รอยเตอร์/เอเอฟพี - ตำรวจฝรั่งเศสพบดินระเบิดไดนาไมต์ 5 แท่งซ่อนอยู่ในห้างสรรพสินค้า "แปรงตองส์" ณ ย่านช็อปปิ้งโด่งดังในกรุงปารีสเมื่อวันอังคาร (16) หลังจากที่ได้รับคำเตือนจากกลุ่มลึกลับซึ่งเรียกร้องให้ฝรั่งเศสถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถาน ทำให้มิเชล อัลเลียต-มารี รัฐมนตรีมหาดไทยของฝรั่งเศส ออกมาประกาศว่าจะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยตามเมืองใหญ่ให้เข้มงวดขึ้นในช่วงคริสต์มาส ซึ่งปกติแล้วจะมีผู้คนออกมาจับจ่ายข้าวของกันหนาแน่น
ทั้งนี้ กลุ่มที่เรียกตนเองว่า "แนวร่วมการปฏิวัติอัฟกัน" ได้ส่งจดหมายเตือนไปยังสำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศสว่าทาง กลุ่มได้วางระเบิดไว้ในห้างแปรงตองส์ บนถนนบูลวาร์ด ฮอสแมนน์ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบอพยพผู้คนออกจากห้างดังกล่าวและตรวจพบระเบิดไดนาไมต์ซ่อนอยู่ในถังน้ำในห้องน้ำ ทว่าระเบิดดังกล่าวไม่มีเชื้อปะทุสำหรับจุดระเบิด จึงคาดว่าผู้ก่อเหตุเพียงต้องการสร้างสถานการณ์ให้แตกตื่นมากกว่ามุ่งให้มีผู้เสียชีวิต
นอกจากนั้น ในจดหมายดังกล่าวยังได้เตือนฝรั่งเศสด้วยว่าทางกลุ่ม "จะกลับมาปฏิบัติการในห้างใหญ่ๆ อีกโดยไม่มีการเตือนอีกแล้ว" หากฝรั่งเศสไม่ถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานภายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2009
อัลเลียต-มารีระบุว่าหน่วยรักษาความปลอดภัยของฝรั่งเศสไม่เคยได้ยินชื่อของกลุ่มดังกล่าวมาก่อน และยังสงสัยเกี่ยวกับแรงจูงใจที่แท้จริงในการก่อเหตุครั้งนี้ด้วย ส่วนตำรวจบอกว่าในจดหมายไม่มีการระบุคำว่าอิสลาม และว่าการก่อเหตุโจมตีในยุโรปในระยะหลังมักเป็นแบบที่ไม่มีการเตือนล่วงหน้า ทางด้านรัฐมนตรีกลาโหม แอร์ว มูแรง ก็กล่าววานนี้(17)ว่า พวกหัวรุนแรงอิสลามิสต์ ไม่ได้เป็นผู้ต้องสงสัยสำคัญที่สุดของการก่อเหตุคราวนี้
อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสมีทหารประจำการอยู่ในอัฟกานิสถานถึงกว่า 2,600 นาย และเมื่อเดือนที่แล้ว กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งได้เตือนผ่านทางวิดีโอที่เผยแพร่ในสถานีโทรทัศน์ อัล อารบิยาว่า ทางกลุ่มจะโจมตีปารีสหากฝรั่งเศสไม่ถอนทหารออกไป
ส่วนนายกรัฐมนตรีฟร็องซวส ฟิลง กล่าวในวันอังคารว่าฝรั่งเศสกำลังเสี่ยงที่จะถูกโจมตีสูง "เพราะฝรั่งเศสเป็นประเทศที่เข้าร่วมในการปกป้องเสรีภาพทั่วโลก และเพราะฝรั่งเศสมีกำลังทหารประจำการในหลายพื้นที่ซึ่งเรากำลังต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายนั่นเอง แต่ฝรั่งเศสจะไม่ยอมจำนนให้กับการข่มขู่ของพวกก่อการร้าย"
ในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 ห้างสรรพสินค้าของฝรั่งเศสรวมทั้งสถานีรถใต้ดินของฝรั่งเศสเคยถูกระเบิดโจมตีมาแล้วหลายครั้ง โดยกลุ่มต่อต้านชาวแอลจีเรียและผู้คนจากตะวันออกกลาง
การก่อเหตุครั้งล่าสุดนี้แม้จะไม่มีเหตุร้ายแรงแต่นับว่าเป็นโชคร้ายสำหรับธุรกิจค้าปลีกที่หวังจะทำกำไรในช่วงก่อนคริสต์มาส หลังจากที่ก่อนหน้านี้กิจการซบเซาลงไปอย่างมากเนื่องจากวิกฤตทางการเงินทั่วโลก
ทว่า ข่าวดีก็คือมีนักช็อปบางคนก็ยังเดินหน้าช็อปปิงต่อไปโดยไม่หวั่นสถานการณ์เช่นกัน อย่างเช่นอิลาเรีย เดอ ปาสคุอา ชาวอิตาเลียนที่ยักไหล่ใส่ตำรวจเมื่อถูกกันไม่ให้เข้าไปในห้างแปรงตองส์ในระหว่างการตรวจค้นหาระเบิด
"มีอีกตั้งหลายห้าง ฉันไปเดินที่แกเลอรีส์ ลาฟาแยตก็ได้" เธอบอกแบบไม่ยี่หระ
ทั้งนี้ กลุ่มที่เรียกตนเองว่า "แนวร่วมการปฏิวัติอัฟกัน" ได้ส่งจดหมายเตือนไปยังสำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศสว่าทาง กลุ่มได้วางระเบิดไว้ในห้างแปรงตองส์ บนถนนบูลวาร์ด ฮอสแมนน์ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบอพยพผู้คนออกจากห้างดังกล่าวและตรวจพบระเบิดไดนาไมต์ซ่อนอยู่ในถังน้ำในห้องน้ำ ทว่าระเบิดดังกล่าวไม่มีเชื้อปะทุสำหรับจุดระเบิด จึงคาดว่าผู้ก่อเหตุเพียงต้องการสร้างสถานการณ์ให้แตกตื่นมากกว่ามุ่งให้มีผู้เสียชีวิต
นอกจากนั้น ในจดหมายดังกล่าวยังได้เตือนฝรั่งเศสด้วยว่าทางกลุ่ม "จะกลับมาปฏิบัติการในห้างใหญ่ๆ อีกโดยไม่มีการเตือนอีกแล้ว" หากฝรั่งเศสไม่ถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานภายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2009
อัลเลียต-มารีระบุว่าหน่วยรักษาความปลอดภัยของฝรั่งเศสไม่เคยได้ยินชื่อของกลุ่มดังกล่าวมาก่อน และยังสงสัยเกี่ยวกับแรงจูงใจที่แท้จริงในการก่อเหตุครั้งนี้ด้วย ส่วนตำรวจบอกว่าในจดหมายไม่มีการระบุคำว่าอิสลาม และว่าการก่อเหตุโจมตีในยุโรปในระยะหลังมักเป็นแบบที่ไม่มีการเตือนล่วงหน้า ทางด้านรัฐมนตรีกลาโหม แอร์ว มูแรง ก็กล่าววานนี้(17)ว่า พวกหัวรุนแรงอิสลามิสต์ ไม่ได้เป็นผู้ต้องสงสัยสำคัญที่สุดของการก่อเหตุคราวนี้
อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสมีทหารประจำการอยู่ในอัฟกานิสถานถึงกว่า 2,600 นาย และเมื่อเดือนที่แล้ว กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งได้เตือนผ่านทางวิดีโอที่เผยแพร่ในสถานีโทรทัศน์ อัล อารบิยาว่า ทางกลุ่มจะโจมตีปารีสหากฝรั่งเศสไม่ถอนทหารออกไป
ส่วนนายกรัฐมนตรีฟร็องซวส ฟิลง กล่าวในวันอังคารว่าฝรั่งเศสกำลังเสี่ยงที่จะถูกโจมตีสูง "เพราะฝรั่งเศสเป็นประเทศที่เข้าร่วมในการปกป้องเสรีภาพทั่วโลก และเพราะฝรั่งเศสมีกำลังทหารประจำการในหลายพื้นที่ซึ่งเรากำลังต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายนั่นเอง แต่ฝรั่งเศสจะไม่ยอมจำนนให้กับการข่มขู่ของพวกก่อการร้าย"
ในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 ห้างสรรพสินค้าของฝรั่งเศสรวมทั้งสถานีรถใต้ดินของฝรั่งเศสเคยถูกระเบิดโจมตีมาแล้วหลายครั้ง โดยกลุ่มต่อต้านชาวแอลจีเรียและผู้คนจากตะวันออกกลาง
การก่อเหตุครั้งล่าสุดนี้แม้จะไม่มีเหตุร้ายแรงแต่นับว่าเป็นโชคร้ายสำหรับธุรกิจค้าปลีกที่หวังจะทำกำไรในช่วงก่อนคริสต์มาส หลังจากที่ก่อนหน้านี้กิจการซบเซาลงไปอย่างมากเนื่องจากวิกฤตทางการเงินทั่วโลก
ทว่า ข่าวดีก็คือมีนักช็อปบางคนก็ยังเดินหน้าช็อปปิงต่อไปโดยไม่หวั่นสถานการณ์เช่นกัน อย่างเช่นอิลาเรีย เดอ ปาสคุอา ชาวอิตาเลียนที่ยักไหล่ใส่ตำรวจเมื่อถูกกันไม่ให้เข้าไปในห้างแปรงตองส์ในระหว่างการตรวจค้นหาระเบิด
"มีอีกตั้งหลายห้าง ฉันไปเดินที่แกเลอรีส์ ลาฟาแยตก็ได้" เธอบอกแบบไม่ยี่หระ