วานนี้(7 ม.ค.)ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.มอบอำนาจให้นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความโจทก์ฟ้องคณะกรรมการ ป.ป.ช.คือ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช.นายกล้านรงค์ จันทิก นายใจเด็ด พรไชยา นายประสาท พงษ์ศิวาภัยนายภักดี โพธิศิริ นายเมธี ครองแก้ว นายวิชา มหาคุณ นายวิชัย วิวิตเสวี และ น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ เป็นจำเลย ที่ 1-9 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดยโจทก์ระบุฟ้องสรุปว่า
คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติแต่งตั้งนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร.พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. ฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการกรณีสั่งให้ตำรวจสลายการชุมนุมพื้นที่หน้าบริเวณรัฐสภา ถนนอู่ทองในและบริเวณใกล้เคียง เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 โดยระหว่างการไต่สวนฯดังกล่าว ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 28 ต.ค.2551 นายสิทธิพร โพธิโสดาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี(ขณะนั้น) เป็นจำเลยที่ 1 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.เป็นจำเลยที่ 1-5 ต่อศาลอาญาคดีหมายเลขดำที่ อ.4142 /2551 ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเรื่องที่ศาลอาญารับคำฟ้องในประเด็นเดียวกับข้อกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน ฯ ซึ่งตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 86 บัญญัติไว้ ห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.รับหรือยกคำกล่าวหาตาม มาตรา 84 เกี่ยวกับเรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหรือที่ศาลพิพากษา หรือมีคำสั่งเด็ดขาดแล้ว แต่ปรากฏว่า จำเลยทั้งเก้า ไม่ได้ยุติการไต่สวน จึงย่อมมีความผิดตามมาตรา 157 จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย
ศาลรับคำฟ้องไว้ และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 2 มี.ค. เวลา 13.30 น.
คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติแต่งตั้งนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร.พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. ฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการกรณีสั่งให้ตำรวจสลายการชุมนุมพื้นที่หน้าบริเวณรัฐสภา ถนนอู่ทองในและบริเวณใกล้เคียง เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 โดยระหว่างการไต่สวนฯดังกล่าว ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 28 ต.ค.2551 นายสิทธิพร โพธิโสดาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี(ขณะนั้น) เป็นจำเลยที่ 1 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.เป็นจำเลยที่ 1-5 ต่อศาลอาญาคดีหมายเลขดำที่ อ.4142 /2551 ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเรื่องที่ศาลอาญารับคำฟ้องในประเด็นเดียวกับข้อกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน ฯ ซึ่งตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 86 บัญญัติไว้ ห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.รับหรือยกคำกล่าวหาตาม มาตรา 84 เกี่ยวกับเรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหรือที่ศาลพิพากษา หรือมีคำสั่งเด็ดขาดแล้ว แต่ปรากฏว่า จำเลยทั้งเก้า ไม่ได้ยุติการไต่สวน จึงย่อมมีความผิดตามมาตรา 157 จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย
ศาลรับคำฟ้องไว้ และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 2 มี.ค. เวลา 13.30 น.