ประชุม หวังฝ่ายค้านไม่คิดทำลายชื่อเสียงประเทศ และ “ฮุนเซน” ไม่รับลูกสมุน “แม้ว” เบี้ยวร่วมประชุม เผยบัวแก้วเตรียมสรุปวัน เวลา สถานที่ 7 ม.ค.นี้ ด้าน “สุริยะใส” ระบุ นปช.ปั่นกระแสโกรธเกลียดรัฐบาล เพื่อใช้วันประชุมอาเซียนเป็นวันพิพากษา ตามแผน “แม้ว” เมื่อไม่มีอำนาจก็อย่าอยู่อย่างสงบ ระบุเสื้อแดงบิดเบือนอ้างใช้วิธีเดียวกับพันธมิตรฯ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง ประกาศเรียกร้องให้กลุ่มประเทศอาเซียนถอนตัวออกจากการประชุมอาเซียนซัมมิทซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพว่ายังเชื่อมั่นว่ามิตรประเทศของเรา ในอาเซียนต้องการให้ไทยทำหน้าที่เป็นประธานเจ้าภาพการประชุมอาเซียน รวมทั้งฝ่ายเลขาธิการอาเซียนด้วย และอยากขอย้ำว่างานนี้ไม่ใช่งานของรัฐบาล แต่เป็นงานของคนไทยทั้งประเทศ และการรักษาสถานภาพของการเป็นประธานและเจ้าภาพที่ดี น่าจะเป็นเป้าหมายของคนไทยทั้งประเทศ เพราะทั้งหมดเป็นประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่
"ผมยังนึกถึงว่า ในช่วงที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน วันที่รัฐบาลมาปรึกษาข้อตกลง อาเซียน ผมยังยืนยันไปว่าการประชุมอาเซียนเป็นเรื่องของประเทศชาติที่ทุกฝ่าย ต้องสนับสนุน และได้พยายามช่วยเหลือในขณะนั้นว่าทำอย่างไรที่จะทำให้ราบรื่นที่สุด เท่าที่จะทำได้ ดังนั้นหวังว่า ในส่วนของฝ่ายค้านจะให้การสนับสนุนการประชุมครั้งนี้ ในฐานะที่คนไทยทั้งประเทศเป็นเจ้าภาพ"
ส่วนที่มีการส่งนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศไปพบทูตประเทศต่างๆ เพื่อบอกความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลชุดนี้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าอยากให้ทุกคนรักษาประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก เรื่องนี้ไม่ควรมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะเป็นเรื่องของประเทศและเป็นเรื่องของ อาเซียนส่วนรวม ที่ควรจะเดินหน้าได้ และกฎบัตรอาเซียนก็บังคับใช้แล้ว นอกจากนี้ยังมีงานที่อาเซียนต้องทำร่วมกัน ไม่ควรหยุดชะงักอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเลื่อนการประชุมการพิจารณากรอบการเจรจาอาเซียน ออกไปเป็นวันที่ 21 ม.ค. จะกระทบอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐสภา และเชื่อว่าฝ่านค้านคงมาทำหน้าที่ของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจะทำให้กระทบต่อการประชุมอาเซียน หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ายังเชื่อว่าจะประชุมได้ เมื่อถามว่า มีความพยามถึงขนาดไปคุยกับนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาให้ถอนตัวออกจากการประชุม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เชื่อว่าคงไม่มีกรณีอย่างนั้น ส่วนที่มั่นใจเพราะคิดว่าที่ผ่านมา จากการประสานงานไม่มีปัญหาอะไร และในช่วงระยะเวลาอีกเดือนครึ่งถึงสองเดือน เราจะทำให้เห็นว่า เราจะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ ซึ่งเวลานี้ยังไม่มีประเทศไหนปฏิเสธ และการเลื่อนการประชุมก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้
"เดิมที เราจะประชุมในเดือน ธ.ค. ทุกประเทศสามารถวางปฏิทินตนเองได้ ปัญหาขณะนี้คือการเลื่อนมาเป็นเดือน ก.พ. บางประเทศมีข้อจำกัด เช่น บางประเทศมีการประชุมเรื่องงบประมาณ และบางประเทศผู้นำรัฐรับที่จะไปเยือนต่างประเทศก่อนหน้าแล้ว และทางจีน จะมีการประชุมพรรคคอมมินิสต์ เป็นต้น ไม่มีเรื่องที่ เกี่ยวข้องกับการปฏิเสธว่าไทยไม่พร้อมที่จะเป็นผู้จัด และประเทศจีนแจ้งมานานแล้วว่า สามารถมาได้ก่อนวันที่ 15 ก.พ. และหลังจากนั้นจะไม่สะดวก และก่อนวันที่ 15 ก.พ. เวียดนามก็ไม่สะดวก เพราะผู้นำฯติดกำหนดการล่วงหน้า"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าขณะนี้ได้ให้นายวีระชัย วีระเมธีกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ พูดคุยเรื่องยางพารา และเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก ได้รับการตอบสนองที่ดี และวันนี้ ในเรื่องการประชุมอาเซียน รมว.ต่างประเทศ จะทำหน้าที่ตามเป้าหมาย นโยบายรัฐบาล และทางกระทรวงการต่างประเทศจะสรุปรายงานให้ทราบในวันที่ 7 ก.พ. ถึงสถานที่ และวันเวลาในการประชุมอาเซียน
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ใช้สารพัดวิธีในการต่อต้านรัฐบาลประชาธิปัตย์นั้น แม้เป็นสิทธิที่จะแสดงออกได้แต่ต้องคำนึงถึงความชอบธรรมด้วย โดยเฉพาะการอ้างว่าเลียนแบบการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ เป็นการบิดเบือนและตัดตอนความจริง เพราะก่อนพันธมิตรฯ จะใช้รูปแบบมือตบเพื่อแสดงจุดยืนไม่สังฆกรรมกับรัฐบาลนอมินีนั้น พันธมิตรฯ ได้ให้โอกาสรัฐบาลทำงาน ในช่วงเวลาหนึ่งก่อน เมื่อเห็นว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมค่อยออกมาเคลื่อนไหว ด้วยรูปแบบชุมนุมปักหลักพักค้างอย่างยืดเยื้อยาวนาน และได้เปิดโปงระบอบทักษิณและรัฐบาลนอมินีจนหมดเปลือกทำให้รัฐบาลนอมินีขาดความชอบธรรมและกระแสต่อต้านลามไปทั่ว
ที่สำคัญปรากฎการณ์มือตบเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่มีการจัดตั้งหรือชักจูง ไม่มีการสั่งการจากแกนนำ และไม่เน้นวิธีรุนแรงแบบที่กลุ่มคนเสื้อแดง กำลังทำ
นายสุริยะใส กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่ผิดคาดแต่อย่างใดว่ารูปแบบการเคลื่อนไหว ของ นปช. จะไม่สนใจความชอบธรรม หรือเน้นการระดมมวลชนแนวร่วมในจำนวน มากๆ เพราะระดมได้ยาก แต่จะเน้นวิธีรุนแรงด้วยจำนวนคนที่ไม่ต้องมากอาจจะใช้แค่ไม่กี่สิบคน แต่เน้นการเคลื่อนไหวที่ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ซึ่งหากรัฐบาลใช้ความรุนแรงตอบโต้ก็จะเข้าทางแกนนำ นปช.
"จากนี้ไปรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จะเผชิญแรงต้านจากกลุ่มคนเสื้อแดง สูงขึ้นเรื่อยๆ และกำลังมีความพยายามปั่นกระแสในเครือข่ายคนเสื้อแดง เพื่อสร้างความโกรธเคืองให้กับรัฐบาลและเตรียมเช็คบิลรัฐบาลโดยใช้เงื่อนไขการประชุมอาเซียนซัมมิทเป็นวันพิพากษารัฐบาล เพราะมีการตั้งธงปิดสนามบินและปิดล้อมศูนย์ประชุม ซึ่งรัฐบาลต้องหาวิธีรับมือที่เท่าทันวิธีการนิ่งเฉยหรือตั้งรับแบบนี้จะทำให้ขบวนการดังกล่าวฮึกเหิมได้ใจและไม่เกรงกลัวกฎหมาย"
นายสุริยะใส กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นไปอย่างที่แกนนำ นปช.ประกาศไว้ว่าถ้าอยู่กันดีๆ ไม่ได้ หรือถ้าข้าสูญเสียอำนาจก็อย่าอยู่กันอย่างสงบเลย สอดคล้องกับนายใหญ่ทักษิณ ที่ประกาศกับคนใกล้ชิดถึงขั้นถ้าจำเป็นก็อาจต้องแบ่งประเทศปกครองทำนองนั้น จึงเป็นไปได้ว่าการเมืองไทยยังจะไร้เสถียรภาพไปอีกนานจนกว่า พตท.ทักษิณ จะหยุดและยอมรับคำพิพากษาของศาล
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง ประกาศเรียกร้องให้กลุ่มประเทศอาเซียนถอนตัวออกจากการประชุมอาเซียนซัมมิทซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพว่ายังเชื่อมั่นว่ามิตรประเทศของเรา ในอาเซียนต้องการให้ไทยทำหน้าที่เป็นประธานเจ้าภาพการประชุมอาเซียน รวมทั้งฝ่ายเลขาธิการอาเซียนด้วย และอยากขอย้ำว่างานนี้ไม่ใช่งานของรัฐบาล แต่เป็นงานของคนไทยทั้งประเทศ และการรักษาสถานภาพของการเป็นประธานและเจ้าภาพที่ดี น่าจะเป็นเป้าหมายของคนไทยทั้งประเทศ เพราะทั้งหมดเป็นประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่
"ผมยังนึกถึงว่า ในช่วงที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน วันที่รัฐบาลมาปรึกษาข้อตกลง อาเซียน ผมยังยืนยันไปว่าการประชุมอาเซียนเป็นเรื่องของประเทศชาติที่ทุกฝ่าย ต้องสนับสนุน และได้พยายามช่วยเหลือในขณะนั้นว่าทำอย่างไรที่จะทำให้ราบรื่นที่สุด เท่าที่จะทำได้ ดังนั้นหวังว่า ในส่วนของฝ่ายค้านจะให้การสนับสนุนการประชุมครั้งนี้ ในฐานะที่คนไทยทั้งประเทศเป็นเจ้าภาพ"
ส่วนที่มีการส่งนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศไปพบทูตประเทศต่างๆ เพื่อบอกความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลชุดนี้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าอยากให้ทุกคนรักษาประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก เรื่องนี้ไม่ควรมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะเป็นเรื่องของประเทศและเป็นเรื่องของ อาเซียนส่วนรวม ที่ควรจะเดินหน้าได้ และกฎบัตรอาเซียนก็บังคับใช้แล้ว นอกจากนี้ยังมีงานที่อาเซียนต้องทำร่วมกัน ไม่ควรหยุดชะงักอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเลื่อนการประชุมการพิจารณากรอบการเจรจาอาเซียน ออกไปเป็นวันที่ 21 ม.ค. จะกระทบอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐสภา และเชื่อว่าฝ่านค้านคงมาทำหน้าที่ของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจะทำให้กระทบต่อการประชุมอาเซียน หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ายังเชื่อว่าจะประชุมได้ เมื่อถามว่า มีความพยามถึงขนาดไปคุยกับนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาให้ถอนตัวออกจากการประชุม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เชื่อว่าคงไม่มีกรณีอย่างนั้น ส่วนที่มั่นใจเพราะคิดว่าที่ผ่านมา จากการประสานงานไม่มีปัญหาอะไร และในช่วงระยะเวลาอีกเดือนครึ่งถึงสองเดือน เราจะทำให้เห็นว่า เราจะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ ซึ่งเวลานี้ยังไม่มีประเทศไหนปฏิเสธ และการเลื่อนการประชุมก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้
"เดิมที เราจะประชุมในเดือน ธ.ค. ทุกประเทศสามารถวางปฏิทินตนเองได้ ปัญหาขณะนี้คือการเลื่อนมาเป็นเดือน ก.พ. บางประเทศมีข้อจำกัด เช่น บางประเทศมีการประชุมเรื่องงบประมาณ และบางประเทศผู้นำรัฐรับที่จะไปเยือนต่างประเทศก่อนหน้าแล้ว และทางจีน จะมีการประชุมพรรคคอมมินิสต์ เป็นต้น ไม่มีเรื่องที่ เกี่ยวข้องกับการปฏิเสธว่าไทยไม่พร้อมที่จะเป็นผู้จัด และประเทศจีนแจ้งมานานแล้วว่า สามารถมาได้ก่อนวันที่ 15 ก.พ. และหลังจากนั้นจะไม่สะดวก และก่อนวันที่ 15 ก.พ. เวียดนามก็ไม่สะดวก เพราะผู้นำฯติดกำหนดการล่วงหน้า"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าขณะนี้ได้ให้นายวีระชัย วีระเมธีกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ พูดคุยเรื่องยางพารา และเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก ได้รับการตอบสนองที่ดี และวันนี้ ในเรื่องการประชุมอาเซียน รมว.ต่างประเทศ จะทำหน้าที่ตามเป้าหมาย นโยบายรัฐบาล และทางกระทรวงการต่างประเทศจะสรุปรายงานให้ทราบในวันที่ 7 ก.พ. ถึงสถานที่ และวันเวลาในการประชุมอาเซียน
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ใช้สารพัดวิธีในการต่อต้านรัฐบาลประชาธิปัตย์นั้น แม้เป็นสิทธิที่จะแสดงออกได้แต่ต้องคำนึงถึงความชอบธรรมด้วย โดยเฉพาะการอ้างว่าเลียนแบบการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ เป็นการบิดเบือนและตัดตอนความจริง เพราะก่อนพันธมิตรฯ จะใช้รูปแบบมือตบเพื่อแสดงจุดยืนไม่สังฆกรรมกับรัฐบาลนอมินีนั้น พันธมิตรฯ ได้ให้โอกาสรัฐบาลทำงาน ในช่วงเวลาหนึ่งก่อน เมื่อเห็นว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมค่อยออกมาเคลื่อนไหว ด้วยรูปแบบชุมนุมปักหลักพักค้างอย่างยืดเยื้อยาวนาน และได้เปิดโปงระบอบทักษิณและรัฐบาลนอมินีจนหมดเปลือกทำให้รัฐบาลนอมินีขาดความชอบธรรมและกระแสต่อต้านลามไปทั่ว
ที่สำคัญปรากฎการณ์มือตบเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่มีการจัดตั้งหรือชักจูง ไม่มีการสั่งการจากแกนนำ และไม่เน้นวิธีรุนแรงแบบที่กลุ่มคนเสื้อแดง กำลังทำ
นายสุริยะใส กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่ผิดคาดแต่อย่างใดว่ารูปแบบการเคลื่อนไหว ของ นปช. จะไม่สนใจความชอบธรรม หรือเน้นการระดมมวลชนแนวร่วมในจำนวน มากๆ เพราะระดมได้ยาก แต่จะเน้นวิธีรุนแรงด้วยจำนวนคนที่ไม่ต้องมากอาจจะใช้แค่ไม่กี่สิบคน แต่เน้นการเคลื่อนไหวที่ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ซึ่งหากรัฐบาลใช้ความรุนแรงตอบโต้ก็จะเข้าทางแกนนำ นปช.
"จากนี้ไปรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จะเผชิญแรงต้านจากกลุ่มคนเสื้อแดง สูงขึ้นเรื่อยๆ และกำลังมีความพยายามปั่นกระแสในเครือข่ายคนเสื้อแดง เพื่อสร้างความโกรธเคืองให้กับรัฐบาลและเตรียมเช็คบิลรัฐบาลโดยใช้เงื่อนไขการประชุมอาเซียนซัมมิทเป็นวันพิพากษารัฐบาล เพราะมีการตั้งธงปิดสนามบินและปิดล้อมศูนย์ประชุม ซึ่งรัฐบาลต้องหาวิธีรับมือที่เท่าทันวิธีการนิ่งเฉยหรือตั้งรับแบบนี้จะทำให้ขบวนการดังกล่าวฮึกเหิมได้ใจและไม่เกรงกลัวกฎหมาย"
นายสุริยะใส กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นไปอย่างที่แกนนำ นปช.ประกาศไว้ว่าถ้าอยู่กันดีๆ ไม่ได้ หรือถ้าข้าสูญเสียอำนาจก็อย่าอยู่กันอย่างสงบเลย สอดคล้องกับนายใหญ่ทักษิณ ที่ประกาศกับคนใกล้ชิดถึงขั้นถ้าจำเป็นก็อาจต้องแบ่งประเทศปกครองทำนองนั้น จึงเป็นไปได้ว่าการเมืองไทยยังจะไร้เสถียรภาพไปอีกนานจนกว่า พตท.ทักษิณ จะหยุดและยอมรับคำพิพากษาของศาล
