เอเอฟพี - ตำรวจฝรั่งเศส ระบุ โจรวัยห้าสิบบุกเดี่ยวใช้ปืนพกปล้นเครื่องเพชรมูลค่าราว 6.6 ล้านยูโร (ราว 320 ล้านบาท) ไปจากร้านโชปาร์ดกลางกรุงปารีสเมื่อวันเสาร์ (30 พ.ค.)
โอลิเวียร์ เลบง โฆษกตำรวจของฝรั่งเศส ระบุว่า โจรดังกล่าวเป็นชายวัยห้าสิบเศษ สวมสูท และหมวกทรงบอร์ซาลิโน ปลอมตัวเป็นลูกค้าเดินเข้าร้านโชปาร์ด ซึ่งเป็นร้านสินค้าหรูมากๆ แห่งหนึ่งในปารีส ใกล้กับโรงแรมริตซ์ จากนั้นเขาได้ดึงปืนพกออกมาแล้วบังคับพนักงานขายให้ส่งเครื่องเพชรที่อยู่ในตู้โชว์ให้เขา เมื่อได้รับเครื่องเพชรดังกล่าวแล้ว โจรก็เดินออกจากร้านไปโดยไร้ร่องรอย
การโจรกรรมเครื่องเพชรครั้งนี้ใช้เวลาทั้งหมดเพียงสองนาทีเท่านั้น
“ชายแต่งตัวดีคนหนึ่งซึ่งดูเหมือนลูกค้าระดับเศรษฐีคนหนึ่ง เดินเข้ามาในร้านตอนบ่ายโมงตรง” คนทำงานในร้านโชปาร์ดซึ่งอยู่ในเหตุการณ์บอก และเล่าต่อไปว่า หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวก็ดึงปืนพกออกมาและบังคับพนักงานคนหนึ่งส่งเครื่องเพชรรวม 12 ชิ้นให้เขา
“เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก” ผู้เห็นเหตุการณ์คนดังกล่าว ระบุและว่า “เขาไม่ได้กวาดทุกอย่างในตู้โชว์ไป”
ส่วนพนักงานในร้านที่อยู่ใกล้เคียงกันใน เพลซ แวงโดม ซึ่งเป็นย่านจำหน่ายเครื่องประดับราคาแพง บอกว่าพวกเขาไม่เห็นอะไรผิดสังเกตเลยในช่วงเวลาที่เกิดดังกล่าว
โชปาร์ดเป็นผู้ผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับสำหรับพวกดาราและคนดัง และมีสาขาอยู่ในเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตรางวัลปาล์มทองคำที่แจกในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ ในเดือนธันวาคมก็เคยเกิดเหตุปล้นเครื่องเพชรมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ในร้านแฮร์รี วินสตันบนถนนมงตาญย่านช็องส์-เอลิเซ
ทั้งนี้ ตำรวจตั้งข้อสงสัยว่าการโจรกรรมเป็นฝีมือของแก๊งโจรข้ามชาติที่ชื่อว่า “พิงค์ แพนเตอร์”
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีชาวเซอร์เบียสองคนที่สงสัยว่าจะอยู่ในแก๊งโจรดังกล่าว ถูกจับกุมที่กรุงปารีส พวกเขาถูกตั้งข้อหาว่าก่อเหตุโจรกรรมโดยการทุบกระจกหน้าร้านค้าในโมนาโก สวิตเซอร์แลนด์ และเยอรมนี
และเมื่อวันพฤหัสบดี (28) ที่ผ่านมา อดีตทหารชาวมอนเตเนโกรคนหนึ่งซึ่งคาดว่าเป็นสมาชิกแก๊งพิงค์แพนเตอร์เช่นกัน ก็ถูกตัดสินจำคุก 15 ปีในคดีปล้นที่แซงต์โทรเปซ
ตำรวจฝรั่งเศสระบุวิธีก่ออาชญากรรมของแก๊งดังกล่าวนี้ ว่า “บุกปล้นแบบสายฟ้าแลบ กล้ามาก แต่มีการวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบ”