ตลาดหุ้นไทย ไม่ขานรับ “มาร์ค-ขุนคลัง” หารือผู้บริหาร ตลท.ดัชนีภาคบ่ายร่วงหนักกว่า 2% หลังพาณิชย์ ปูดตัวเลขส่งออกเดือน พ.ย.51 ติดลบ 18% หนักที่สุดในรอบ 6 ปี
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีภาคบ่ายร่วงลงไปแล้ว 2% หลังจากกระทรวงพาณิชย์ ประกาศตัวเลขส่งออกล่าสุด ในเดือนพฤศจิกายน 2551 ติดลบไปถึงกว่า 18% เป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 6 ปี แต่ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์วันนี้ค่อนข้างเบาบาง ช่วงเข้าใกล้เทศกาลวันหยุดปลายปี
โดยเมื่อเวลา 15.41 น.ดัชนีอยู่ที่ระดับ 437.41 จุด ลดลง 9.60 จุด เปลี่ยนแปลง -2.15% มูลค่าการซื้อขาย 5,731.64 ล้านบาท
น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หุ้นไทยช่วงบ่ายร่วง 2% หลังตัวเลขส่งออกเดือนพฤศจิกายน 2551 ที่ออกมาย่ำแย่
ช่วงนี้ ตลาดหุ้นบ้านเราก็ไม่มีอะไร ตั้งแต่ช่วงเช้าวอลุ่มก็ไม่มาก หุ้นก็ลงมา เพราะขาดปัจจัยใหม่ๆ ส่วนข่าวเก่าๆ ก็รับรู้ไปมากแล้ว หลังจากนี้ ก็ต้องรอนโยบายของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ สำหรับแนวโน้มดัชนีอยู่ในช่วงอ่อนตัว มีโอกาสยังลงได้ น่าจะไปทยอยเก็บที่ประมาณ 430 จุด
นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้เป็นไปตามที่คาดว่าให้ระวังเมื่อตลาดหมดข่าว เนื่องจากตลาดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนขั้วและรอดูโฉมหน้าของรัฐบาลซึ่งปรากฏออกมารายชื่อก็ผิดฝาผิดตัวอย่างชัดเจน และทางสภาหอการค้าก็ออกมาบ่งชี้เลยก็เป็นจุดหนึ่งเหมือนตลาดมีการตอบรับตรงนี้ไปแล้ว แถมตลาดที่เคยคาดหวังไว้กับผิดหวังก็เป็นตัวสะท้อนออกมา
ประกอบกับเศรษฐกิจของทั่วโลกยังมีปัญหาถ้วนหน้า วันนี้ญี่ปุ่นโตโยต้ายักษ์ใหญ่ก็ขาดทุนในรอบ 71 ปี รวมถึงในเรื่องจีนไม่ได้ลดดอกเบี้ยอย่างที่เคยคาดหวังไว้ เช่นเดียวกันปัญหาการเมืองในบ้านเราเอง ผลประกอบการต่างๆ ก็คงจะย่ำแย่ อย่างวันนี้ตัวเลขส่งออกเดือนพ.ย.ก็ไม่ดี ตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลกที่จะประกาศออกมาส่วนใหญ่ทำให้นักลงทุนเองมีความกังวลเพิ่มขึ้นในจุดนี้ ตลาดหุ้นบ้านเราเองก็ตอบรับไปพอสมควรแล้ว
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ไม่ตอบรับข่าว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าหารือกับผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) บ่ายวันนี้
ล่าสุด ดัชนีภาคบ่ายปิดตลาดที่ระดับ 434.08 จุด ลดลง 12.93 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -12.93% มูลค่าการซื้อขาย 8,346.71 ล้านบาท โดยมีแรงเทขายในหุ้นกลุ่มพลังงานและแบงก์ ต่างชาติซื้อสุทธิ 596.10 ล้านบาท
