xs
xsm
sm
md
lg

"พรทิวา"สั่งจัดเวิร์กชอปเกษตร-ค่าครองชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กช็อป) เพื่อแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยจะเชิญตัวแทนภาคเกษตรกร อาทิ ข้าว ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ผู้ส่งออก โรงสี ตลาดค้าส่ง และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อมูลและกำหนดนโยบายร่วมกัน ป้องกันไม่ให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำและราคาผันผวนเหมือนปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้จัดเวิร์กชอปเพื่อแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ โดยจะเรียกผู้ผลิตสินค้าทุกกลุ่ม มาหารือถึงการลดค่าครองชีพให้ประชาชน ซึ่งจะดูต้นทุนแนวโน้มต้นทุนว่ากลุ่มไหนสามารถลดราคาได้อีกหรือไม่

"รัฐมนตรีได้สั่งให้ทั้ง 2 เรื่องนี้ เป็นนโยบายสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงพาณิชย์ และหลังจากเวิร์กช้อป จะจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ 2 ชุด เพื่อติดตามดูแลปัญหาทั้ง 2 ด้าน โดยมีรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน และจะใช้ศูนย์ปฏิบัติการของกรมการค้าภายใน (วอร์รูม) เป็นศูนย์กลางประสานข้อมูล และประชุมวางแผน กำหนดนโยบาย ซึ่งจะมีความชัดเจนอีกครั้งหลังประชุม"นายยรรยงกล่าว

นายยรรยงกล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาในภาพรวม ทั้งเรื่องสินค้าเกษตร และการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน กรมฯ ได้เตรียมของบกระตุ้นเศรษฐกิจ จากคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 1,180 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินการ โดยในส่วนสินค้าเกษตร จะเริ่มดูแลตั้งแต่การเพาะปลูก ความต้องการผลผลิต ระบบขนส่ง การจัดเก็บ ข้อมูลสินค้า ช่องทางการจำหน่าย

นอกจากนี้ จะจัดโครงการ ฟาร์ม เอาท์เล็ต เปิดจุดจำหน่ายสินค้าตามต่างจังหวัด แหล่งท่องเที่ยว ให้ชุมชนนำสินค้าที่มีศักยภาพมาจำหน่าย ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ขณะเดียวกันจะจัดทำฐานข้อมูลสินค้าเกษตรใหม่ เพื่อกำหนดนโยบายการดูแล เพราะที่ผ่านข้อมูลผลผลิตคาดเคลื่อนมาก เช่น กระทรวงเกษตรระบุว่าปีนี้มีข้าวโพด 9 แสนตัน แต่กระทรวงมหาดไทยระบุมีถึง 2.2 ล้านตัน

ในด้านค่าครองชีพ กรมฯ จะหารือห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เช่น บิ๊กซี คาร์ฟูร์ แม็คโคร นำผลผลิตจากเกษตรกรไปจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งช่วยให้ประชาชนซื้อสินค้าที่ถูกกว่าเดิม ซึ่งทางห้างจะสนับสนุนช่องทางการขาย และระบบโลจิสติก ขนส่ง การเก็บสินค้าให้

ขณะเดียวกัน จะดำเนินการจัดทำกองทัพสีฟ้าลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนตลอดปีตามแนวคิดของรัฐมนตรี เช่น นำสินค้าจากโรงงานอุตสาหกรรม สบู่ ผงซักฟอก ยาสีฟัน ยาสระผม อาหารสำเร็จรูป มาจำหน่ายราคาถูกให้ประชาชนทั่วประเทศ หรือแฟคตอรี่ เอาท์เล็ต ซึ่งจะช่วยเสริมกับร้านขายสินค้าราคาเดียว หรือบลู ช็อป ที่จะจำหน่ายสินค้าภายในร้านไม่เกิน 60 บาทต่อชิ้น และยังมีร้านอาหารธงฟ้า ร้านสีฟ้าที่จำหน่ายอาหารในศูนย์อาหารห้างสรรพสินค้า

"ทั้งหมดนี้จะเป็นมาตรการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพผู้บริโภคในปีนี้ และยังเป็นการกระตุ้นให้คนออกมาใช้จ่ายมากขึ้น รวมทั้งจะมีการจัดงานสินค้าธงฟ้าทั่วประเทศทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กกว่า 300 ครั้ง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้บริโภคและพนักงานที่ตกงานจะได้สามารถซื้อสินค้าราคาถูก"นายยรรยงกล่าว

แหล่งข่าวจากห้างค้าปลีกกล่าวว่าผู้ประกอบการห้างค้าปลีกพร้อมให้ความร่วมมือกับโครงการต่างๆ ในการจำหน่ายสินค้าราคาถูก เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องของสินค้าขึ้นราคา แต่โครงการธงฟ้าราคาประหยัดที่กระทรวงพาณิชย์จัดขึ้นมาและกระทรวงพาณิชย์มีนโยบายที่จะจัดเพิ่มขึ้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะเป็นการช่วยผู้บริโภคให้สามารถซื้อสินค้าราคาถูกได้ แต่การจัดโครงการธงฟ้าเพื่อขายสินค้าราคาถูกนั้นก็จะกระทบต่อผู้ประกอบการโชห่วยเช่นเดียวกัน ไม่ใช่มากล่าวอ้างเฉพาะห้างค้าปลีกเท่านั้นที่ขายสินค้าราคาถูกแล้วจะกระทบร้านโชห่วย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ควรมีมาตรฐานเดียวกันอย่างใช้ 2 มาตรฐานในการบริหารจัดการ
เป็นที่น่าสังเกตุว่าการจัดทำโครงการขายสินค้าราคาถูกของกระทรวงพาณิชย์ส่วนใหญ่จะขอความร่วมมือจากซัพพลายเออร์รายใหญ่ เพื่อให้นำสินค้าราคาถูกมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภค ทำให้ผู้ผลิตรายใหญ่นำสินค้าต่าง ๆ มาจำหน่ายและได้ประโยชน์จากโครงการจำหน่ายสินค้าราคาถูก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งห้ามห้างค้าปลีกขายลดราคาสินค้าต่ำกว่าทุนทำให้ผู้บริโภคเสียประโยชน์ในการซื้อสินค้าราคาถูกจากห้างค้าปลีกต่าง ๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น