ครั้งหน้าถ้าคนที่อยู่ใกล้ๆ คุณเกิดจามขึ้นมา คุณอาจสงสัยว่าคนๆ นั้นต้องคิดอะไรในใจแน่นอน เพราะนักวิจัยพบหลักฐานว่าการที่คนบางคนจามเพราะฝันหวานเรื่องโรแมนซ์อยู่
อาการนี้เกิดได้ทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง และไม่สามารถควบคุมได้
ดร. มาห์มูด บุตตา ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูกของโรงพยาบาลจอห์น แร็ดคลิฟฟ์ในออกซ์ฟอร์ด ยอมรับในรายงานที่อยู่ในวารสารเจอร์นัล ออฟ เดอะ รอยัล โซไซตี้ ออฟ เมดิซิน ว่าปฏิกิริยาแรกของตนคือไม่เชื่อสิ่งที่พบ แต่ตอนนี้คิดว่าอาการนี้เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการที่คน 1 ใน 4 จามฟุดฟิดเมื่อออกไปอยู่กลางแดด
เรื่องเริ่มต้นจากการที่คนไข้ที่เป็นชายวัยกลางคนๆ หนึ่งมาบ่นกับดร.บุตตาว่า เขาจามไม่หยุดทุกครั้งที่ถูกกระตุ้นทางเพศ
เพื่อค้นคว้าหาคำตอบ ดร.บุตตาจึงเริ่มค้นบันทึกทางการแพทย์ และเข้าห้องแชตในอินเทอร์เน็ตเพื่อหาดูว่ามีใครมีอาการทำนองนี้หรือไม่ ผลปรากฏว่าเขาพบชาย-หญิง 17 คนที่จามทันทีที่คิดถึงเรื่องเซ็กซ์ และสามคนมีอาการเดียวกันหลังจากถึงจุดสุดยอด
ดร.บุตตายังบอกว่า การพิมพ์คำว่า เซ็กซ์และจามในกูเกิล ได้ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจพอกัน
“แม้รายงานในอินเทอร์เน็ตไม่ถือเป็นหลักฐานที่สมเหตุสมผลสำหรับปรากฏการณ์นี้ แต่การค้นพบของเราบ่งชี้ว่านี่เป็นอาการที่เกิดขึ้นทั่วไปมากกว่าที่เราเคยนึก” ดร.บุตตาและดร.แฮร์โรลด์ แม็กซ์เวลล์ จิตแพทย์อาวุโสที่ร่วมทำการวิจัย ระบุในรายงาน
ปกติแล้วการจามมักเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่ออาการระคายเคืองในโพรงจมูก การถอนคิ้วทำให้จามได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นการกระตุ้นเส้นประสาทสมองคู่ที่5 (trigeminal nerve) ที่ทำหน้าที่รับความรู้สึกจากผิวหนังบริเวณใบหน้า แต่บางคนจามเมื่อโดนแดด ที่แปลกกว่านั้นคือ การที่คนในครอบครัวเดียวกันจามหลังอาหาร
ดร.บุตตาเชื่อว่า ความเชื่อมโยงนี้เกิดจากการทำงานบกพร่องในระบบประสาทอัตโนมัติ หรือส่วนของระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับอัตราการเต้นของหัวใจ การไหลเวียนโลหิตและการย่อยอาหาร ทั้งนี้ ส่วนของประสาทที่ควบคุมการหายใจ ความดันโลหิต การจาม และการย่อยอาหาร ทำงานใกล้ชิดกันในก้านสมอง
นักวิจัยเชื่อว่า การจามจากอาการแพ้และการจามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเซ็กซ์เกิดขึ้นเมื่อสัญญาณเหล่านี้รบกวนกัน อีกทั้งเชื่อว่า ปฏิกิริยานี้อาจถ่ายทอดภายในครอบครัว
เกร็ดเล็กน่ารู้เกี่ยวกับการจาม
- อากาศที่พ่นออกมาจากจมูกระหว่างการจามเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 95 ไมล์ (152 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง เร็วกว่าเฮอร์ริเคนระดับ 12
- การจามแต่ละครั้งจะมีละอองน้ำมูก 40,000 ละอองกระจายในอากาศ
- การศึกษาบางฉบับแสดงให้เห็นว่า สามารถหยุดการจามได้โดยใช้นิ้วกดบริเวณใต้จมูก
- ชาวกรีกโบราณเชื่อว่าการจามคือสัญญาณจากพระเจ้า
- ในประเทศส่วนใหญ่ คนมักพูดว่า ‘แข็งแรง สุขภาพดี!’ หลังจาม ซึ่งเชื่อว่ามาจากความเชื่อในสมัยกลางว่าวิญญาณอาจหลุดออกจากร่างขณะจาม
- มีเรื่องเล่าขานกันว่า การหลับตาระหว่างจามก็เพื่อไม่ให้ตาหลุดออกจากเบ้า การกะพริบตาโดยไม่ตั้งใจเป็นผลข้างเคียงจากสัญญาณจากสมองที่ส่งถึงหน้าอก หน้า และท้องระหว่างจาม
- การจามขณะขับรถด้วยความเร็ว 70 ไมล์ (112 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง จะทำให้รถเคลื่อนไปข้างหน้า 300 ฟุต (91 เมตร) ขณะที่คุณหลับตา
อาการนี้เกิดได้ทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง และไม่สามารถควบคุมได้
ดร. มาห์มูด บุตตา ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูกของโรงพยาบาลจอห์น แร็ดคลิฟฟ์ในออกซ์ฟอร์ด ยอมรับในรายงานที่อยู่ในวารสารเจอร์นัล ออฟ เดอะ รอยัล โซไซตี้ ออฟ เมดิซิน ว่าปฏิกิริยาแรกของตนคือไม่เชื่อสิ่งที่พบ แต่ตอนนี้คิดว่าอาการนี้เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการที่คน 1 ใน 4 จามฟุดฟิดเมื่อออกไปอยู่กลางแดด
เรื่องเริ่มต้นจากการที่คนไข้ที่เป็นชายวัยกลางคนๆ หนึ่งมาบ่นกับดร.บุตตาว่า เขาจามไม่หยุดทุกครั้งที่ถูกกระตุ้นทางเพศ
เพื่อค้นคว้าหาคำตอบ ดร.บุตตาจึงเริ่มค้นบันทึกทางการแพทย์ และเข้าห้องแชตในอินเทอร์เน็ตเพื่อหาดูว่ามีใครมีอาการทำนองนี้หรือไม่ ผลปรากฏว่าเขาพบชาย-หญิง 17 คนที่จามทันทีที่คิดถึงเรื่องเซ็กซ์ และสามคนมีอาการเดียวกันหลังจากถึงจุดสุดยอด
ดร.บุตตายังบอกว่า การพิมพ์คำว่า เซ็กซ์และจามในกูเกิล ได้ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจพอกัน
“แม้รายงานในอินเทอร์เน็ตไม่ถือเป็นหลักฐานที่สมเหตุสมผลสำหรับปรากฏการณ์นี้ แต่การค้นพบของเราบ่งชี้ว่านี่เป็นอาการที่เกิดขึ้นทั่วไปมากกว่าที่เราเคยนึก” ดร.บุตตาและดร.แฮร์โรลด์ แม็กซ์เวลล์ จิตแพทย์อาวุโสที่ร่วมทำการวิจัย ระบุในรายงาน
ปกติแล้วการจามมักเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่ออาการระคายเคืองในโพรงจมูก การถอนคิ้วทำให้จามได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นการกระตุ้นเส้นประสาทสมองคู่ที่5 (trigeminal nerve) ที่ทำหน้าที่รับความรู้สึกจากผิวหนังบริเวณใบหน้า แต่บางคนจามเมื่อโดนแดด ที่แปลกกว่านั้นคือ การที่คนในครอบครัวเดียวกันจามหลังอาหาร
ดร.บุตตาเชื่อว่า ความเชื่อมโยงนี้เกิดจากการทำงานบกพร่องในระบบประสาทอัตโนมัติ หรือส่วนของระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับอัตราการเต้นของหัวใจ การไหลเวียนโลหิตและการย่อยอาหาร ทั้งนี้ ส่วนของประสาทที่ควบคุมการหายใจ ความดันโลหิต การจาม และการย่อยอาหาร ทำงานใกล้ชิดกันในก้านสมอง
นักวิจัยเชื่อว่า การจามจากอาการแพ้และการจามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเซ็กซ์เกิดขึ้นเมื่อสัญญาณเหล่านี้รบกวนกัน อีกทั้งเชื่อว่า ปฏิกิริยานี้อาจถ่ายทอดภายในครอบครัว
เกร็ดเล็กน่ารู้เกี่ยวกับการจาม
- อากาศที่พ่นออกมาจากจมูกระหว่างการจามเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 95 ไมล์ (152 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง เร็วกว่าเฮอร์ริเคนระดับ 12
- การจามแต่ละครั้งจะมีละอองน้ำมูก 40,000 ละอองกระจายในอากาศ
- การศึกษาบางฉบับแสดงให้เห็นว่า สามารถหยุดการจามได้โดยใช้นิ้วกดบริเวณใต้จมูก
- ชาวกรีกโบราณเชื่อว่าการจามคือสัญญาณจากพระเจ้า
- ในประเทศส่วนใหญ่ คนมักพูดว่า ‘แข็งแรง สุขภาพดี!’ หลังจาม ซึ่งเชื่อว่ามาจากความเชื่อในสมัยกลางว่าวิญญาณอาจหลุดออกจากร่างขณะจาม
- มีเรื่องเล่าขานกันว่า การหลับตาระหว่างจามก็เพื่อไม่ให้ตาหลุดออกจากเบ้า การกะพริบตาโดยไม่ตั้งใจเป็นผลข้างเคียงจากสัญญาณจากสมองที่ส่งถึงหน้าอก หน้า และท้องระหว่างจาม
- การจามขณะขับรถด้วยความเร็ว 70 ไมล์ (112 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง จะทำให้รถเคลื่อนไปข้างหน้า 300 ฟุต (91 เมตร) ขณะที่คุณหลับตา