทย์ กล่าว
นายปิยะวัฒน์ ฐิติสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี. ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการในช่วงปีที่ผ่านมามีรายได้ 90,000 ล้านบาท เติบโต 20% มาจากการขยายสาขาร้านเซเว่นฯอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการรุกธุรกิจในกลุ่มของอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต
พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนที่จะปรับสัดส่วนกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นมาเป็น 80-85% ในอีก 2 ปีข้างหน้าจากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 70% เพื่อผลักดันให้ภาพรวมร้านเซเว่นฯ สิ้นปี 2552 มียอดขายเติบโตที่ 5% ในขณะที่ภาพรวมค้าปลีกคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 3-5% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ