xs
xsm
sm
md
lg

"ปากีสถาน-อินเดีย"ไม่พร้อมทำสงคราม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - นักวิเคราะห์ชี้ ความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามระหว่างอินเดียกับปากีสถานแม้จะเพิ่มสูงขึ้น หลังจากมีการปรับกำลังพลตามแนวชายแดน แต่ทั้งสองประเทศต่างก็ไม่มีเงินมากพอสำหรับใช้จ่ายในการทำศึก รวมทั้งหากเกิดสงครามขึ้นจริง ผลประโยชน์ของสหรัฐฯจะถูกคุกคาม และนี่จะทำให้วอชิงตันต้องใช้ความพยายามอย่างสุดฤทธิ์เพื่อห้ามทัพ
อินเดียและปากีสถานมีปัญหาตึงเครียดกันมากขึ้นหลังจากที่เกิดเหตุโจมตีเมืองมุมไบจนมีผู้เสียชีวิตไปถึง 172 คน แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่เปิดฉากทำสงครามต่อกัน เพราะจะต้องพิจารณาประเด็นกดดันอื่นๆ ให้รอบคอบ อย่างเช่น การแพร่ขยายตัวของพวกหัวรุนแรง
นอกจากนั้นพวกผู้เชี่ยวชาญยังระบุด้วยว่า แนวโน้มการเกิดสงครามยิ่งมีน้อยลงเพราะสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับทั้งสองฝ่าย จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย
"ความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามมีสูงขึ้น เพราะมีการระดมกำลังทหาร" ฮะซาน อัสคารี นักวิเคราะห์และอดีตหัวหน้าภาควิชารัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยปัญจาบกล่าว "แต่ก็ไม่จำเป็นว่าทั้งสองประเทศจะต้องเข้าสู่สงคราม เพราะยังมีประเด็นต้องพิจารณาอีกมากที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่กล้าล้ำเส้น"
ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของปากีสถานกล่าวเมื่อวันศุกร์(26)ว่า ทางการอิสลามาบัดได้สั่งเคลื่อนกำลังทหาร "จำนวนหนึ่ง" ที่ประจำการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายตอลิบานในพื้นที่ชนกลุ่มน้อยใกล้กับอัฟกานิสถาน ให้มาประจำการที่แนวชายแดนติดกับอินเดียตามมาตรการ "รักษาความปลอดภัยขั้นต่ำl6f"
การสั่งเคลื่อนกำลังทหารดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่หน่วยข่าวกรองของปากีสถานระบุว่า อินเดียได้แจ้งไปยังหน่วยทหารต่างๆ ให้เคลื่อนพลไปยังชายแดน และมีคำสั่งห้ามลาด้วย ทว่า โฆษกของกองทัพอินเดียกล่าวว่าไม่มีการสั่งเคลื่อนกำลังแต่อย่างใด
พลเอกตาลัต มาซูด นายทหารเกษียณราชการชาวปากีสถานเตือนว่า "ในขณะที่ผู้นำทางการเมืองและทางการทหารของทั้งสองประเทศไม่ต้องการให้เกิดสงคราม การกระทำการดังกล่าวและปฏิกิริยาโต้ตอบอาจขยายสถานการณ์ให้ลุกลามออกไป"
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างบอกว่าไม่ต้องการให้เกิดสงครามขึ้น แต่จะตอบโต้หากถูกโจมตี ขณะที่ประนาบ มุคเคอร์จี รัฐมนตรีต่างประเทศของอินเดียกล่าวว่า "ทางเลือกทั้งหมด" เปิดกว้างขึ้นนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์โจมตีมุมไบ ซึ่งอินเดียประณามว่าเป็นฝีมือของกองกำลังที่มีฐานอยู่ในปากีสถาน
"การประกาศว่าทางเลือกทุกอย่างจะถูกนำขึ้นมาพิจารณา แปลว่าอินเดียกดดันให้ปากีสถานประเมินสถานการณ์ว่าอาจเกิดสงคราม ซึ่งเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อนปากีสถานยังมีท่าทีลังเลไม่อยากคิดในลักษณะเช่นนี้" ริฟฟัต ฮุสเซน นักวิเคราะห์ด้านการทหารจากศูนย์ยุทธศาสตร์ศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยคูเอด-เอ-อาซาม ในกรุงอิสลามาบัด บอก และว่าการขยายเรื่องนี้ให้บานปลายออกไปอาจนำไปสู่จุดหายนะที่ไม่อาจย้อนกลับคืนและไม่มีใครสามารถประเมินได้ว่าจะรุนแรงขนาดไหน
แต่ก็มีนักวิเคราะห์บางรายบอกว่า แม้ความตึงเครียดในเอเชียใต้จะมีมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ในท้ายที่สุดก็คงจะคลี่คลายลงไปได้เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีผลประโยชน์ของนานาประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะของสหรัฐฯ
อัสคารีกล่าวว่าผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และชาติตะวันตกในอัฟกานิสถานอาจถูก "คุกคาม" หากปากีสถานต้องถอนกำลังทหารจำนวนมากออกจากพื้นที่เขตชนเผ่าของปากีสถานที่ติดกับอัฟกานิสถาน เพราะนั่นหมายความว่ากองกำลังต่างชาติอาจถูกโจมตีจากกองกำลังของพวกหัวรุนแรงตามแนวชายแดนมากขึ้น
ยิ่งกว่านั้น การขนส่งสิ่งของต่างๆ ไปให้กับทหารสหรัฐฯ และนาโต้ในอัฟกานิสถานก็จะเสี่ยงอันตรายมากขึ้น เนื่องจากถนนหนทางที่เข้าไปยังด้านตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานนั้นอาจปลอดภัยน้อยลงไปอีก
มาซูดเองก็เห็นด้วยและกล่าวว่า "ปากีสถานควรให้ความสำคัญกับการต่อสู้กับกลุ่มอัลกออิดะห์และควบคุมไม่ให้กลุ่มตอลิบานขยายตัว มากกว่า การเบี่ยงเบนทิศทางไปจากนี้จะเป็นอันตรายต่อประเทศและต่อภูมิภาค รวมทั้งต่อสั้นติภาพของโลกด้วย"
กำลังโหลดความคิดเห็น