ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่สนธิกำลังรวบตัวผู้ต้องสงสัยวางระเบิดโรงแรมปาร์ควิลล์ที่ยะลาได้แล้ว 1 คนนำตัวไปสอบเครียด เบื้องต้นเชื่อเป็นฝีมือกลุ่ม "ไพศอล หะยีสามะแอ" มือผลิตระเบิดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้าน "กอ.รมน.ภาค 4" สั่งเสริมกำลังทหารคุมเข้มเส้นทางรถไฟจังหวัดชายแดนใต้ช่วงปีใหม่หลังคนร้ายเริ่มก่อเหตุรุนแรงโจมตีรถไฟ ด้านภาคเอกชนสงขลาเชื่อเหตุระเบิดชายแดนใต้ ไม่กระทบท่องเที่ยว
จากกรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณหน้าโรงแรมปาร์ควิว เขตเทศบาลนครยะลา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คนถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาเมื่อคืนวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายนำรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นไฟต์เตอร์ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน บฉ 8381 ยะลา นำมาจอดจอดอยู่ด้านหน้า ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด หลังคาด้านหลังเปิด กระจกแตกทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในรถพบถังแก๊สหุงต้มขนาด 15 กก.ของบริษัทสยามแก๊ส สภาพแตกกระจาย พร้อมเศษสายไฟ เศษปุ๋ยยูเรีย เศษสะเก็ดระเบิดจำนวนมาก อยู่ภายในรถ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊ส น้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 30 กก.ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น.วานที่ (21 ธ.ค.) มีรายงานว่า หลังเกิดระเบิดทำให้ลูกค้าที่มาพักที่โรงแรมทยอยออกจากโรงแรมทันที ส่วนความคืบหน้าด้านคดีจากการตรวจสอบภาพจากวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพของคนร้ายเอาไว้เ พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้มีจำนวน 2 คน อายุประมาณ 20-22 ปี โดยคนร้าย 1 คน ขับรถคันที่ก่อเหตุมาวนเวียนสองสามรอบในช่วงเวลา 15.00 น. แต่ไม่ได้จอดรถ จนกระทั่งเวลา 18.08 น. รถคันดังกล่าวจึงได้เข้ามาจอด ตรวจจุดเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรม ได้เดินเข้าไปถาม แต่คนร้ายอ้างว่ามารับแฟนที่โต๊ะสนุกคิวทองและจากนั้นมีคนร้ายอีกคนขับรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมารับไป ซึ่งภาพทั้งหมดกล้องวงจรปิดของโรงแรมสามารถบันทึกเอาไว้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม จากการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองเข้าตรวจค้นย่านตลาดเก่า เมื่อเช้าวานนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน จึงได้นำตัวไปสอบสวนขยายผล ขณะที่หน่วยข่าวกรองรายงานยืนยันว่า คนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เป็นกลุ่มของนายไพศอล หะยีสามะแอ มือผลิตระเบิดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังคงหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ และเป็นที่ต้องการตัวของทุกหน่วย ส่วนโรงแรมที่เกิดเหตุพบว่า ลูกค้าที่มาพักต่างทยอยออกจากโรงแรมอย่างต่อเนื่อง
**ตร.ปัตตานีเร่งขยายผลจยย.ซุกบึ้ม
ด้าน พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี เปิดเผยว่า คดีระเบิดหน้าศูนย์การค้าซูปเปอร์เอสพี กลางเมืองปัตตานี มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเมื่อคืนวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ยังไม่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย และจากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่ผู้ก่อความไม่สงบใช้ก่อเหตุพบว่าเป็นทะเบียน ศธร 697 เชียงใหม่ เป็นทะเบียนถูกดัดแปลง ตัดต่อ และขูดหมายเลขเครื่องรถ ยังไม่ทราบความชัดเจนและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนผู้ก่อเหตุคาดว่าเป็นกลุ่มเดียวกันที่วางระเบิดลานจอดรถหน้าโคนีเซี่ยมซีนีเพล็กซ์ใกล้ สภ.เมืองปัตตานี
ทางด้านนายธีรเทพ ศรียะพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นำกระเช้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บ ดช.อดินันท์ หวันสุหลง อายุ 4 ปี และ ด.ช.ซูบาฮา หวันสุหลง อายุ 2 ปี ที่โรงพยาบาลปัตตานี ขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว ซึ่งเด็กทั้งสองเป็นลูกนางสือนี หวันสุหลง ที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 120,000 บาท แก่ครอบครัวของนางสือนี
ขณะเดียวกันช่วงเช้าวานนี้ (21 ธ.ค.) พ.ต.อ.วัลลพ จำนงอาสา ผกก.สภ.สายบุรี รับแจ้งเหตุระเบิดบริเวณศาลาริมทางสามแยกบ้านทุ่งน้อย ม.1 ต.ละหาร อ.สายบุรี เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 นาย ถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี คือ อส.ทพ.มูฮัมหมัดกอเฉม หลีหนู อายุ 23 ปี สังกัดกรมทหารพราน ที่ 44 ก่อนเกิดเหตุ อส.ทพ.มูฮัมหมัดกอเฉม และเจ้าหน้าที่อีก 6 นาย ออกลาดตระเวนดูแลความเรียบร้อยและแวะพักที่ศาลา ผู้ก่อเหตุจึงกดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่วางซุกไว้ก่อนหน้านี้.
**ตร.นราฯตื่นตัวสั่งรปภ.เข้มทุกพื้นที่
ด้าน พ.ต.อ.โชติ ชวาลวิวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้สั่งการไปยังกำลังในพื้นที่แต่ละโรงพักในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ให้เพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวังและตั้งจุดตรวจตามจุดต่างๆ ในพื้นที่อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะจุดเข้า-ออกตัวเมือง พร้อมกันนี้ให้มีการตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยและสิ่งผิดปกติตามย่านชุมชนต่างๆ เป็นพิเศษ โดยพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการถูกก่อเหตุขณะนี้คือ อ.เมือง อ.สุไหงโก-ลก และ อ.รือเสาะ ซึ่งได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าวให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษแล้ว
"จากการสืบสวนขณะนี้ยังพบว่ามีความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบอยู่ที่จะก่อเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ด้วย" พ.ต.อ.โชติ กล่าวว่า
**เอกชนชี้ยังไม่กระทบท่องเที่ยว
นายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เปิดเผยถึงเหตุระเบิดที่ จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา คืนวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ไม่กระทบถึงการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลาและ อ.หาดใหญ่ เพราะกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดีว่า อยู่คนละพื้นที่ อีกทั้งเจ้าหน้าที่เสริมกำลังทหารเข้ามาร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจขึ้น และรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย ขณะนี้มียอดจองห้องพักช่วงเทศกาลปีใหม่เข้ามากว่าร้อยละ 80 และช่วงเทศกาลตรุษจีนหลังจากปีใหม่นักท่องเที่ยวจองห้องพักเต็มแล้ว
สำหรับกิจกรรมที่จะมีขึ้นในคืนส่งท้ายปีเก่า เป็นงานเคาท์ดาวน์ 2 จุด คือกลางเมืองหาดใหญ่ และชายหาดสมิหลา อ.เมือง ซึ่งมหรสพและวงดนตรีจากศิลปินชื่อดังมากมายที่จะมาสร้างสีสัน และความสนุกสนานตลอดทั้งคืน
**เสริมกำลังเข้ม รปภ.รถไฟสายใต้
พ.ต.ท.สมชาย ศรีศรยุทธ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 อำเภอนาทวี เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยรถไฟในพื้นที่รับผิดชอบ จากสถานีรถไฟหาดใหญ่ถึงเขตรอยต่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ความยาว 52 กิโลเมตร ในช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังจากที่คนร้ายเริ่มก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้งโดยเฉพาะในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการลอบยิงขบวนรถไฟและถอดหมุดรางรถไฟในพื้นที่ จ.ยะลา
ในส่วนของหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 อำเภอนาทวี ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการคุมเข้มเส้นทางรถไฟตั้งแต่สถานีรถไฟหาดใหญ่ถึงเขตรอยต่อ อ.โคกโพธิ์ ความยาว 52 กิโลเมตร ได้สั่งการให้กองร้อย ตชด.ในพื้นที่ที่มีเส้นทางรถไฟผ่านทั้งที่ อ.จะนะและ อ.เทพา จัดกำลังคุมเข้มเส้นทางรถไฟ
โดยจัดชุดลาดตระเวนเดินตรวจเส้นทางรถไฟและจัดชุดสุนัขสงครามพร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้ามาเสริมในจุดที่ล่อแหลมต่อการก่อเหตุร้าย เพื่อป้องกันแนวร่วมในพื้นที่ฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์เส้นทางรถไฟ โดยทำการตรวจเป็นระยะๆตลอดเวลา มีการสนธิกำลังกับตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษประจำสถานีรถไฟ กองร้อย ฉก.ตชด.ในพื้นที่และทหารพรานที่ช่วยในการลาดตระเวนเส้นทางด้วย โดยเน้นพื้นที่ที่ล่อแหลมพื้นที่ที่เป็นเส้นทางรถไฟผ่านพื้นที่ป่าพื้นที่ภูเขา
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยรถไฟในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จากสถานีหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ถึงสถานีสุไหงโกล-ลก จ.นราธิวาส ในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้มีการกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าไว้แล้ว โดยจะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่คุมบนขบวนรถไฟอย่างน้อย 10 นายต่อขบวน รวมทั้งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะส่งกำลังทหารมาเสริมการทำงานของตำรวจ และ อส.ตามสถานีสำคัญต่าง ๆ เช่น สถานีหาดใหญ่ ยะลา ปัตตานี ตันหยงมัส สุไหงโก-ลก รือเสาะ และสถานีรามัน
รวมทั้งจะมีการลาดตระเวนเส้นทางรถไฟและสุ่มตรวจในพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะตกเป็นเป้าหมายของการก่อเหตุ และสุ่มตรวจผู้โดยสารและสิ่งของต้องสงสัยทั้งภายในสถานีและบนขบวนรถ ที่สำคัญจะมีแผนสำรองซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ไว้รองรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งมาตรการทั้งหมดจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม ไปจนถึงวันที่ 8 มกราคมปีหน้า ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนใช้บริการมากที่สุด
จากกรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณหน้าโรงแรมปาร์ควิว เขตเทศบาลนครยะลา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คนถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาเมื่อคืนวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายนำรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นไฟต์เตอร์ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน บฉ 8381 ยะลา นำมาจอดจอดอยู่ด้านหน้า ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด หลังคาด้านหลังเปิด กระจกแตกทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในรถพบถังแก๊สหุงต้มขนาด 15 กก.ของบริษัทสยามแก๊ส สภาพแตกกระจาย พร้อมเศษสายไฟ เศษปุ๋ยยูเรีย เศษสะเก็ดระเบิดจำนวนมาก อยู่ภายในรถ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊ส น้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 30 กก.ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น.วานที่ (21 ธ.ค.) มีรายงานว่า หลังเกิดระเบิดทำให้ลูกค้าที่มาพักที่โรงแรมทยอยออกจากโรงแรมทันที ส่วนความคืบหน้าด้านคดีจากการตรวจสอบภาพจากวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพของคนร้ายเอาไว้เ พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้มีจำนวน 2 คน อายุประมาณ 20-22 ปี โดยคนร้าย 1 คน ขับรถคันที่ก่อเหตุมาวนเวียนสองสามรอบในช่วงเวลา 15.00 น. แต่ไม่ได้จอดรถ จนกระทั่งเวลา 18.08 น. รถคันดังกล่าวจึงได้เข้ามาจอด ตรวจจุดเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรม ได้เดินเข้าไปถาม แต่คนร้ายอ้างว่ามารับแฟนที่โต๊ะสนุกคิวทองและจากนั้นมีคนร้ายอีกคนขับรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมารับไป ซึ่งภาพทั้งหมดกล้องวงจรปิดของโรงแรมสามารถบันทึกเอาไว้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม จากการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองเข้าตรวจค้นย่านตลาดเก่า เมื่อเช้าวานนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน จึงได้นำตัวไปสอบสวนขยายผล ขณะที่หน่วยข่าวกรองรายงานยืนยันว่า คนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เป็นกลุ่มของนายไพศอล หะยีสามะแอ มือผลิตระเบิดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังคงหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ และเป็นที่ต้องการตัวของทุกหน่วย ส่วนโรงแรมที่เกิดเหตุพบว่า ลูกค้าที่มาพักต่างทยอยออกจากโรงแรมอย่างต่อเนื่อง
**ตร.ปัตตานีเร่งขยายผลจยย.ซุกบึ้ม
ด้าน พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี เปิดเผยว่า คดีระเบิดหน้าศูนย์การค้าซูปเปอร์เอสพี กลางเมืองปัตตานี มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเมื่อคืนวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ยังไม่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย และจากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่ผู้ก่อความไม่สงบใช้ก่อเหตุพบว่าเป็นทะเบียน ศธร 697 เชียงใหม่ เป็นทะเบียนถูกดัดแปลง ตัดต่อ และขูดหมายเลขเครื่องรถ ยังไม่ทราบความชัดเจนและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนผู้ก่อเหตุคาดว่าเป็นกลุ่มเดียวกันที่วางระเบิดลานจอดรถหน้าโคนีเซี่ยมซีนีเพล็กซ์ใกล้ สภ.เมืองปัตตานี
ทางด้านนายธีรเทพ ศรียะพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นำกระเช้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บ ดช.อดินันท์ หวันสุหลง อายุ 4 ปี และ ด.ช.ซูบาฮา หวันสุหลง อายุ 2 ปี ที่โรงพยาบาลปัตตานี ขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว ซึ่งเด็กทั้งสองเป็นลูกนางสือนี หวันสุหลง ที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 120,000 บาท แก่ครอบครัวของนางสือนี
ขณะเดียวกันช่วงเช้าวานนี้ (21 ธ.ค.) พ.ต.อ.วัลลพ จำนงอาสา ผกก.สภ.สายบุรี รับแจ้งเหตุระเบิดบริเวณศาลาริมทางสามแยกบ้านทุ่งน้อย ม.1 ต.ละหาร อ.สายบุรี เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 นาย ถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี คือ อส.ทพ.มูฮัมหมัดกอเฉม หลีหนู อายุ 23 ปี สังกัดกรมทหารพราน ที่ 44 ก่อนเกิดเหตุ อส.ทพ.มูฮัมหมัดกอเฉม และเจ้าหน้าที่อีก 6 นาย ออกลาดตระเวนดูแลความเรียบร้อยและแวะพักที่ศาลา ผู้ก่อเหตุจึงกดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่วางซุกไว้ก่อนหน้านี้.
**ตร.นราฯตื่นตัวสั่งรปภ.เข้มทุกพื้นที่
ด้าน พ.ต.อ.โชติ ชวาลวิวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้สั่งการไปยังกำลังในพื้นที่แต่ละโรงพักในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ให้เพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวังและตั้งจุดตรวจตามจุดต่างๆ ในพื้นที่อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะจุดเข้า-ออกตัวเมือง พร้อมกันนี้ให้มีการตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยและสิ่งผิดปกติตามย่านชุมชนต่างๆ เป็นพิเศษ โดยพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการถูกก่อเหตุขณะนี้คือ อ.เมือง อ.สุไหงโก-ลก และ อ.รือเสาะ ซึ่งได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าวให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษแล้ว
"จากการสืบสวนขณะนี้ยังพบว่ามีความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบอยู่ที่จะก่อเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ด้วย" พ.ต.อ.โชติ กล่าวว่า
**เอกชนชี้ยังไม่กระทบท่องเที่ยว
นายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เปิดเผยถึงเหตุระเบิดที่ จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา คืนวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ไม่กระทบถึงการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลาและ อ.หาดใหญ่ เพราะกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดีว่า อยู่คนละพื้นที่ อีกทั้งเจ้าหน้าที่เสริมกำลังทหารเข้ามาร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจขึ้น และรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย ขณะนี้มียอดจองห้องพักช่วงเทศกาลปีใหม่เข้ามากว่าร้อยละ 80 และช่วงเทศกาลตรุษจีนหลังจากปีใหม่นักท่องเที่ยวจองห้องพักเต็มแล้ว
สำหรับกิจกรรมที่จะมีขึ้นในคืนส่งท้ายปีเก่า เป็นงานเคาท์ดาวน์ 2 จุด คือกลางเมืองหาดใหญ่ และชายหาดสมิหลา อ.เมือง ซึ่งมหรสพและวงดนตรีจากศิลปินชื่อดังมากมายที่จะมาสร้างสีสัน และความสนุกสนานตลอดทั้งคืน
**เสริมกำลังเข้ม รปภ.รถไฟสายใต้
พ.ต.ท.สมชาย ศรีศรยุทธ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 อำเภอนาทวี เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยรถไฟในพื้นที่รับผิดชอบ จากสถานีรถไฟหาดใหญ่ถึงเขตรอยต่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ความยาว 52 กิโลเมตร ในช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังจากที่คนร้ายเริ่มก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้งโดยเฉพาะในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการลอบยิงขบวนรถไฟและถอดหมุดรางรถไฟในพื้นที่ จ.ยะลา
ในส่วนของหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 อำเภอนาทวี ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการคุมเข้มเส้นทางรถไฟตั้งแต่สถานีรถไฟหาดใหญ่ถึงเขตรอยต่อ อ.โคกโพธิ์ ความยาว 52 กิโลเมตร ได้สั่งการให้กองร้อย ตชด.ในพื้นที่ที่มีเส้นทางรถไฟผ่านทั้งที่ อ.จะนะและ อ.เทพา จัดกำลังคุมเข้มเส้นทางรถไฟ
โดยจัดชุดลาดตระเวนเดินตรวจเส้นทางรถไฟและจัดชุดสุนัขสงครามพร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้ามาเสริมในจุดที่ล่อแหลมต่อการก่อเหตุร้าย เพื่อป้องกันแนวร่วมในพื้นที่ฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์เส้นทางรถไฟ โดยทำการตรวจเป็นระยะๆตลอดเวลา มีการสนธิกำลังกับตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษประจำสถานีรถไฟ กองร้อย ฉก.ตชด.ในพื้นที่และทหารพรานที่ช่วยในการลาดตระเวนเส้นทางด้วย โดยเน้นพื้นที่ที่ล่อแหลมพื้นที่ที่เป็นเส้นทางรถไฟผ่านพื้นที่ป่าพื้นที่ภูเขา
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยรถไฟในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จากสถานีหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ถึงสถานีสุไหงโกล-ลก จ.นราธิวาส ในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้มีการกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าไว้แล้ว โดยจะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่คุมบนขบวนรถไฟอย่างน้อย 10 นายต่อขบวน รวมทั้งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะส่งกำลังทหารมาเสริมการทำงานของตำรวจ และ อส.ตามสถานีสำคัญต่าง ๆ เช่น สถานีหาดใหญ่ ยะลา ปัตตานี ตันหยงมัส สุไหงโก-ลก รือเสาะ และสถานีรามัน
รวมทั้งจะมีการลาดตระเวนเส้นทางรถไฟและสุ่มตรวจในพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะตกเป็นเป้าหมายของการก่อเหตุ และสุ่มตรวจผู้โดยสารและสิ่งของต้องสงสัยทั้งภายในสถานีและบนขบวนรถ ที่สำคัญจะมีแผนสำรองซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ไว้รองรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งมาตรการทั้งหมดจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม ไปจนถึงวันที่ 8 มกราคมปีหน้า ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนใช้บริการมากที่สุด