xs
xsm
sm
md
lg

วันเวลาแห่งชัยชนะของพันธมิตรฯ/นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


การเคลื่อนทัพประชาชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเข้ายึดทำเนียบดอนเมืองในครั้งนี้ นักวิชาการหลายคนวิจารณ์ว่าเป็นการดำเนินกลยุทธที่ผิดพลาด เพราะยังไม่เห็นแนวทางว่าจะชนะได้อย่างไร โดยอธิบายว่าถ้าเป็นสงครามแย่งชิงมวลชน การเคลื่อนพลกลับทำให้มวลชนบางส่วนเกิดความไม่พอใจจนเสียแนวร่วม


จริงๆแล้วการเคลื่อนพลครั้งนี้ถือว่าเป็นหมากที่พันธมิตรฯเดินได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นที่น่าเห็นใจสำหรับพันธมิตรที่พยายามดำรงตนอยู่ในกรอบของกฎหมาย ใช้การชุมนุมโดยสงบ ใช้หลักอหิงสา ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องเป็นเวลานานกว่า 6 เดือนซึ่งย่อมมีการเหนื่อยล้า สูญเสียและบาดเจ็บ

ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งกุมอำนาจที่เหนือกว่า มีทั้งอำนาจตำรวจและทหารอยู่ในบัญชาการ ใช้วิธีการที่ไม่คำนึงถึงหลักกฎหมายและหลักศีลธรรม ใช้อำนาจเงินที่สามารถซื้อใครก็ได้มาเป็นพวก จึงมีเสธ.ทหารบางคนที่ยอมทำความชั่วออกมาขู่จะยิงระเบิด แล้วก็มีการยิงระเบิด M79 เข้าไปในเวทีพันธมิตรจริงๆ ทำให้มีคนตายไปอีก 2 คน ทั้งคุณเจนกิจ และคุณยุทธพงษ์ที่เสียชีวิตไป โดยตำรวจไม่ใส่ใจจะทำอะไรด้วยซ้ำเพราะกลัวจะผิดใจกับเจ้านายใหญ่


นี่แหละคือความเลวร้ายของรัฐบาลที่เมื่อแอบสั่งการให้ตำรวจออกมาทำร้ายประชาชนในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 แต่จนแล้วจนรอดตัวเองก็หนีความผิดไม่พ้น ดังนั้นเมื่อจะใช้ความรุนแรงอีก จึงต้องไปหาคนอื่นที่ยอมรับงานมาทำแทน แล้วตัวเองก็ออกมาบอกได้ว่าเป็นมือที่สาม ปกติเวลาเขาจับมือปืนฆ่าคน เขาต้องสืบจากว่าใครเป็นคนได้ประโยชน์จากการตายนั้น ใครๆก็รู้ว่าถ้าพันธมิตรโดนระเบิดจนกลัวไม่มาชุมนุม ใครล่ะที่จะได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆถ้าไม่ใช่รัฐบาลของนายกสมชายน้องเขยของนายใหญ่คนนี้


ดังนั้นถ้าพันธมิตรฯทำสงครามยืดเยื้อต่อไปก็จะมีคนตายเพิ่มขึ้นอีกหลายคน การเคลื่อนกองทัพประชาชนนอกจากจะเป็นการปรามการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว จึงยังเป็นการเปิดเกมรุกหลังจากที่เอาแต่ตั้งรับระเบิดมาหลายวัน ทั้งๆที่รู้ว่าจริงๆแล้วประธานชัย คงไม่อยากจะแก้รัฐธรรมนูญเท่าไหร่นักหรอก จะแก้ไปทำไม ถ้าแก้แล้ว นายใหญ่กลับมา บ้านเลขที่ 111 กลับมา ตัวเองก็หมดคุณค่า สู้เอาการแก้รัฐธรรมนูญเป็นตัวประกันไว้ก่อน บอกว่าจะแก้แต่ถูกขัดขวาง แล้วให้ส่งเสบียงสนับสนุนมาจะดีกว่ามากนัก

ถึงกระนั้นก็ตาม แล้วคำถามที่ว่า พันธมิตรจะเอาอะไรอีก แล้วบ้านเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป จะเสียหายไปอีกมากน้อยแค่ไหน บางคนถ้ามองแต่เพียงตัวเงินก็จะบอกว่า นักท่องเที่ยวหายไปเท่านั้นเท่านี้ รายได้ที่จะเข้ามาหายไปเท่านั้นเท่านี้ จริงๆแล้ว เศรษฐกิจที่กำลังแย่ลงไม่ใช่เพราะการชุมนุม แต่เพราะวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ของอเมริกาต่างหาก แต่สิ่งที่ประเทศไทยได้มาเป็นต้นทุนแล้ว คือความคิดทางด้านการเมืองของคนไทยได้พัฒนามากขึ้น แม้จะเป็นเพียงคนกลุ่มหนึ่ง แต่ก็เป็นกลุ่มคนที่กำลังโตขึ้นเรื่อยๆ และเป็นกลุ่มคนที่มีใจรักชาติ พร้อมที่จะถ่ายทอดแนวคิดดีๆต่อไปให้กับคนอื่น

สังคมไทยในระบบการเมืองเดิม แย่จนถึงที่สุด นักการเมืองที่เข้ามาปกครองประเทศ ล้วนแต่ไม่มีความรู้ แล้วยังเข้ามาโกงกินคอรัปชั่นอีก ประสบการณ์เกือบ 20 ปีสำหรับการเป็นหมอในกระทรวงสาธารณสุขที่เห็นแต่นักการเมืองที่เข้ามาทุจริตคอรัปชั่น หาผลประโยชน์ ขาดความรู้ ความจริงใจ จนดูเหมือนไม่มีความหวังแล้วสำหรับประเทศไทย
 
ในขณะที่มองเห็นสังคมในชนบทอ่อนแอ อ่อนแรง ขาดความรู้ พึ่งตนเองไม่ได้ เพราะถูกดูดทรัพยากรทั้งทรัพย์สิน ไร่นา จนถึงคนที่ต้องเข้าไปขายแรงงาน หรือเป็นโสเภณีในเมืองกรุง คนจนยิ่งจนมากขึ้น คนรวยยิ่งรวยมากขึ้น ราวกับว่าไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงระบบทุนนิยมสามานย์นี้ได้อีก

แต่แล้วคุณทักษิณได้เข้ามาเร่งกลไกระบบทุนนิยมที่เอารัดเอาเปรียบนี้ให้แรงถึงขีดสุด จนทำให้ด้ายที่ตึงสุดๆได้ขาดลง จนเกิดการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของคนหลายล้านคนทั่วประเทศเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เป็นความสวยงามของการเคลื่อนไหวภาคประชาชนซึ่งรวมนักเคลื่อนไหวอย่างคุณพิภพ นักต่อสู้อย่างคุณสมศักดิ์ นักสื่อสารอย่าง คุณสนธิ นักวิชาการอย่างคุณสมเกียรติ และพ่อพระอย่างคุณจำลอง เป็นความลงตัวสำหรับแกนนำที่สามารถนำมวลชนจำนวนมากเคลื่อนไหวอย่างอหิงสาและเดินตามยุทธศาสตร์อย่างพรักพร้อม อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ เปรียบได้ว่าเมื่อถึงที่สุดในอีกด้านหนึ่ง ที่สุดในอีกด้านหนึ่งก็จะก่อกำเนิดเช่นกัน

อีกคำถามที่ว่า ชัยชนะของพันธมิตรฯอยู่ที่ไหน ที่ถามคำถามนี้ เพราะคนมักมีความเชื่อว่าต้องมีคนชนะ และมีคนแพ้ จริงๆแล้ว ทุกขณะคือชัยชนะทั้งสิ้น การหยุดรัฐบาลไม่ให้คอรัปชั่นได้อย่างสะดวกคอ การทำให้คนที่เป็นรัฐมนตรีไม่ได้รู้สึกภาคภูมิใจในการเป็นผู้บริหารประเทศนี้ด้วยมือตบ การทำให้ผู้คนได้รับการศึกษาภาคการเมืองมากขึ้น การทำให้คนเลวๆหลายคนที่คนเคยคิดว่าเป็นคนดีได้เผยธาตุแท้ของตนขึ้นมา เหล่านี้ล้วนเป็นชัยชนะที่ได้มาตลอดเวลา โดยที่พันธมิตรฯ ไม่ได้เสียอะไรเลย เพราะเมื่อไม่ได้คาดหวังอะไรเพื่อตนเอง ก็ไม่มีอะไรจะเสีย มีแต่สิ่งที่จะได้กับประเทศและส่วนรวม เงินทองที่พันธมิตรเสียไปก็หมุนเวียนอยู่ในกลุ่มพันธมิตร และวนเวียนอยู่ในประเทศ ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในอีกทางหนึ่ง

อีกคำถามที่ว่า แล้วเรื่องนี้จะจบอย่างไร จะม้วนเดียวจบจริงหรือไม่ ขอลองยกตัวอย่างในฐานะของแพทย์ชนบทคนหนึ่งที่เคยร่วมอยู่ในสงครามทุจริตยาว่าสงครามครั้งนั้นจบอย่างไร ในครั้งนั้นมีหลายคนที่บอกว่าไม่อยากให้เกิดความแตกแยกขึ้นเลย ทุจริตคอรัปชั่นก็มีมานานแล้ว คงแก้อะไรไม่ได้ ให้ยอมๆกันไป สงครามครั้งนั้นได้แยกคนเป็นฝักเป็นฝ่าย เป็นขาว เป็นดำ จากที่เคยอยู่เป็นเทาเข้มและเทาจาง แต่ขณะเดียวกันก็ได้เกิดการรวมตัวของภาคประชาชนสังคมและชมรมแพทย์ชนบทขึ้น ซึ่งต่อมาถือเป็นฝ่ายค้านของกระทรวงสาธารณสุขที่เข้มแข็ง และไม่เข้ามาแย่งชิงอำนาจเพื่อเป็นใหญ่ แต่คอยกระทุ้งและป้องปรามกรณีทุจริตคอรัปชั่น ทำให้รัฐมนตรีที่เข้ามาในกระทรวงสาธารณสุขจะทุจริตหรือทำสิ่งมิชอบได้ยาก แม้ในที่สุดรัฐมนตรีฉ้อฉลคนนั้นได้เข้าคุกไป จนถึงทุกวันนี้ภารกิจของประชาคมสาธารณสุขและแพทย์ชนบทก็ยังไม่จบสิ้น


สงครามของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยครั้งนี้ ก็คือสงครามที่ไม่มีวันจบเพราะเมื่อรัฐบาลสมชายได้หลุดไปตามกรรมที่ทำไว้แล้วในเร็ววันนี้ แต่พันธมิตรฯก็ยังต้องเป็นหมาเฝ้าบ้านให้กับประเทศไทยต่อไป ตราบใดที่เรามีระบบประชาธิปไตยที่มีแต่เปลือกซึ่งคัดเลือกแต่คนที่ฉ้อฉลเข้ามาหาผลประโยชน์โดยการมอมเมาประชาชนที่อ่อนแอที่สุด แต่ยังโชคดีที่สงครามนี้ได้แยกให้เราได้เห็นคนสีดำบางคนได้อย่างเด่นชัด อย่างเสธ.บางคนที่สยบยอมต่ออำนาจเงิน ตำรวจบางคนที่หวังเป็นใหญ่โดยยอมฆ่าประชาชนเพื่อเอาใจนาย นักการเมืองที่เอาแต่ประจบนายเพื่อหวังเงินไปโปรยในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และอาวุธที่ดีที่สุดที่พันธมิตรฯจะใช้ในการต่อสู้ก็คือคนที่ติดอาวุธทางปัญญาซึ่งกระจายอยู่ทั่วไปในสังคมที่จะคอยบอกว่า “กูไม่เอามึง” แม้ว่ามึงจะมีตำแหน่งใหญ่โตเท่าไหร่ก็ตาม

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์
เลขาธิการมูลนิธิแพทย์ชนบท

กำลังโหลดความคิดเห็น