“สุชาติ” แถลงจับ 1 ใน 6 แก๊งเสื้อแดงถ่อยขณะนอนหลับในม็อบ นปช. หลังศาลออกหมายจับฐานทุ่มอิฐใส่รถ ส.ส.ปชป.วันโหวตเลือกนายกฯ อ้างเป็นช่างชุบโลหะ แต่มาชุมนุมยืดยาวอยู่กับคนเสื้อแดง บอกแค้น ปชป. ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเลยรวมหัวกับพวกถล่ม ผบช.น.ยันตำรวจ ใช้มาตรการเดียวกันในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีแบ่งแยกสีเหลือง- สีแดง
วานนี้(18 ธ.ค.)เวลา 15.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แถลงข่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกองกำกับการสืบสวนนครบาล 1 จับกุมนายโชคชัย คำลือ อายุ 25 ปี อาชีพช่างชุบโลหะในโรงงานอุตสาหกรรมย่านเทพารักษ์ อยู่บ้านเลขที่ 8/12 หมู่ 10 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม หนึ่งใน 6 ผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. (เสื้อแดง) ที่ศาลออกหมายจับ กรณีทุ่มอิฐตัวหนอนใส่กระจกรถเบ็นซ์สีดำ ของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จนเกิดความเสียหาย ขณะเคลื่อนออกจากรัฐสภา ระหว่างมีการชุมนุมต่อต้านการลงคะแนนเลือกนายกฯคนที่ 27 เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมาตามหมายจับศาลแขวงดุสิต ข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่ง อย่างใดเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
ข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น โดยพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับกุมนายโชคชัย พร้อมผู้ชุมนุมที่ร่วมทำผิดข้อหาดังกล่าวรวม 6 คนตามพยานหลักฐานภาพถ่ายและภาพวิดีโอที่บันทึกได้ซึ่งถือเป็นความผิดที่ชัดเจน
นายโชคชัย ยอมรับว่า ตัวเองเป็นบุคคลคนเดียวกับในภาพถ่ายในเหตุการณ์ ที่พนักงานสอบสวนรวบรวมได้และยอมรับว่าเป็นคนเดียวกับบุคลที่ใช้อิฐตัวหนอนทุ่มใส่รถยนต์ที่ออกจากรัฐสภาจริง พร้อมเปิดเผยถึงความรู้สึกหลังถูกจับกุมดำเนินคดีว่า เฉยๆ ไม่รู้สึกอะไร ส่วนเหตุที่ทำวันนั้นเพราะอารมณ์ชั่ววูบและเจ็บแค้นเนื่องจากรับไม่ได้ที่รัฐบาลของตนเองถูกรังแกถูกทำร้ายถูกกระทำมาโดยตลอด และทนไม่ได้ที่จะมีรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำเป็นนายกฯ เพราะส่วนตัวไม่ชอบพรรคนี้อยู่แล้ว
"ที่ผมไปหน้ารัฐสภาวันนั้นไปด้วยตัวเองไม่มีใครมาจ้างไม่ได้รับเงินจากใคร ทุกครั้งทีมีการชุมนุมเสื้อแดงก็จะมาร่วม ซึ่งวันนั้นมาตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.แล้วและเห็นผู้ชุมนุมคนอื่นปาหินใส่รถ ส.ส.ฝั่งตรงข้าม ก็หยิบตัวหนอนบนทางเท้าปาใส่ ไปบ้างโดยไม่ทันได้คิดอะไรเพราะอารมณ์ตอนนั้นมันพาไปอีกทั้งยังทำไปเพราะแก้แค้นให้รัฐบาลที่ผมรัก"
นายโชคชัย กล่าวว่า หลังเหตุการณ์ที่หน้าอาคารรัฐสภาสงบตนก็กลับไปร่วมชุมนุมต่อที่ท้องสนามหลวงโดยไม่รู้ว่าถูกตำรวจออกหมายจับ จนกระทั่งมีตำรวจเอาหมายจับไปจับกุมขณะกำลังนอนหลับอยู่ใกล้เวทีปราศรัยท้องสนามหลวง บริเวณริมถนนจักรพงษ์ แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กทม.
ด้าน พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า การชุมนุมสามารถทำได้แต่อย่ากระทำการใด ๆ ที่ผิดกฎหมาย ตำรวจมีการบันทึกภาพการทำความผิดต่างไว้หมดแล้ว ไม่สามารถเล็ดลอดไปได้ ยืนยันใช้มาตรการเดียวกันหมดในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่มีแบ่งแยกสีเหลือง สีแดง
ส่วนที่มีรายงานจาก พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รอ ผบช.น. ระบุว่าในวันแถลงนโยบายรัฐบาลจะมีผู้ชุมนุมจำนวนมากและอาจจะถึง 50,000 คนนั้น ส่วนนี้ยังไม่รับรายงานและคงต้องคุยกับ พล.ต.ต.เอกรัตน์ ก่อนว่ามีข้อมูลที่มาอย่างไร หากมีจริงตำรวจก็คงต้องปรับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์
วันเดียวกันเวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ภาณุพงษ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสรุปและประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่ม นปช.โดยมีนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น.ผู้บังคับการในพื้นที่รับผิดชอบ ทุกพื้นที่ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รอง ผบช.น.กล่าวก่อนเข้าประชุม ว่าการซักซ้อม การสาธิตในการเตรียมตัวรับมือกับกลุ่ม นปช.เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าใด คาดว่า ยังจะต้องมีการฝึกซักซ้อมการสาธิตเพิ่มเติมอีก และจะเพิ่มข้อปฏิบัติที่ระบุลึกลงไปโดยบอกถึงหน้าที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละคนต้องปฏิบัติ อาทิ เขตพื้นที่ใดให้ บกน.ใดรับผิดชอบเพื่อให้อยู่ในพื้นที่ตามที่กำหนดได้
พล.ต.ต.เอกรัตน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดชุดตำรวจ ปราบจลาจลและมอบหมายพื้นที่ในการดูแล และเชื่อว่าในวันจันทร์ (22 ธ.ค.) จะมีผู้เดินทางมาชุมนุมเพิ่มขึ้น อีกทั้งที่ผ่านมายอมรับว่าเจ้าหน้าที่บางนายยังไม่เข้าใจถึงวิธีการปฏิบัติ จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติมด้วย
วานนี้(18 ธ.ค.)เวลา 15.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แถลงข่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกองกำกับการสืบสวนนครบาล 1 จับกุมนายโชคชัย คำลือ อายุ 25 ปี อาชีพช่างชุบโลหะในโรงงานอุตสาหกรรมย่านเทพารักษ์ อยู่บ้านเลขที่ 8/12 หมู่ 10 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม หนึ่งใน 6 ผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. (เสื้อแดง) ที่ศาลออกหมายจับ กรณีทุ่มอิฐตัวหนอนใส่กระจกรถเบ็นซ์สีดำ ของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จนเกิดความเสียหาย ขณะเคลื่อนออกจากรัฐสภา ระหว่างมีการชุมนุมต่อต้านการลงคะแนนเลือกนายกฯคนที่ 27 เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมาตามหมายจับศาลแขวงดุสิต ข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่ง อย่างใดเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
ข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น โดยพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับกุมนายโชคชัย พร้อมผู้ชุมนุมที่ร่วมทำผิดข้อหาดังกล่าวรวม 6 คนตามพยานหลักฐานภาพถ่ายและภาพวิดีโอที่บันทึกได้ซึ่งถือเป็นความผิดที่ชัดเจน
นายโชคชัย ยอมรับว่า ตัวเองเป็นบุคคลคนเดียวกับในภาพถ่ายในเหตุการณ์ ที่พนักงานสอบสวนรวบรวมได้และยอมรับว่าเป็นคนเดียวกับบุคลที่ใช้อิฐตัวหนอนทุ่มใส่รถยนต์ที่ออกจากรัฐสภาจริง พร้อมเปิดเผยถึงความรู้สึกหลังถูกจับกุมดำเนินคดีว่า เฉยๆ ไม่รู้สึกอะไร ส่วนเหตุที่ทำวันนั้นเพราะอารมณ์ชั่ววูบและเจ็บแค้นเนื่องจากรับไม่ได้ที่รัฐบาลของตนเองถูกรังแกถูกทำร้ายถูกกระทำมาโดยตลอด และทนไม่ได้ที่จะมีรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำเป็นนายกฯ เพราะส่วนตัวไม่ชอบพรรคนี้อยู่แล้ว
"ที่ผมไปหน้ารัฐสภาวันนั้นไปด้วยตัวเองไม่มีใครมาจ้างไม่ได้รับเงินจากใคร ทุกครั้งทีมีการชุมนุมเสื้อแดงก็จะมาร่วม ซึ่งวันนั้นมาตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.แล้วและเห็นผู้ชุมนุมคนอื่นปาหินใส่รถ ส.ส.ฝั่งตรงข้าม ก็หยิบตัวหนอนบนทางเท้าปาใส่ ไปบ้างโดยไม่ทันได้คิดอะไรเพราะอารมณ์ตอนนั้นมันพาไปอีกทั้งยังทำไปเพราะแก้แค้นให้รัฐบาลที่ผมรัก"
นายโชคชัย กล่าวว่า หลังเหตุการณ์ที่หน้าอาคารรัฐสภาสงบตนก็กลับไปร่วมชุมนุมต่อที่ท้องสนามหลวงโดยไม่รู้ว่าถูกตำรวจออกหมายจับ จนกระทั่งมีตำรวจเอาหมายจับไปจับกุมขณะกำลังนอนหลับอยู่ใกล้เวทีปราศรัยท้องสนามหลวง บริเวณริมถนนจักรพงษ์ แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กทม.
ด้าน พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า การชุมนุมสามารถทำได้แต่อย่ากระทำการใด ๆ ที่ผิดกฎหมาย ตำรวจมีการบันทึกภาพการทำความผิดต่างไว้หมดแล้ว ไม่สามารถเล็ดลอดไปได้ ยืนยันใช้มาตรการเดียวกันหมดในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่มีแบ่งแยกสีเหลือง สีแดง
ส่วนที่มีรายงานจาก พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รอ ผบช.น. ระบุว่าในวันแถลงนโยบายรัฐบาลจะมีผู้ชุมนุมจำนวนมากและอาจจะถึง 50,000 คนนั้น ส่วนนี้ยังไม่รับรายงานและคงต้องคุยกับ พล.ต.ต.เอกรัตน์ ก่อนว่ามีข้อมูลที่มาอย่างไร หากมีจริงตำรวจก็คงต้องปรับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์
วันเดียวกันเวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ภาณุพงษ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสรุปและประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่ม นปช.โดยมีนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น.ผู้บังคับการในพื้นที่รับผิดชอบ ทุกพื้นที่ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รอง ผบช.น.กล่าวก่อนเข้าประชุม ว่าการซักซ้อม การสาธิตในการเตรียมตัวรับมือกับกลุ่ม นปช.เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าใด คาดว่า ยังจะต้องมีการฝึกซักซ้อมการสาธิตเพิ่มเติมอีก และจะเพิ่มข้อปฏิบัติที่ระบุลึกลงไปโดยบอกถึงหน้าที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละคนต้องปฏิบัติ อาทิ เขตพื้นที่ใดให้ บกน.ใดรับผิดชอบเพื่อให้อยู่ในพื้นที่ตามที่กำหนดได้
พล.ต.ต.เอกรัตน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดชุดตำรวจ ปราบจลาจลและมอบหมายพื้นที่ในการดูแล และเชื่อว่าในวันจันทร์ (22 ธ.ค.) จะมีผู้เดินทางมาชุมนุมเพิ่มขึ้น อีกทั้งที่ผ่านมายอมรับว่าเจ้าหน้าที่บางนายยังไม่เข้าใจถึงวิธีการปฏิบัติ จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติมด้วย