ศูนย์ข่าวภูเก็ต- แกนนำกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินจังหวัดภูเก็ตและพันธมิตรฯภูเก็ตให้โอกาสรัฐบาล “มาร์ค 1” ทำงานแก้วิกฤตบ้านเมืองและแก้ปัญหาเศรษฐกิจ พร้อมยืนยันเป้าหมายเดิมคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ และเอื้อประโยชน์พวกพ้อง ถ้ายังดื้อเจอกองทัพมือตบแน่
นายณัชจรงค์ เอกเพิ่มทรัพย์ ประธานที่ปรึกษาและผู้ก่อตั้งกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ต้องให้โอกาสแก่รัฐบาลชุดนี้ในการทำงาน เพราะในขณะนี้การแถลงนโยบายต่อรัฐสภายังไม่ได้เกิดขึ้น ถึงแม้การจัดตั้งรัฐบาลผสมในชุดนี้จะมีกลุ่มอำนาจเก่าร่วมอยู่ด้วย แต่ก็มิได้หมายความว่าจะเหมือนรัฐบาลชุดที่ผ่านมา เราต้องให้โอกาสนายอภิสิทธิ์ เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ และมีความเชื่อมั่นในทีมงานการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ที่คร่ำวอดอยู่ในเวทีทางการเมืองมาเป็นเวลานาน
“ในฐานะกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินจังหวัดภูเก็ต ขอเอาใจช่วยรัฐบาลชุดนี้ให้ฝ่าวิกฤตไปได้โดยเร็วที่สุด” นายณัชจรงค์ กล่าวและว่า
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ 7 ตุลาคม ถือเป็นต้นทุนที่สำคัญที่ทำให้คุณอภิสิทธิ์ยืนอยู่ได้ ณ จุดนี้ เพราะฉะนั้นนายอภิสิทธิ์ต้องไม่ลืมว่าประชาชนที่เป็นพันธมิตรฯ ได้เคลื่อนไหวจนกระทั่งนายอภิสิทธิ์ได้มีวันนี้
ขณะที่นายอภิเชษฐ์ ช่วยชูวงค์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้ให้ความเห็นในทำนองเดียวกันว่า มีความรู้สึกเช่นเดียวกับนายณัชจรงค์ คือ ต้องให้โอกาสและเวลาแก่รัฐบาลชุดนี้ได้ทำงานก่อน เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่รอคอยความเด็ดขาดของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ประเด็นต่างๆที่ได้เกิดขึ้นมา เช่น พรรคประชาธิปัตย์ที่ได้เป็นรัฐบาลชุดนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากกลุ่มพันธมิตรฯด้วย หลายสิ่งหลายอย่าที่เราเคยพูดกันที่ชุมนุม เราจะมองดูว่านาย อภิสิทธิ์จะใช้ความเด็ดขาดจัดการได้หรือใหม่ เพื่อคืนความถูกต้องและเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่วีรชนของเราที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งที่ผ่านมา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่ายอมรับได้หรือไม่กับรัฐบาลชุดนี้ นายอภิเชษฐ์ กล่าวว่า ในขณะนี้จะต้องยอมรับให้ได้ถึงแม้ว่าจะรับไม่ได้ก็ตาม ต้องให้โอกาสอย่าปิดประตูลั่นกุญแจ
ด้านนายอนันต์ ดุมลักษณ์ พันธมิตรฯกมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ในสถานการณ์ขณะนี้เราต้องให้โอกาสนายอภิสิทธิ์ ในการที่จะบริหารบ้านเมือง ในฐานะที่ตนเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าร่วมชุมนุมกู้ชาติ เราต้องจับตามองว่ารัฐบาลได้ดำเนินการตามที่เราเรียกร้องอย่างไร เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การหาผลประโยชน์สำหรับพวกพ้อง ถ้าเป็นลักษณะอย่างนี้ทางพันธมิตรฯ ของกมลารับไม่ได้เช่นกัน และเมื่อถึงวันนั้นรัฐบาลชุดนี้ต้องเจอกับกองทัพมือตบอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นในรัฐบาลของคุณอภิสิทธิ์ว่า จะมีแนวทางในการบริหารประเทศที่ถูกต้องเหมาะสม และไม่สวนทางกับสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้เรียกร้องเอาไว้ เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง ในส่วนนี้ต้องเฝ้าดูว่ารัฐบาลจะเดินทางไปทางไหน เราจะต้องไปในแนวทางเดียวกัน เดินไปในจุดหมายเดียวกัน ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่าภายในระยะ 3-6 เดือนเราจะเห็นเป็นรูปธรรมว่า รัฐบาลเดินไปตามแนวทางใด
แต่สิ่งอยากเห็นอันดับแรก คือ อยากเห็นความสามัคคีเกิดขึ้นในประเทศ ต้องยอมรับว่าการสูญเสียของพี่น้องพันธมิตรฯเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นบทเรียนที่ดีว่าไม่อยากเห็นคนไทยต้องมาเข่นฆ่ากันเอง อยากเห็นความสงบอย่างที่ผ่านมา คณะรัฐบาลได้เข้าไปถวายสัตย์ปฏิญาณเมื่อวาน สิ่งที่ในหลวงได้บอกคณะรัฐมนตรี คือว่าให้ทำให้บ้านเมืองสงบ เราเองเป็นคนไทยเราก็อยากเห็นความสงบสุขในผืนแผ่นดินไทย เราไม่อยากเห็นคนไทยต้องมาเข่นฆ่ากันเอง สักวันหนึ่งตนก็เชื่อมั่นว่าหากรัฐบาลเดินทางในแนวทางที่ถูกต้อง และตั้งมั่นว่าจะสร้างความสงบสุขในประเทศ เชื่อว่าต่อไป เราก็จะเดินในแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ให้ไว้