00 ปฏิเสธไม่ได้ว่านับตั้งแต่วันเปิดทำการเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม เป็นต้นไป รัฐบาลผสมของ “หนุ่มมาร์ค” ต้องเจอกับแรงกดดันเข้ามารอบด้าน มีทั้งมาแบบใช้กฎหมาย ใช้เวทีในสภาเล่นงาน หรือมาในรูปสร้างความรำคาญทำลายสมาธิ เรียกได้ว่ามีทั้งบนดิน ใต้ดิน ประเดิมเริ่มแรกก็มีรายการซักฟอกนอกสภาเข้ามาก่อน
00 แต่ถ้าพิจารณาตามหน้าเสื่อแล้วงานนี้ก็ต้องบอกกันตามความจริงก็คือ คนที่รับหน้าที่เป็น “หัวหมู่ทะลวงฟัน” เอ่ยชื่อมาแต่ละคนได้ยินแล้วต้อง “ส่ายหน้าหนี” ไม่ว่าจะเป็น “เฉลิม อยู่บำรุง” งี้หรือ “โกโบริน"งี้ หลายคนแทบอ๊วก ไม่ต้องมาพูดถึงเนื้อหาสาระให้เสียเวลา
00 ส่วนในสภาก็ศึกหนักไม่แพ้กัน แค่เบาะๆในวันที่รัฐบาลเสนอกฎหมายรับรองกฎบัตรของอาเซียน ก็ต้องเจอลูกป่วนจนต้องเวียนหัว นี่ยังไม่นับกฎหมายที่เกี่ยวกับกฎหมายการเงินที่จ่อคิวต้องเสนอเข้าไปในเร็วๆนี้ และยิ่งเสียงปริ่มน้ำ มันก็ยิ่งต้องลุ้นกันตัวโก่ง แต่ที่ต้องเสียวกันมากไปกว่านั้นก็คือผลการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 11 มกราคมนี้ ถ้าฝ่ายรัฐบาลได้เสียงเพิ่มก็น่าจะเบาใจได้บ้าง แต่ผลออกมาตรงกันข้าม ก็เตรียมนับถอยหลังได้เลย
00 รายนี้รับรองว่าชัวร์ไม่มั่วนิ่มแน่ สำหรับข่าวคราวเรื่องจ้างบริษัทต่างด้าวมาถล่มประเทศตัวเองของ “เฮียแม้ว” เพราะที่ผ่านมาก็ได้ยินมาเสมอต้นเสมอปลายอยู่แล้ว ดังนั้นข้อมูลที่คนของประชาธิปัตย์นำมาปูดก็ถือว่าจริง แต่เป็นข่าวเก่าตั้งแต่ปีมะโว้ ในวงการเขารู้กันมาเป็นปีแล้วหลังจากถูก คมช.ถีบตกเก้าอี้นั่นแหละ ก็แหมเฮียเขา“เหลี่ยมจัด” จะตาย
00 แต่พอเอ่ยชื่อ 3 ลิ่วล้อระดับหัวแถว อย่าง “พันศักดิ์-มิ้ง-อ้วน” ที่เป็นมือเป็นเท้า คอยประสานงานถือว่าไม่ธรรมดาเพราะ 3 คน 2 สไตล์ 2 รายหลังนี่ถือว่าจัดอยู่ในจำพวก “ซ้ายอกหัก” แล้วต่อมาพัฒนากลายเป็น “ซ้ายอารมณ์ค้าง” ยังฝังใจจะ “พลิกฟ้า” ไม่เลิก ส่วนรายแรกอยู่ในประเภทนักจินตนาการค่อนไปทาง “เพ้อฝัน เฟ้อเจ้อ” เมื่อมาเจอกันมันก็สนุกละครับพี่น้อง แต่รับรองว่าในระยะยาวคนที่สนุกไม่ใช่ “เฮียแม้ว” แน่นอน เพราะรายนั้นมีแต่ทุกข์เท่านั้นที่กำลังมาเยือน
00 ดังนั้นนาทีนี้ว่าไปทำไมมี ไม่ว่าบรรดาเกจิ หมอดูหมอเดาทำนายทายทักว่ารัฐบาล “อภิสิทธิ์” จะอยู่ได้ไม่ยืดก็ตาม เนื่องจากต้องเจอกับนานาอุปสรรค แต่ของอย่างนี้มันขึ้นอยู่กับฝีมือ พิสูจน์ผลงานในภาวะวิกฤตแบบนี้แหละ ถ้าเป็น “ของจริง” ก็ผ่านไปได้อีกยาว แต่ถ้ามีแต่ราคาคุย มัวแต่สร้างภาพ แค่ 2 เดือน ก็น่าจะรู้ผลแล้ว !!
00 แต่ถ้าพิจารณาตามหน้าเสื่อแล้วงานนี้ก็ต้องบอกกันตามความจริงก็คือ คนที่รับหน้าที่เป็น “หัวหมู่ทะลวงฟัน” เอ่ยชื่อมาแต่ละคนได้ยินแล้วต้อง “ส่ายหน้าหนี” ไม่ว่าจะเป็น “เฉลิม อยู่บำรุง” งี้หรือ “โกโบริน"งี้ หลายคนแทบอ๊วก ไม่ต้องมาพูดถึงเนื้อหาสาระให้เสียเวลา
00 ส่วนในสภาก็ศึกหนักไม่แพ้กัน แค่เบาะๆในวันที่รัฐบาลเสนอกฎหมายรับรองกฎบัตรของอาเซียน ก็ต้องเจอลูกป่วนจนต้องเวียนหัว นี่ยังไม่นับกฎหมายที่เกี่ยวกับกฎหมายการเงินที่จ่อคิวต้องเสนอเข้าไปในเร็วๆนี้ และยิ่งเสียงปริ่มน้ำ มันก็ยิ่งต้องลุ้นกันตัวโก่ง แต่ที่ต้องเสียวกันมากไปกว่านั้นก็คือผลการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 11 มกราคมนี้ ถ้าฝ่ายรัฐบาลได้เสียงเพิ่มก็น่าจะเบาใจได้บ้าง แต่ผลออกมาตรงกันข้าม ก็เตรียมนับถอยหลังได้เลย
00 รายนี้รับรองว่าชัวร์ไม่มั่วนิ่มแน่ สำหรับข่าวคราวเรื่องจ้างบริษัทต่างด้าวมาถล่มประเทศตัวเองของ “เฮียแม้ว” เพราะที่ผ่านมาก็ได้ยินมาเสมอต้นเสมอปลายอยู่แล้ว ดังนั้นข้อมูลที่คนของประชาธิปัตย์นำมาปูดก็ถือว่าจริง แต่เป็นข่าวเก่าตั้งแต่ปีมะโว้ ในวงการเขารู้กันมาเป็นปีแล้วหลังจากถูก คมช.ถีบตกเก้าอี้นั่นแหละ ก็แหมเฮียเขา“เหลี่ยมจัด” จะตาย
00 แต่พอเอ่ยชื่อ 3 ลิ่วล้อระดับหัวแถว อย่าง “พันศักดิ์-มิ้ง-อ้วน” ที่เป็นมือเป็นเท้า คอยประสานงานถือว่าไม่ธรรมดาเพราะ 3 คน 2 สไตล์ 2 รายหลังนี่ถือว่าจัดอยู่ในจำพวก “ซ้ายอกหัก” แล้วต่อมาพัฒนากลายเป็น “ซ้ายอารมณ์ค้าง” ยังฝังใจจะ “พลิกฟ้า” ไม่เลิก ส่วนรายแรกอยู่ในประเภทนักจินตนาการค่อนไปทาง “เพ้อฝัน เฟ้อเจ้อ” เมื่อมาเจอกันมันก็สนุกละครับพี่น้อง แต่รับรองว่าในระยะยาวคนที่สนุกไม่ใช่ “เฮียแม้ว” แน่นอน เพราะรายนั้นมีแต่ทุกข์เท่านั้นที่กำลังมาเยือน
00 ดังนั้นนาทีนี้ว่าไปทำไมมี ไม่ว่าบรรดาเกจิ หมอดูหมอเดาทำนายทายทักว่ารัฐบาล “อภิสิทธิ์” จะอยู่ได้ไม่ยืดก็ตาม เนื่องจากต้องเจอกับนานาอุปสรรค แต่ของอย่างนี้มันขึ้นอยู่กับฝีมือ พิสูจน์ผลงานในภาวะวิกฤตแบบนี้แหละ ถ้าเป็น “ของจริง” ก็ผ่านไปได้อีกยาว แต่ถ้ามีแต่ราคาคุย มัวแต่สร้างภาพ แค่ 2 เดือน ก็น่าจะรู้ผลแล้ว !!