xs
xsm
sm
md
lg

ศาลรับฟ้อง พธม.อุดรฯ 4 คดีรวด เอาผิดขวัญชัย-อุทัยทำร้าย ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เผยศาลอุดรธานีรับฟ้องคดีพันธมิตรฯแจ้งความเอาผิดแกนนำกลุ่มคนรักอุดรฯ 4 คดีรวด ทั้งคดีอาญาและแพ่ง เผยคดี"ขวัญชัย-อุทัย"พาสมาชิกชมรมคนรักอุดรฯไล่ตีพันธมิตรฯ 24 ก.ค.51 อาจใช้เวลานาน เพราะต้องสอบพยานจำนวนมาก ขณะที่ "มท.2" กลุ่ม "เพื่อนเนวิน" สั่งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศจับตาการเคลื่อนไหวของ นปช.ว่าใครเป็นแกนนำ และให้รายงานข้อมูลทุก 6 ชั่วโมงหลังมีกระแสข่าวกลุ่มเสื้อแดงขนม็อบกดดันรัฐบาลวันแถลงนโยบาย ด้าน "ผบช.น." ยันไม่ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม

นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีความต่างๆ ที่ฝ่ายพันธมิตรฯได้แจ้งความเอาผิดต่อกลุ่มบุคคลที่รุมทำร้ายพี่น้องพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2551 ว่า ขณะนี้ทางเราได้ส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดอุดรธานี แล้ว 4 คดีโดยคดีที่ 1 เป็นคดีที่นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร และนายอุทัย แสนแก้ว ซึ่งเป็นแกนนำฯ ได้ปลุกระดมคนของชมรมคนรักอุดรไปไล่ตีพันธมิตรฯ ที่จัดเวทีปราศรัยที่หนองประจักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2551 ซึ่งเป็นคดีอาญา

คดีที่ 2 เป็นคดีที่หนองประจักษ์เช่นกันโดยเรียกเป็นค่าเสียหาย ซึ่งเป็นคดีแพ่ง คดีที่ 3 เป็นคดีที่นายขวัญชัย และพวกได้มาทำการปิดล้อมบ้านของตน 2 ครั้งเมื่อวันที่ 17, 28 มิถุนายน 2551 เป็นคดีอาญา และคดีที่ 4 เป็นคดีที่ตนต้องสูญเสียอิสรภาพในการทำมาหากินและเสียสุขภาพจิตทั้งตนเองและครอบครัว ในวันที่ 17 28 มิถุนายน 2551 โดยเรียกเป็นค่าเสียหายเป็นคดีแพ่งเช่นกัน

ในส่วนความคีบหน้าล่าสุดของคดีนั้น ศาลจังหวัดอุดรธานี ได้รับการรับฟ้องไว้หมดทุกคดีแล้ว เพียงแต่ศาลจะต้องนัดสืบพยานเพิ่มเติมทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยเท่านั้น ส่วนคดีที่หนองประจักษ์นั้นอาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควร เพราะมีการอ้างพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยเป็นจำนวนมากและเป็นคดีที่ใหญ่ ในส่วนคดีที่คนรักอุดรมาทำการปิดล้อมที่บ้านตนนั้น คาดว่าคงใช้เวลาไม่นาน

ทั้งนี้ ในคดีที่ 1 และ 3 ซึ่งเป็นคดีอาญานั้นศาลได้นัดสืบพยานในวันที่ 18 มกราคม 2552 และ 23 กุมภาพันธ์ 2552 ตามลำดับ

นายเจริญ กล่าวด้วยว่า จากการที่ศาลจังหวัดอุดรธานี รับฟ้องคดีทุกคดีนั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เหตุการณ์อาจจะรุนแรงขึ้น แต่ก็ยังมีความอุ่นใจอยู่ว่ารัฐบาลได้เปลี่ยนแล้วก็คงคิดว่าคนที่มาคุมในเรื่องความมั่นคงต้องดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ และคิดว่าการดูแลพันธมิตรฯอุดรธานีที่ถูกข่มขู่อาจจะดีขึ้น ไม่เหมือนครั้งก่อนที่ผู้ข่มขู่นั้นมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าไม่ว่าจะเป็นการถอนพาสปอร์ตแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ กลับมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ที่อุดรธานีคงจะดูแลตนดีขึ้น

"ขวัญชัย"ลั่นหลังปีใหม่จะโค่น"มาร์ค"

ขณะที่นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร เปิดเผยว่า สมาชิกชมรมคนรักอุดรได้มีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะไม่เดินทางไปที่ท้องสนามหลวงและหน้าอาคารรัฐสภาในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล 29 ธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากปีใหม่ 2552 ตนจะเปิดเวทีปราศรัยโค่นรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยถอนรากถอนโคน ซึ่งขณะนี้ตนได้ตั้งกองทัพประชาชนจำนวน 10,000 คนในการเป็นกองทัพหน้าที่จะต่อสู้กับรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์

"บุญจง"สั่งผู้ว่าฯจับตาแกนนำเสื้อแดง

ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวระหว่างร่วมประชุมหารือในการทำงานวันแรกกับผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ผ่านวิดีโอคอนเฟอเร็นซ์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมกับนายชวรัตน์ ชาญวีระกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

โดยนายบุญจง ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ จับตาดูความเคลื่อนไหวของประชาชนในพื้นที่ ที่เป็นกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ในทุก 6 ชั่วโมงแล้วรายงานมายังตนที่กระทรวงมหาดไทย เพราะมีกระแสข่าวว่ากลุ่ม นปช.จะเคลื่อนไหวเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาร่วมชุมนุมกันกดดันรัฐบาล ในช่วงแถลงนโยบายระหว่างวันที่ 29-30 ธันวาคม 2551 ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการสกัดกั้น แต่เพื่อความสะดวกและความสงบเรียบร้อยเท่านั้น

พร้อมแสดงความมั่นใจว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันสำนึกในความเป็นคนไทย จะทำงานให้เกิดความสันติสุขเกิดขึ้นในแผ่นดิน แม้รัฐบาลจะมีนโยบายที่ดีเพียงใด ถ้าคนในชาติแตกแยกกันนโยบายก็ไม่สัมฤทธิ์ผล แต่ เชื่อว่า กระทรวงมหาดไทยคือกลไกที่สำคัญที่จะทำให้เกิดความสามัคคีในประเทศชาติ นอกจากนี้ การชุมนุมสามารถทำได้ เพราะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและไม่ละเมิดสิทธิของคนอื่น ซึ่งการชุมนุมที่มีเจตนาบริสุทธิ์เราก็สนับสนุน หากการชุมนุมเกิดจากความเข้าใจผิด ทางผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยในท้องถิ่นต้องเข้าไปอธิบายทำความเข้าใจกับประชาชน

"ผมขอให้ผู้ว่ารายงานข้อมูล ของแต่ละจังหวัดมีการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมที่จะเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ หรือไม่ และมีจำนวนเท่าไหร่ แกนนำการเคลื่อนเป็นใคร ผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องรายงานมาที่ผมโดยตรงทุกๆ 6 ชั่วโมง ก่อนที่รัฐบาลจะการแถลงนโยบายต่อสภาฯ ในวันที่ 29 ธันวาคมนี้" นายบุญจง กล่าว

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ในฐานะประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงจะเดินทางเข้ามาชุมนุมใหญ่ในวันที่ 28 ธันวาคมอาจจะชุมนุมต่อที่บริเวณหน้ารัฐสภาในวันที่ 29 ธ.ค.เป็นวันเดียวกันที่รัฐบาลแถลงนโยบายว่า เรื่องดังกล่าวเชื่อว่าประชาชนเสื้อแดงส่วนหนึ่งมาจากการจัดตั้ง เพราะในฐานะที่ตนอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน ทราบว่า มวลชนในพื้นที่เป็นของใคร เห็นได้จากกลุ่มเสื้อแดงที่มาปิดล้อมบ้าน ส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่ส่วนใหญ่ถูกว่าจ้างมาจากพื้นที่อื่น ทั้งนี้ คาดว่าในวนที่ 29 ธันวาคมไม่น่าจะมีคนมาชุมนุมเป็นจำนวนมากอย่างที่เป็นข่าว

เมื่อถามว่าจะพึ่งบารมีของนายเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นพี่ชายมาดูแลเรื่องนี้หรือไม่ นายศักด์สยาม กล่าวว่า ไม่ถึงขนาดนั้น

"สุชาติ"ยันไม่ใช้แก๊สน้ำตา

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.เปิดเผยถึงการดูแลการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ว่าเจ้าหน้าที่จะต้องประเมินสถานการณ์ก่อนว่าเป็นอย่างไร นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังกำชับให้ดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ไม่ให้ใช้ความรุนแรง ให้แก้ไขสถานการณ์ด้วยความนิ่มนวล ซึ่งส่วนนี้คิดว่าตำรวจจะใช้เพียงโล่กำบังผลักดันป้องกันสถานที่หากมีการบุกรุกเข้าไปภายในรัฐสภา และมั่นใจว่าจะไม่มีการใช้แก๊สน้ำตาอย่างแน่นอน

"ส่วนคดีที่เกี่ยวกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตั้งคณะทำงานในการสอบสวน หากพบใครทำผิดมีการดำเนินการตามขั้นตอน ทุกเรื่อง โดยยืนยันดำเนินการทั้งสองฝ่ายเท่าเทียมกันภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ส่วนกรณีที่บางฝ่ายมองว่าตำรวจเลือกปฏิบัตินั้น จริงๆ แล้วตำรวจดำเนินการอย่างเดียวกันหมดใครทำผิดก็ต้องดำเนินการ ตามกฎหมาย ประเทศไทยมีกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ตำรวจเป็นเพียงต้นทางของกระบวนการยุติธรรมเท่านั้นและตำรวจไม่มีอำนาจพิจารณาลงโทษได้เอง กระบวนการพิจารณาลงโทษคงต้องเป็นหน้าที่ของศาล แต่เราจะดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมไม่ให้เกิดความเสียหาย เพราะหากไม่ยุติธรรมตั้งแต่ต้นเมื่อไปถึงกระบวนการศาลจะเกิดความเสียหายได้"

เอ็ม 79 ถล่ม พธม.ตร.ยังมึน

พล.ต.ท.สุชาติ กล่าว กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีคนร้ายยิงเอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯภายในทำเนียบรัฐบาลนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสืบสวนต่อไป เพราะก่อนหน้านี้มีเหตุขัดข้องหลายประการ ทั้งการเข้าดูสถานที่ช้า รวมถึงจุดยิงต่างๆ อยู่ระหว่างการดำเนินการสืบสวน ยืนยันไม่มีการทิ้งคดีแม้แต่คดีเดียว

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีสมาคมผู้สื่อข่าวช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทยตั้งฉายา "เบื๊อก เคลมเร็ว" นั้นมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า ต้องถือว่าเป็นเกียรติ และขอบคุณนักข่าวทุกท่านที่ให้ฉายานี้ ซึ่งที่จริงต้องบอกว่ายังไม่เข้าใจความหมายว่าหมายความว่าอะไร แต่ที่มีการขยายความไว้สองทางคือ ทำงานรวดเร็วทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายเสื้อเหลือง เสื้อแดง แต่อีกความหมายอาจจะเป็นว่า มาเร็วแล้วก็ย้ายเร็วก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าจะอยู่นานเท่าใดก็พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่

ส่วนเมื่อการเมืองเปลี่ยนจะเป็นปัญหาหรือมีความกังวลในการทำงานหรือไม่นั้น พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลใจในการทำงาน เราต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะผู้ที่เข้ามาถือเป็นผู้บังคับบัญชา ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงก็ถือเป็นผู้บังคับบัญชาทั้งสิ้น และมติคณะรัฐมนตรีที่มีความเกี่ยวข้องก็ต้องถือปฏิบัติ ตำรวจก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ที่ระเบียบกำหนดไว้อยู่แล้วหากคำสั่งเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น