xs
xsm
sm
md
lg

ทั่วโลกฉลองเทศกาลคริสต์มาส ในภาวะสงคราม-วิกฤตเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - ทั่วโลกเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสกันท่ามกลางภาวะสงครามและวิกฤตเศรษฐกิจที่ยังครอบงำบรรยากาศโดยรวม ในขณะที่พวกผู้นำโลกต่างพูดถึงเทศกาลด้วยท่าทีหม่นหมอง ส่วนสมเด็จพระสันตปาปาทรงวิงวอนให้ยุติความเกลียดชังและความรุนแรงในตะวันออกกลาง
"ขอให้เราภาวนาเพื่อให้สันติภาพบังเกิดขึ้น (ในตะวันออกกลาง) ให้ความเกลียดชังและความรุนแรงยุติลง" สมเด็จพระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงกล่าวอวยพรในค่ำคืนคริสต์มาสที่กรุงวาติกัน
ที่นครเบธเลเฮม คริสตศาสนิกชนหลายหมื่นคนได้ออกมาเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสกันอย่างไม่กลัวความหนาวเย็น และมีผู้คนเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการลุกขึ้นสู้ของชาวปาเลสไตน์เมื่อปี 2000 ด้วย
ชาวคริสต์จำนวนมากเข้าไปสวดมนต์ในโบสถ์พระกุมารบังเกิด (Church of the Nativity) ที่มีถ้ำประสูติของพระเยซูคริสต์อยู่ภายใน ส่วนที่จตุรัสมังเกอร์ใกล้ๆ กันนั้น ก็มีพวกลูกเสือเดินแถวบรรเลงเพลงสวดสรรเสริญพระเจ้าอยู่อย่างครึกครื้น
ผู้นำคาทอลิกในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งคริสต์สมภพ ได้สวดวิงวอนเพื่อให้เกิดสันติภาพในภูมิภาค โดยก่อนหน้านี้เพียงวันเดียวเพิ่งเกิดการยิงปะทะกันระหว่างกองกำลังฮามาสในฉนวนกาซากับกองกำลังของอิสราเอล
"ในค่ำคืนนี้ ความเงียบสงัดแห่งถ้ำศักดิ์สิทธิ์จะมีเสียงดังเสียยิ่งกว่าเสียงปืนใหญ่และปืนกลทั้งหลาย" พระสังฆราชเฟาด์ ทวาล ตรัสกับผู้แสวงบุญที่มาร่วมพิธีมิสซาตอนเที่ยงคืน
ส่วนที่อังกฤษ สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีพระราชดำรัสเนื่องในเทศกาลคริสต์มาสทางโทรทัศน์ โดยทรงกล่าวถึงสถานการณ์ "อันหม่นหมอง" จากวิกฤตการณ์สินเชื่อทั่วโลกซึ่งทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการว่างงาน
ทั้งนี้ พระองค์เสด็จมาประทับที่หน้าพระราชวังบัคกิงแฮมในกรุงลอนดอนและมีพระราชดำรัสว่า "คริสต์มาสเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง แต่ปีนี้คงเป็นเวลาอันหม่นหมองสำหรับหลายๆ คน ... เรื่องเหล่านี้เคยเป็นสิ่งที่มองข้ามไปได้ แต่แล้วจู่ๆ ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยแน่ใจ แล้วก็ทำให้รู้สึกได้ถึงความไม่มั่นคงขึ้นมา"
ด้านประธานาธิบดีมาหมุด อาหมัดดิเนจัดแห่งอิหร่าน ก็มีคำปราศรัยเนื่องในวันคริสต์มาสที่ทางโทรทัศน์ในอังกฤษจะนำมาเผยแพร่เช่นกัน โดยเขากล่าวว่า หากพระเยซูคริสต์ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ในปัจจุบัน พระองค์จะทรงคัดค้าน "พวกมหาอำนาจที่เป็นอันธพาล อารมณ์ร้าย และชอบแผ่ขยายอำนาจ"
ส่วนบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์เรียกร้องให้ชาวอเมริกันร่วมกันเคียงบ่าเคียงไหล่ในการผลักดัน "กงล้อประวัติศาสตร์" เพื่อก้าวพ้นจากความทุกข์ของวิกฤตเศรษฐกิจไปสู่วันข้างหน้าที่สว่างไสวกว่าเดิม และเขายังได้สรรเสริญทหารสหรัฐฯ หลายหมื่นนายที่ประจำการอยู่ในต่างแดนด้วย
ส่วนในเอเชียนั้น ก็มีเทศกาลเฉลิมฉลองในหลายๆ เมือง โบสถ์คริสต์แห่งสำคัญในกรุงปักกิ่งนั้น มีผู้คนจำนวนมากเข้าไปร่วมพิธีมิสซาในวันก่อนหน้าคริสต์มาส ต้องมีการจัดระบบการจราจร
ขณะที่ในออสเตรเลีย สถานการณ์สงครามและวิกฤตการณ์การเงินโลกยังเป็นประเด็นสำคัญแม้ว่าจะมีคนนับหมื่นไปฉลองคริสต์มาสกันตามชายหาดต่างๆ เนื่องจากตรงกับช่วงฤดูร้อนของซีกโลกใต้
"ในท่ามกลางการเฉลิมฉลองของพวกเรานี้ เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องคิดถึงคนของเราที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อันหนักอึ้ง" เควิน รัดด์ นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียกล่าวสุนทรพจน์ต่อประชาชนทั้งประเทศ
"เราคิดถึงทหารของเราที่อยู่ในสนามรบ ไม่ว่าจะเป็นที่อิรัก อัฟกานิสถาน หมู่เกาะโซโลมอน ติมอร์เลสเต หรือที่อื่น"
และที่ฟิลิปปินส์ ชาวคริสต์นับล้านพากันเข้าโบสถ์ในช่วงเที่ยงคืน และเลี้ยงฉลองเทศกาลกันในบ้านโดยมีอาหารจำพวกแฮม ช็อกโกเลต และขนมอบต่างๆ ขณะที่กองทัพฟิลิปปินส์และกลุ่มคอมมิวนิสต์ราว 5,000 คนได้ประกาศหยุดยิงในวันพุธและวันพฤหัส
กำลังโหลดความคิดเห็น