“สุริยะใส”ยัน รมว.ต่างประเทศ ไม่ใช่โควตาพันธมิตรฯ เชื่อ “ทูตกษิต” ได้ตำแหน่งเพราะความสามารถและมีผลงาน ทั้งยังเป็นคนใน ปชป. ย้ำพันธมิตรฯ ไม่ใช่กลุ่มผลประโยชน์ แบบ นปช.ที่คอยแต่ปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นการเมืองภาคประชาชนที่พร้อมตรวจสอบผู้มีอำนาจทุกเมื่อ
วันนี้ (20 ธ.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชี้แจงกรณีที่คนบางกลุ่มอ้างว่า นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัคราชทูตไทยประจำประเทศต่างๆ หลายประเทศ ซึ่งได้มาขึ้นเวทีปราศรัยกับพันธมิตรฯ ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในโควตาของพันธมิตรฯ นั้น เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะพันธมิตรฯ ไม่ได้ไปต่อรองหรือขอโควตารัฐมนตรี ที่ผ่านมาแกนนำพันธมิตรฯ ได้วิพากษ์วิจารณ์การแต่งตั้ง ครม. ด้วยหลักการเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่เพื่อกลุ่มใด กลุ่มหนึ่งเท่านั้น
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า เชื่อว่าที่นายกษิตได้รับการคัดเลือกให้เป็น รมว.การต่างประเทศ ก็เพราะเป็นคนในพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ และประวัติผลงานน่าเชื่อถือปกป้องผลประโยชน์ของคนไทยมาอย่างเป็นที่ประจักษ์ ไม่ใช่เป็นเพราะว่ามาร่วมปราศรัยกับพันธมิตรฯ
“ผมว่าเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำที่เลือกท่านทูตกษิต เป็น รมว.ต่างประเทศ เพราะในช่วงที่ท่านมาพูดปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ หลายครั้งก็เท่ากับเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของท่านให้สาธารณะได้รับรู้ว่า รมว.ต่างประเทศควรทำอะไรกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นกรณีข้อพิพาทเรื่องปราสาทพระวิหารที่เราต้องเสียปราสาทให้กับกัมพูชาจะเอากลับมาเป็นของคนไทยได้อย่างไร กรณีการเพิกถอนหนังสือเดินทางต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กรณีการวางแผนโลกล้อมประเทศ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ในต่างประเทศโจมตีประเทศไทยและสถาบันเบื้องสูงอยู่ในขณะนี้ หรือแม้แต่บทบาทของกระทรวงการต่างประเทศในการลงนามระหว่างประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านสิทธิมนุษยชนฯ ถือว่าวิสัยทัศน์บนเวทีพันธมิตรฯ ที่ท่านทูตกษิตมาปราศรัย เป็นวิสัยทัศน์ที่ปกป้องผลประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ตั้ง รมว.ต่างประเทศเพื่อเดินตามก้น พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนที่ผ่านๆ มา”
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า เราควรดีใจที่ได้คนแบบนี้ไปเป็น รมว.ต่างประเทศ ในขณะเดียวกันพันธมิตรฯ ก็ยืนยันตรวจสอบรัฐบาลชุดนี้อย่างเข้มข้นไม่เลือกปฏิบัติ แม้แต่นายกษิต เราก็จะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาว่าได้ทำในสิ่งที่ท่านแสดงวิสัยทัศน์ไว้หรือไม่ ถ้าพูดอย่างทำอย่างพันธมิตรฯ ก็ไม่ละเว้นที่จะตรวจสอบอย่างแน่นอน
“เพราะพันธมิตรฯ ไม่ใช่กลุ่มผลประโยชน์ แต่เป็นขบวนการเคลื่อนไหวที่เอาประโยชน์ของประเทศและประชาชนส่วนรวมเป็นตัวตั้ง ไม่เหมือนกับกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ที่เป็นกลุ่มผลประโยชน์เคลื่อนไหวเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น ในยามที่ พ.ต.ท.ทักษิณและนอมินีมีอำนาจกลุ่มคนเสื้อแดงก็ไม่เคยมาตรวจสอบ ทำผิดยังออกมาปกป้องสนับสนุน ซึ่งต่างกับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ที่เป็นการเมืองภาคประชาชนอย่างแท้จริง
“เราถือหลักการว่าอำนาจอยู่กับใครก็ต้องได้รับการตรวจสอบจากประชาชนอย่างตรงไปตรงมา คล้ายๆ กับในช่วงรัฐบาล คมช.ก็เป็นการยืนยันว่า พันธมิตรฯ ไม่เลือกปฏิบัติเราให้เวลาสักระยะเมื่อออกนอกลู่นอกทางก็ต้องเคลื่อนไหวตรวจสอบ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เราก็จะถือหลักปฏิบัติเดียวกัน” นายสุริยะใสกล่าวย้ำ