xs
xsm
sm
md
lg

เจรจานักโทษหนีคดี เสี่ยงเข้าเนื้อ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ต้องยอมรับความจริงกันว่านับจากวันจันทร์ที่ 5 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่เปิดทำการเป็นวันแรกเป็นต้นไป รัฐบาลผสม “อภิสิทธิ์ 1” จะต้องเจอกับอุปสรรคขวากหนาม ทั้งศึกนอกศึกในประดังเข้ามา

ประกอบกับเสียงของรัฐบาลที่ปริ่มน้ำ ถ้าตั้งรับไม่ดีก็มีสิทธิ์เดี้ยงกลางคัน

อย่างไรก็ตามด้วยชื่อชั้นความเป็นประชาธิปัตย์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในทางการเมืองมานานกว่า 61 ปี ย่อมไม่ใช่ “ตะเกียงไร้น้ำมัน” ต้องมีฤทธิ์เดชพอตัวเหมือนกัน

ประเภทฉวยโอกาสตีโต้กลับ พลิกจากรับเป็นรุกจนฝ่ายตรงข้ามตั้งตัวไม่ทันก็เคยมีเห็นอยู่บ่อยๆ ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันแม้ว่าถ้าพิจารณาด้วยสายตาจะเห็นว่าฝ่าย “เครือข่ายทักษิณ” กำลังเปิดศึก “เอาคืน” เร่งเกมเข้ามาทุกทาง

หลังจากส่ง “คนเสื้อแดง” มาขย่มรัฐบาลในวันแถลงนโยบายช่วงส่งท้ายปี พอเปิดทำการวันแรกก็เปิดฉากด้วยการเปิด “ซักฟอก” นอกสภาทันที พร้อมๆ กับแย้มท่าทีว่าจะยื่นร้องเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญผ่านทางประธานวุฒิสภาเพื่อให้ตรวจสอบที่มาของอำนาจของนายกฯว่าเป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตยหรือไม่ แม้ว่ากรณีนี้ตามขั้นตอนจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะรู้ผล แต่มันก็สร้างความรำคาญได้ไม่น้อย

ขณะเดียวกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการเลือกตั้งซ่อมครั้งใหญ่ใน 26 เขตจำนวนถึง 29 คน ก็ถือว่าเป็นอีกปมสำคัญที่จะชี้ถึงอนาคตของรัฐบาลผสมชุดนี้ด้วย

เมื่อสถานการณ์รุมเร้าเข้ามาแบบนี้มีหรือที่ประชาธิปัตย์จะนั่งอยู่เฉยๆรอให้ถูกถล่มอยู่ข้างเดียว ต้องหาทางตีโต้กลับไปบ้าง

แม้นาทีนี้ยังไม่อาจสรุปได้ว่าผลในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ก็เห็นสัญญาณแล้วว่าเริ่มเดินเกมตีโต้กลับไปบ้างเช่นเดียวกัน

เริ่มจากการออกมาให้ข่าวจากรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงอย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังหาทางเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านทางคนใกล้ชิด แม้ยังต่อสายกันไม่ติดก็ตาม หรือข่าวมีโทรศัพท์ขู่ฆ่านายกรัฐมนตรี รวมทั้งกรณีมีกลุ่มชายชุดดำถือ “ตีนตบ” พยายามเข้ามาด้วยท่าทางประสงค์ร้ายในช่วงที่ไปช่วยลูกพรรคหาเสียงที่ราชบุรี

รวมทั้งเรื่องที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาเปิดโปงการว่าจ้าง 3 บริษัทล็อบบี้ยิสต์ต่างประเทศเพื่อระดมโจมตี ลดความน่าเชื่อถือในสถาบันหลักในประเทศ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวหากสังเกตให้ดีล้วนเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน และออกมาในลักษณะเปิดโปงพฤติกรรมของ “เฮียเหลี่ยม”

ออกมาในโทน “เหลี่ยมจัด” ชี้ให้สังคมได้เห็นภาพออกมาในด้านลบ

อย่างไรก็ดีสิ่งที่หลายคนเริ่มกังขาก็คือประเด็นการไปเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเวลานี้มีสถานะเป็นนักโทษที่กำลังหลบหนีอาญาแผ่นดิน และยิ่งเป็นคนที่ดำรงตำแหน่งรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงจะนั่งลงเจรจากับคนประเภทนั้นถือว่าเหมาะสมหรือไม่

อีกทั้งจะต้องถูกตั้งคำถามว่าหากมีการเจรจาพูดคุยกันจริงจะมีการ “ต่อรอง” เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางคดี และสมประโยชน์ทางการเมืองทั้งสองฝ่ายหรือไม่ รวมทั้งยังเป็นการหมิ่นเหม่ต่อคำพิพากษาของศาลที่ได้ตัดสินชี้ขาดไปแล้ว

ดังนั้นนาทีนี้แม้ว่าในเบื้องต้นอาจเป็นเกมของประชาธิปัตย์ที่พยายามตีโต้กลับไปยังฝ่าย “ทักษิณ” บ้าง โดยเน้นย้ำให้สังคมได้เห็นภาพลบอย่างต่อเนื่อง

แต่อีกด้านการเล่นเกมนี้ถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่า รัฐบาลประชาธิปัตย์ที่ก่อนหน้านี้มักอ้างหลักการยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรม แต่กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับกลายเป็นว่าเลือกปฏิบัติกำลังพินอบพิเทาไปนั่งเจรจา เพื่อประโยชน์ทางการเมือง

แทนที่จะต้องเร่งรีบทำทุกวิถีทางตามกฎหมายเพื่อลากคอกลับมาลงโทษตามความผิด แต่กลับไม่ทำ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น