เอเอฟพี – มหาเธร์ โมฮัมมัด อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียออกโรงเรียกร้องให้ทั่วโลกร่วมกันคว่ำบาตรสหรัฐฯ ไม่ใช้เงินดอลลาร์และสินค้าอเมริกัน รวมทั้งเครื่องดื่มโคคา-โคลา เพื่อประท้วงการที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนรัฐยิว ในขณะที่เมื่อวานนี้(5) กองทัพอิสราเอลยังคงเดินหน้าถล่มฉนวนกาซาทั้งทางอากาศและทางภาคพื้นดินอย่างหนักต่อไป
ทั้งนี้มหาเธร์ได้แถลงเมื่อวานนี้ (5) ว่า “หากคุณหยุดใช้เงินสกุลดอลลาร์ สหรัฐฯก็ค้าขายไม่ได้ และหาเงินไม่ได้ สหรัฐฯก็จะยากจนลงและจะต้องหยุดผลิตอาวุธมากยิ่งๆ ขึ้นเพื่อฆ่าผู้คน”
“เราไม่ควรจะซื้ออาวุธเหล่านี้จากสหรัฐฯ เพราะเราสามารถจะซื้อจากรัสเซียได้ ถ้าเราต้องใช้เครื่องบินหรืออาวุธอื่นๆ” เขายังเสริมอีกว่า “ทุกคนต้องแสดงออก ... พวกเขาไม่ตายหรอกถ้าไม่ดื่มโคคา-โคลา”
นอกจากนั้นมหาเธร์ยังวิจารณ์การที่สหรัฐฯ ขัดขวางการออกคำแถลงของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ซึ่งเรียกร้องให้อิสราเอลยุติปฏิบัติการถล่มเขตกาซาของปาเลสไตน์ทั้งทางอากาศและทางบก เขายังบอกด้วยว่าไม่คิดว่าสหรัฐฯ ภายใต้การนำของบารัค โอบามา จะเปลี่ยนแนวทางใหม่แต่อย่างใด
“ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักในเรื่องนโยบายต่ออิสราเอล คุณก็รู้อยู่นี่ โอบามาไปอิสราเอลและขอการสนับสนุนจากพวกเขา เพราะมีผู้ลงคะแนนเสียงชาวยิวในสหรัฐฯ อยู่จำนวนมาก” มหาเธร์กล่าวและยังพูดด้วยว่า
“ผมนึกไม่ออกเลยว่าจะมีใครที่สุดแย่ได้เท่ากับ (ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู ) บุชอีกแล้ว ส่วนเขา(โอบามา) เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในบรรดาตัวเลือกที่แย่ๆ” อดีตนายกฯปากกรรไกรของมาเลเซียบอก
ทางด้านนายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี แห่งมาเลเซีย ก็ได้เรียกร้องให้สหประชาชาติจัดประชุมฉุกเฉินว่าด้วยการโจมตีกาซา โดยเขากล่าวเมื่อวานนี้เช่นกันว่า สหประชาชาตินั้นมี “หน้าที่ในทางศีลธรรม” ในการยุติความรุนแรง
ขณะเดียวกันนานาชาติก็เคลื่อนไหวกันมากขึ้นเพื่อหาทางยุติความขัดแย้งอีกครั้งหลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประสบความล้มเหลวเพราะสหรัฐฯ ยังคงสนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งขัน
ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี กำหนดเดินทางไปยังอิสราเอลและดินแดนปาเลสไตน์วานนี้ เช่นเดียวกับผู้แทนจากสหภาพยุโรปและรัสเซียซึ่งรับผิดชอบเรื่องตะวันออกกลาง เพื่อหาทางเจรจาหาทางยุติการสู้รบซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในเขตกาซาในรอบหลายทศวรรษ และเป็นปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดของอิสราเอลนับจากที่เข้าถล่มเลบานอนเมื่อปี 2006
ซาร์โกซีกำหนดพบกับนายกรัฐมนตรีเอฮุด โอลเมิร์ต ของอิสราเอลที่นครเยรูซาเลม และจะพบกับประธานาธิบดีมาหมุด อับบาส ของปาเลสไตน์ที่เมืองรามาเลาะห์ หลังจากที่เข้าพบประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัคแห่งอียิปต์ที่กรุงไคโร ทั้งนี้ซาร์โกซีหวังว่าอียิปต์จะฟื้นบทบาทการเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยปัญหาระหว่างอิสราเอลและฮามาส
โฆษกของกลุ่มฮามาสก็แถลงวานนี้ว่า กำลังส่งคณะผู้แทนไปยังอียิปต์ เพื่อการเจรจาเป็นครั้งแรกนับแต่ที่การสู้รบคราวนี้เริ่มต้นขึ้น
ไอแซค เฮอร์ซ็อก รัฐมนตรีกิจการสังคมของอิสราเอลกล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่ากลุ่มฮามาสกำลังถูกกดดันอย่างหนักจากปฏิบัติการครั้งนี้และคงจะต้องหาทางออกจากความขัดแย้งซึ่งตนเองประเมินกำลังการสู้รบทางการทหารต่ำเกินไป
อย่างไรก็ดี การโจมตีฉนวนกาซาครั้งนี้ทำให้ชาวมุสลิมทั่วโลกออกมาประท้วงการกระทำของอิสราเอล ส่วนบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติก็ได้ออกมากล่าวแสดงความเสียใจในวันอาทิตย์ (4) หลังจากที่สหประชาชาติประสบความล้มเหลวในการเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุด แต่เขาบอกว่าสหประชาชาติจะคอยสนับสนุนผู้ที่มีบทบาทในการหาทางยุติความรุนแรงครั้งนี้
ทั้งนี้ล่าสุด หน่วยทหารราบของอิสราเอลได้ใช้รถถังและเฮลิคอปเตอร์บุกเข้าล้อมเมืองกาซาซิตีหลังจากที่แบ่งพื้นที่ฉนวนกาซาออกเป็นสองส่วนโดยเข้าควบคุมเส้นทางที่มุ่งไปสู่เมืองหลวงได้แล้ว โดยขณะนี้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปอย่างน้อย 520 คน โดยเป็นเด็กไม่ต่ำกว่า 90 คน ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวนสูงถึงกว่า 2,500 คน
ทั้งนี้มหาเธร์ได้แถลงเมื่อวานนี้ (5) ว่า “หากคุณหยุดใช้เงินสกุลดอลลาร์ สหรัฐฯก็ค้าขายไม่ได้ และหาเงินไม่ได้ สหรัฐฯก็จะยากจนลงและจะต้องหยุดผลิตอาวุธมากยิ่งๆ ขึ้นเพื่อฆ่าผู้คน”
“เราไม่ควรจะซื้ออาวุธเหล่านี้จากสหรัฐฯ เพราะเราสามารถจะซื้อจากรัสเซียได้ ถ้าเราต้องใช้เครื่องบินหรืออาวุธอื่นๆ” เขายังเสริมอีกว่า “ทุกคนต้องแสดงออก ... พวกเขาไม่ตายหรอกถ้าไม่ดื่มโคคา-โคลา”
นอกจากนั้นมหาเธร์ยังวิจารณ์การที่สหรัฐฯ ขัดขวางการออกคำแถลงของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ซึ่งเรียกร้องให้อิสราเอลยุติปฏิบัติการถล่มเขตกาซาของปาเลสไตน์ทั้งทางอากาศและทางบก เขายังบอกด้วยว่าไม่คิดว่าสหรัฐฯ ภายใต้การนำของบารัค โอบามา จะเปลี่ยนแนวทางใหม่แต่อย่างใด
“ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักในเรื่องนโยบายต่ออิสราเอล คุณก็รู้อยู่นี่ โอบามาไปอิสราเอลและขอการสนับสนุนจากพวกเขา เพราะมีผู้ลงคะแนนเสียงชาวยิวในสหรัฐฯ อยู่จำนวนมาก” มหาเธร์กล่าวและยังพูดด้วยว่า
“ผมนึกไม่ออกเลยว่าจะมีใครที่สุดแย่ได้เท่ากับ (ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู ) บุชอีกแล้ว ส่วนเขา(โอบามา) เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในบรรดาตัวเลือกที่แย่ๆ” อดีตนายกฯปากกรรไกรของมาเลเซียบอก
ทางด้านนายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี แห่งมาเลเซีย ก็ได้เรียกร้องให้สหประชาชาติจัดประชุมฉุกเฉินว่าด้วยการโจมตีกาซา โดยเขากล่าวเมื่อวานนี้เช่นกันว่า สหประชาชาตินั้นมี “หน้าที่ในทางศีลธรรม” ในการยุติความรุนแรง
ขณะเดียวกันนานาชาติก็เคลื่อนไหวกันมากขึ้นเพื่อหาทางยุติความขัดแย้งอีกครั้งหลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประสบความล้มเหลวเพราะสหรัฐฯ ยังคงสนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งขัน
ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี กำหนดเดินทางไปยังอิสราเอลและดินแดนปาเลสไตน์วานนี้ เช่นเดียวกับผู้แทนจากสหภาพยุโรปและรัสเซียซึ่งรับผิดชอบเรื่องตะวันออกกลาง เพื่อหาทางเจรจาหาทางยุติการสู้รบซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในเขตกาซาในรอบหลายทศวรรษ และเป็นปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดของอิสราเอลนับจากที่เข้าถล่มเลบานอนเมื่อปี 2006
ซาร์โกซีกำหนดพบกับนายกรัฐมนตรีเอฮุด โอลเมิร์ต ของอิสราเอลที่นครเยรูซาเลม และจะพบกับประธานาธิบดีมาหมุด อับบาส ของปาเลสไตน์ที่เมืองรามาเลาะห์ หลังจากที่เข้าพบประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัคแห่งอียิปต์ที่กรุงไคโร ทั้งนี้ซาร์โกซีหวังว่าอียิปต์จะฟื้นบทบาทการเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยปัญหาระหว่างอิสราเอลและฮามาส
โฆษกของกลุ่มฮามาสก็แถลงวานนี้ว่า กำลังส่งคณะผู้แทนไปยังอียิปต์ เพื่อการเจรจาเป็นครั้งแรกนับแต่ที่การสู้รบคราวนี้เริ่มต้นขึ้น
ไอแซค เฮอร์ซ็อก รัฐมนตรีกิจการสังคมของอิสราเอลกล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่ากลุ่มฮามาสกำลังถูกกดดันอย่างหนักจากปฏิบัติการครั้งนี้และคงจะต้องหาทางออกจากความขัดแย้งซึ่งตนเองประเมินกำลังการสู้รบทางการทหารต่ำเกินไป
อย่างไรก็ดี การโจมตีฉนวนกาซาครั้งนี้ทำให้ชาวมุสลิมทั่วโลกออกมาประท้วงการกระทำของอิสราเอล ส่วนบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติก็ได้ออกมากล่าวแสดงความเสียใจในวันอาทิตย์ (4) หลังจากที่สหประชาชาติประสบความล้มเหลวในการเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุด แต่เขาบอกว่าสหประชาชาติจะคอยสนับสนุนผู้ที่มีบทบาทในการหาทางยุติความรุนแรงครั้งนี้
ทั้งนี้ล่าสุด หน่วยทหารราบของอิสราเอลได้ใช้รถถังและเฮลิคอปเตอร์บุกเข้าล้อมเมืองกาซาซิตีหลังจากที่แบ่งพื้นที่ฉนวนกาซาออกเป็นสองส่วนโดยเข้าควบคุมเส้นทางที่มุ่งไปสู่เมืองหลวงได้แล้ว โดยขณะนี้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปอย่างน้อย 520 คน โดยเป็นเด็กไม่ต่ำกว่า 90 คน ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวนสูงถึงกว่า 2,500 คน
