xs
xsm
sm
md
lg

อาการทั้งเพ้อ ทั้งฝัน ทั้งบ้า ของ ทักษิณ ชินวัตร

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการหนีคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 2 ปี ให้สัมภาษณ์ นิตยสารซีอีโอ ตะวันออกกลาง มีสาระที่น่าสนใจคือ

นักข่าวถามถึงกรณีการถูกออกหมายจับจากทางการไทย และรัฐบาลตะวันตกจำนวนหนึ่งตีตัวออกห่าง

พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า คุณรู้ไหมในโลกนี้มีประเทศกี่ประเทศ? มันมี 197 ประเทศ และมีเพียง 17 ประเทศที่มีสนธิสัญญา (ส่งผู้ร้ายข้ามแดน) กับไทย นอกจากนี้ เอาเข้าจริงก็มีแค่ 10 ประเทศ ที่สนธิสัญญายังมีผลบังคับใช้อยู่ ดังนั้นคุณไม่ต้องห่วงผมหรอก ผมยังมีที่ให้อยู่อีกหลายแห่ง

นักข่าวถามคำถามดังกล่าว เชื่อว่าเขาไม่ได้ถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เขาถามเพราะอยากรู้กรณีที่ถูกทางการไทยออกหมายจับ และประเทศตะวันตกตีตัวออกห่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศสหราชอาณาจักรที่พ.ต.ท.ทักษิณตั้งอกตั้งใจเอาเป็นที่พำนัก เขาและครอบครัวปักหลักอยู่ที่นั่นตั้งแต่ที่ถูกคณะทหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 และเมื่อหนีหมายศาลไปอีกครั้งกับภริยาเมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2551 จากจีนก็มุ่งสู่อังกฤษ

ตอนที่หนีไปอังกฤษวันโน้นก็บอกว่า เหตุที่เลือกอังกฤษก็เพราะอังกฤษเป็นประเทศประชาธิปไตย และในที่สุดก็เป็นอังกฤษที่พ.ต.ท.ทักษิณชื่นชมนี่แหละครับ ถอนวีซ่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมให้พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ

พ.ต.ท.ทักษิณทางหนึ่งบอกว่า ในโลกนี้มีประเทศเป็นร้อยประเทศ และมีอยู่เพียง 10 กว่าประเทศเท่านั้นเอง ที่ยึดมั่นในสนธิสัญญา (ส่งผู้ร้ายข้ามแดน) เขายังมีที่หยัดยืนอยู่อีกมากมายสามารถหนีคุกได้อีก

นี่เป็นความสามารถที่น่าชื่นชม หรือน่าสมเพชเวทนา

น่าจะเป็นเรื่องที่น่าเวทนาเสียมากกว่า เพราะทางหนึ่งเขาก็โอดครวญว่าเขาถูกต้อนเข้ามุม เขาอยากกลับเข้ามาในประเทศไทย ทั้งที่ความเป็นจริงก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณไม่จำต้องแสวงหาแผ่นดินอยู่ใหม่ เขาเป็นคนไทย เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เขาควรที่จะเป็นแบบอย่างของคนที่เป็นพลเมืองดี คือการเคารพตัวบทกฎหมาย

ต้องเข้าใจว่าการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นคนละเรื่องกันกับสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ แม้ว่า คตส.ซึ่งตรวจสอบการทำงานการบริหารบ้านเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณ จะมีกำเนิดมาจากคณะรัฐประหาร แต่งานที่ คตส.ตรวจสอบก็ต้องส่งให้อัยการ อัยการพิจารณาสมควรฟ้องหรือไม่สมควรฟ้องแล้วศาลจึงพิจารณา

การพิจารณาของศาลเป็นไปอย่างอิสระ ปราศจากการแทรกแซง และที่เห็นๆ ก็เป็นฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั่นเองที่พยายามที่จะแทรกแซง จนกระทั่งทีมทนายความของเขาต้องถูกศาลสั่งจำคุกมาแล้ว

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งอยู่ระหว่างหนีคุกให้สัมภาษณ์อีกหลายประเด็น กล่าวคือ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า หลายเดือนมานี้ค่อนข้างยุ่ง (เขาต้องขายสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ อังกฤษถอนวีซ่าไม่ยอมให้เขาเข้าประเทศ ต้องหย่าขาดกับภริยาคุณหญิงพจมาน ทั้งที่เขาได้ชื่อว่าเป็นคนที่รักครอบครัวมากคนหนึ่ง ซ้ำมีรายงานว่าทางการอังกฤษอายัดเงินก้อนใหญ่ของเขาไว้)

ผมไม่มีทางเลือก ตอนแรกหลังจากผมถูกขับออกจากตำแหน่ง ภรรยาผมก็บอกว่าอย่าให้ผมกลับไปเล่นการเมืองอีก เขาไม่ชอบการเมืองเท่าไร อีกทั้งครอบครัวผมทั้งครอบครัวก็ประสบความยากลำบาก ผมจึงไม่กลับไปเล่นการเมือง แต่ตอนนี้ผมถูกต้อนเข้ามุม เพราะประเทศกำลังตกต่ำลงอย่างมาก ผู้คนไร้ความเชื่อมั่นในประเทศไทย ชุมชนต่างชาติก็ขาดความเชื่อมั่น ผู้คนในชนบทกำลังประสบความยากลำบาก

ถ้าผมมีโอกาสกุมหางเสือของประเทศ ผมสามารถเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาให้ประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว เราต้องหาหนทางที่จะให้ผมกลับประเทศให้ได้ นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมผมจึงต้องบอกกับคุณว่า ผมจึงต้องกลับสู่แวดวงการเมืองไทย

และนี่เองเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณหญิงพจมานจึงขอหย่า

คำให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณดังกล่าวไม่มีทางที่จะให้คิดเป็นอย่างอื่นได้นอกจากการสูญเสียอำนาจทำให้สติสัมปชัญญะของเขาผิดปกติ บ้า ละเมอเพ้อพกหรืออย่างอ่อนที่สุดก็ฝัน เป็นฝันทั้งที่ยังตื่นอยู่

เขารักและห่วงใยประเทศไทยขนาดที่เขาต้องหย่ากับคุณหญิงพจมาน เพราะคุณหญิงพจมานไม่ชอบการเมือง แต่เขาเห็นปัญหาของประเทศชาติปัญหาของประชาชนคนไทยสำคัญกว่า คนที่รักครอบครัวอย่างเขาต้องเสียสละหย่าขาดภริยา เพื่อที่จะเข้าสู่วังวนของการเมืองแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติ แก้ปัญหาให้กับประชาชน

ช่างเป็นความเสียสละใหญ่หลวงอะไรขนาดนี้

เขาลืมคิดไปแล้วกระมังว่า หลังจากที่เขากระเด็นไปจากอำนาจเพราะการรัฐประหารของคณะทหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 คตส.ได้ตรวจสอบพบความผิดของเขาหลายเรื่องหลายประเด็น มีบางเรื่องยังอยู่ที่อัยการ บางเรื่องขึ้นสู่การพิจารณาของศาลแล้ว บางเรื่องศาลตัดสินไปแล้ว โดยให้จำคุกตัวเขาไว้ 2 ปี เขายังอยู่ในสภาพของนักโทษหนีคุก

ยังจะละเมอเพ้อพกที่จะมาถือหางเสือของประเทศอีกล่ะหรือ ก้าวแรกที่เขาเหยียบประเทศไทย สิ่งที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะต้องทำก็คือนำเขาขึ้นสู่ศาล นำเขาไปสู่เรือนจำแห่งใดแห่งหนึ่ง มิใช่ผู้ถือหางเสือของประเทศ อาการละเมอเพ้อพกนั่นอาจจะเกิดจากความสามารถของเขาที่ช่วยสงเคราะห์ให้นายสมัคร สุนทรเวช ได้เป็นนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ ติยะไพรัชได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และอีกหลายๆ คนได้เป็นรัฐมนตรีว่าการฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ อื่นๆ อีกมากมาย

เขาคิดว่าประเทศไทยทั้งประเทศอยู่ภายใต้อุ้งมือของเขา จะบันดลบันดาลอย่างไรก็ได้ ถึงกับบอกว่า ปัญหาของเขาเป็นปัญหาการเมือง ต้องแก้ด้วยการเมือง นั่นก็คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เขาพ้นผิด

แต่เมื่อบรรดาลิ่วล้อของเขาขยับที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เขาพ้นผิดประชาชนเรือนหมื่นเรือนแสนก็ออกมาคัดค้าน ซ้ำบรรดาลิ่วล้อของเขา ไม่ว่า สมัคร สุนทรเวช ยงยุทธ ติยะไพรัช สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต่างก็ตกอยู่ในสภาพที่เน่าเหม็น ไม่ต่างกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายสมัคร ต้องกระเด็นออกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ยงยุทธ ติยะไพรัช กระเด็นออกจากเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชาชนต้องถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ หลายต่อหลายคนต้องยุติบทบาททางการเมือง 5 ปี

ยังจะละเมอเพ้อพกอะไรกันอีก

การเคลื่อนไหวของประชาชน ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ไม่ได้ให้บทเรียนแก่ พ.ต.ท.ทักษิณเลย เพราะเขาอยู่ในสภาพสติแตก บ้าไปเสียแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น