เอเจนซี/เอเอฟพี - ทหารอิสราเอลหลายพันคนพร้อมกับขบวนรถถังหลายสิบหลายร้อยคัน รุกรานลึกเข้าไปในเขตฉนวนกาซาเมื่อวานนี้(4) และเกิดการสู้รบกับพวกนักรบหัวรุนแรงชาวปาเลสไตน์ บริเวณนอกนครกาซาซิตี อันเป็นเมืองเอกของดินแดนแคบๆ ริมชายฝั่งซึ่งมีชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่จำนวนมาก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตทะลุเกิน 510 รายแล้ว นับเป็นเหตุการณ์ต่อสู้ครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีของความขัดแย้งสำคัญที่สุดของภูมิภาคตะวันออกกลาง
พลเรือนชาวปาเลสไตน์จำนวนมาก ตลอดจนนักรบกลุ่มฮามาส ถูกสังหารเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ จากการที่อิสราเอลระดมยิงปืนนานาชนิดเข้าใส่บ้านเรือนและย่านช็อปปิ้งหลักของกาซา ผู้เห็นเหตุการณ์ตลอดจนแหล่งข่าวทางการแพทย์ชาวปาเลสไตน์หลายๆ รายบอก
พวกรถพยาบาลฉุกเฉินต้องพยายามหาทางเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ขณะที่การสู้รบเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในดินแดนแคบๆ ที่มีประชากรอัดแน่นเอียดอยู่ถึง 1.5 ล้านคนแห่งนี้
บรรดาผู้เห็นเหตุการณ์ที่เป็นชาวปาเลสไตน์เล่าว่า ขบวนรถถังและทหารอิสราเอลรุกเข้ามาในตอนกลางคืนวันเสาร์(3) โดยมุ่งตัดแบ่งดินแดนกาซาออกเป็นสองครึ่ง และพอถึงตอนเช้าวานนี้ก็กำลังประชิดเมืองกาซาซิตี้
อิสราเอลยกกำลังทางบกเข้ารุกรานฉนวนกาซาที่อยู่ใต้การปกครองของกลุ่มฮามาส ภายหลังจากได้ถล่มโจมตีดินแดนแห่งนี้ทั้งจากทางบก, ทางทะเล และทางอากาศอยู่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ทว่ายังคงประสบความล้มเหลวไม่สามารถหยุดยั้งไม่ให้พวกนักรบฮามาสยิงจรวดเข้าโจมตีบริเวณตอนใต้ของอิสราเอลได้ และรัฐยิวก็อ้างเหตุผลเรื่องนี้เป็นสาเหตุหลักในการปฏิบัติการของตน
กองทัพอิสราเอลแถลงว่า เมื่อวานนี้มีจรวดถูกยิงมาตกใส่อิสราเอลอีกราว 25 ลูก ลูกหนึ่งตกใส่บ้านหลังหนึ่งในเมืองสเดร็อต ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ โดยก่อนหน้านั้น การโจมตีด้วยจรวดของฮามาสทำให้ชาวอิสราเอลตายไป 4 คน
ขณะที่หน่วยแพทย์ฉุกเฉินของกาซาแจ้งว่า นับแต่อิสราเอลเปิดการรุกรานทางบกในคืนวันเสาร์ ได้มีประชาชนปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 19 คน ส่วนการโจมตีในช่วงก่อนหน้านั้น มีชาวปาเลสไตน์ตายไปอย่างน้อย 485 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 2,400 คน
การที่มีพลเรือนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากเช่นนี้ น่าที่จะทำให้อิสราเอลถูกแรงกดดันจากนานาชาติมากขึ้น ให้ยุติยุทธการครั้งใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซาในรอบระยะเวลา 40 ปีของตนครั้งนี้
ทว่า การสู้รบคราวนี้ก็ได้กลายเป็นเดิมพันทางการเมืองอันสำคัญยิ่งสำหรับพวกผู้นำอิสราเอล ในเมื่อกำลังจะมีการเลือกตั้งระดับชาติในวันที่ 10 กุมภาพันธ์อยู่แล้ว
รัฐมนตรีกลาโหม เอฮุด บารัค ของอิสราเอล แถลงว่าจุดมุ่งหมายของการบุกทางบก ก็เพื่อพิทักษ์ปกป้องดินแดนภาคใต้ของอิสราเอลให้ปลอดภัยจากการโจมตีด้วยจรวดของฮามาส เขากล่าวระหว่างปราศรัยทางโทรทัศน์ว่า ไม่ได้คิดที่จะพยายามโค่นล้มรัฐบาลฮามาส
“มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หรอก มันจะไม่ใช่เรื่องสั้นๆ ด้วย” เป็นคำกล่าวของบารัค ซึ่งเป็นผู้นำพรรคพรรคเลเบอร์ที่มีแนวทางกลาง-ซ้าย อีกทั้งเป็นคู่แข่งขันคนหนึ่งที่หวังจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเดือนหน้า
เขายังกล่าวย้ำภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอิสราเอลวานนี้ว่า ยุทธการคราวนี้อาจจะมีการขยายตัวและเพิ่มความเข้มข้นยิ่งขึ้นตามความจำเป็น “สงครามนั้นไม่ใช่การไปเที่ยวปิกนิก” เขาบอก
ขณะที่นายกรัฐมนตรี เอฮุด โอเมิร์ต บอกว่า อิสราเอลจะไม่เปิดแนวรบใหม่อีกแนวรบหนึ่งทางตอนเหนือ ซึ่งดูจะเป็นการอ้างอิงถึงความตึงเครียดที่มีอยู่กับพวกกองกำลังฮิซโบลเลาะห์ ในเลบานอน
ทางด้านโฆษกของฝ่ายกองกำลังอาวุธของฮามาสซึ่งใช้ชื่อว่า กองกำลัง อิซซ์ เอล-ดีน อัล-กอสซัม แถลงว่า ทหารอิสราเอลจะต้องพบกับความตายหรือไม่ก็ถูกจับ “พวกศัตรูลัทธิไซออนนิสต์ (ลัทธิฟื้นชาติยิว)จะต้องทราบดีว่า สมรภูมิของเขาในกาซานั้นคือสมรภูมิแห่งความพ่ายแพ้” โฆษกผู้นี้บอก
ที่นครนิวยอร์ก คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ประชุมกันเพื่อหารือถึงความเป็นไปล่าสุดในกาซา นักการทูตหลายรายบอกว่า ลิเบียได้พยายามเสนอให้คณะมนตรีออกคำแถลงที่มีเนื้อหาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดยิงในทันที ทว่าหลังจากการเจรจาต่อรองอยู่เกือบ 4 ชั่วโมงจนกระทั่งถึงตอนดึกคืนวันเสาร์ สหรัฐฯก็ยังคงไม่ยอมเห็นด้วย จึงทำให้ความริเริ่มนี้ต้องตกไป
รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็น อเลจานโดร วูลฟ์ กล่าวในเวลาต่อมาว่า วอชิงตันนั้นต้องการให้มีการหยุดยิงที่ยั่งยืนและทุกฝ่ายให้ความเคารพ แต่ก็เชื่อว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวดที่จะต้อง “ไม่มีการกลับคืนไปสู่สถานะเดิม” ที่ปล่อยให้ฮามาสโจมตีอิสราเอล
สำหรับปฏิกิริยาของชาติยุโรป ฝรั่งเศสได้ออกมาประณามการโจมตีภาคพื้นดินของอิสราเอลและการยิงจรวดของฮามาส โดยที่ประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี มีกำหนดเดินทางไปยังนครเยรูซาเลมในวันนี้(5)
ส่วนนายกรัฐมนตรี กอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษ แถลงว่า การโจมตีภาคพื้นดินของรัฐยิว ก่อให้เกิด “ชั่วขณะที่มีอันตรายอย่างยิ่ง” ในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์นี้