เอกชนท่องเที่ยว จี้รัฐบาลใหม่ เร่งฟื้นความเชื่อมั่น กู้ภาพลักษณ์ประเทศไทยคืนโดยเร็ว ด้านทัวร์จีนถอดใจ ตรุษจีนนี้นักท่องเที่ยวยังกลับมาได้ไม่ทัน อาจต้องสูญรายได้เฉียด 3 พันล้านบาท ขณะที่กลุ่มบูติคโฮเทลระดับ 4 ดาวขึ้นไปรวมตัวดั๊มราคาห้องพัก เหลือ 1 ใน 3 ของราคาปกติ
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ ไทย-จีน (T.C.T.A) ดูแลบริษัททัวร์ ที่นำนักท่องเที่ยวจากต่างจีนเข้ามาประเทศไทย เปิดเผยว่า ต้องการให้รัฐบาลใหม่ ซึ่งนำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ดำเนินการเรียกความเชื่อมั่น จากต่างประเทศ ที่มีต่อประเทศไทย กลับคืนมาโดยเร็ว ซึ่งในส่วนของตลาดจีน ขณะนี้ แทบจะไม่มีชาวจีนเดินทางเข้ามาเลย
***ทัวร์จีนถอดใจตรุษจีนสูญเงินเฉียด3 พันลบ.***
ในหลักการต้องเปิดเวทีเจรจากันระหว่างรับบาลทั้งสองประเทศ โดยฝ่ายไทย ต้อง ยืนยันหนักแน่น ถึงการรับรองว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างที่ผ่านมาอีก เพื่อให้ รัฐบาลจีนมั่นใจประเทศไทย และยินดีที่จะสนับสนุนประชากรของเขา ให้เดินทางเข้ามา ส่วนการกระตุ้นตลาด นอกจากจัดทัวร์ราคาพิเศษ หน่วยงานควรให้อินเซนทีฟ เช่น ฟรีค่าแลนด์ดิ้ง และ ยกเลิกเก็บค่าวีซ่า เป็นการชั่วคราว เป็นต้น เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ ที่จะเลือกเดินทางมาประเทศไทย
" หากการกระตุ้นตลาดได้ผลไม่ทันช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่จะถึงในวันที่ 26 ม.ค. 52 ก็ให้ คิดแคมเปญกระตุ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้เลย เพราะเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ชาวต่างชาติชื่นชอบรวมถึงประเทศจีน "
อย่างไรก็ตาม ในแต่ละปี ชาวจีนเดินทางเข้ามาประเทศไทยราว 1 ล้านคน แต่เฉพาะช่วงตรุษจีน จะเดินทางมาประมาณ 1 แสนคน คิดเป็นเม็ดเงินเข้าประเทศราว 3 พันล้านบาท แต่ขณะนี้ยังมียอดจองไม่ถึง 10% ทั่งที่ควรมีมากกว่า 50% แล้ว จึงมีความเป็นไปได้ที่เราจะต้องสูญเสียรายได้ในช่วงนี้ไป สำหรับชาวจีน 60% จะเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยว อีก 40% เดินทางด้วยตัวเอง ปี 51 ยอดนักท่องเที่ยวจีน ทั้งปี อาจลดมาอยู่ที่ 7 แสนคน เพราะ สถานการณ์การเมือง ที่เข้ามากระทบโดยตลอด
***บูติคโฮเทลดิ้นดั๊มราคาห้องพักเหลือ 1ใน 3 ***
ทางด้านนายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคม ไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทย ในช่วงนี้ ถือว่า ต่ำสุด เท่าที่เคยเป็นมา เพราะนักท่องเที่ยว ยกเลิกการเดินทาง ในช่วง ปิดสนามบิน เนื่องจากไม่แน่ใจว่า จะมีความวุ่นวาย อื่นๆ เกิดขึ้นตามมา หรือ มีการยืดเยื้อเพียงใด แต่ยอมรับว่า ยอดการยกเลิกได้หยุดแล้ว แต่การบุ๊คกิ้งเข้ามาใหม่ ก็ยังมีจำนวนน้อยมาก เพียง 10-20% ของ ที่ยกเลิกไป แต่ส่วนใหญ่เป็นตลาดจากยุโรป ส่วนย่านเอเชีย ยังซบเซา เห็นได้จาก ตัวเลขนักท่องเที่ยว ที่แอตต้า ต้องให้การต้อนรับในแต่ละวันในช่วงนี้จะอยู่ที่ 8 พัน - 1.2 หมื่นคน แต่ปัจจุบันลดเหลือ วันละ ไม่ถึง 2 พันคน
ซึ่งภาคเอกชนก็ไม่ได้คอยแต่การช่วยเหลือจากภาครัฐเท่านั้น เพราะ ล่าสุด ผู้ประกอบการโรงแรมกลุ่ม บูติคโฮเทล จำนวน 24 แห่งระดับตั้งแต่ 4 ดาวขึ้นไป ที่ตั้งอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ได้รวมตัวกันจัดแพกห้องพักราคาพิเศษ มาให้ แอตต้านำเสนอขายแก่ทั้งชาวไทยและต่างจาก ในราคา คืนละ 2,000 บาท พร้อมอาหารเช้า หรือ ซื้อ 2 คืน แถม 1 คืน เป็นต้น จากปกติจะขายที่ราคาคืนละ ประมาณ 6,000 บาท แคมเปญนี้ ให้ใช้สิทธิ์ได้ยาวถึง ตุลาคมปีหน้า โรงแรมที่เข้าร่วม เช่น บุราส่าหรี ภูเก็ต และ เซี่ยงไฮ้ อินน์ เยาวราช เป็นต้น
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ ไทย-จีน (T.C.T.A) ดูแลบริษัททัวร์ ที่นำนักท่องเที่ยวจากต่างจีนเข้ามาประเทศไทย เปิดเผยว่า ต้องการให้รัฐบาลใหม่ ซึ่งนำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ดำเนินการเรียกความเชื่อมั่น จากต่างประเทศ ที่มีต่อประเทศไทย กลับคืนมาโดยเร็ว ซึ่งในส่วนของตลาดจีน ขณะนี้ แทบจะไม่มีชาวจีนเดินทางเข้ามาเลย
***ทัวร์จีนถอดใจตรุษจีนสูญเงินเฉียด3 พันลบ.***
ในหลักการต้องเปิดเวทีเจรจากันระหว่างรับบาลทั้งสองประเทศ โดยฝ่ายไทย ต้อง ยืนยันหนักแน่น ถึงการรับรองว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างที่ผ่านมาอีก เพื่อให้ รัฐบาลจีนมั่นใจประเทศไทย และยินดีที่จะสนับสนุนประชากรของเขา ให้เดินทางเข้ามา ส่วนการกระตุ้นตลาด นอกจากจัดทัวร์ราคาพิเศษ หน่วยงานควรให้อินเซนทีฟ เช่น ฟรีค่าแลนด์ดิ้ง และ ยกเลิกเก็บค่าวีซ่า เป็นการชั่วคราว เป็นต้น เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ ที่จะเลือกเดินทางมาประเทศไทย
" หากการกระตุ้นตลาดได้ผลไม่ทันช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่จะถึงในวันที่ 26 ม.ค. 52 ก็ให้ คิดแคมเปญกระตุ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้เลย เพราะเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ชาวต่างชาติชื่นชอบรวมถึงประเทศจีน "
อย่างไรก็ตาม ในแต่ละปี ชาวจีนเดินทางเข้ามาประเทศไทยราว 1 ล้านคน แต่เฉพาะช่วงตรุษจีน จะเดินทางมาประมาณ 1 แสนคน คิดเป็นเม็ดเงินเข้าประเทศราว 3 พันล้านบาท แต่ขณะนี้ยังมียอดจองไม่ถึง 10% ทั่งที่ควรมีมากกว่า 50% แล้ว จึงมีความเป็นไปได้ที่เราจะต้องสูญเสียรายได้ในช่วงนี้ไป สำหรับชาวจีน 60% จะเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยว อีก 40% เดินทางด้วยตัวเอง ปี 51 ยอดนักท่องเที่ยวจีน ทั้งปี อาจลดมาอยู่ที่ 7 แสนคน เพราะ สถานการณ์การเมือง ที่เข้ามากระทบโดยตลอด
***บูติคโฮเทลดิ้นดั๊มราคาห้องพักเหลือ 1ใน 3 ***
ทางด้านนายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคม ไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทย ในช่วงนี้ ถือว่า ต่ำสุด เท่าที่เคยเป็นมา เพราะนักท่องเที่ยว ยกเลิกการเดินทาง ในช่วง ปิดสนามบิน เนื่องจากไม่แน่ใจว่า จะมีความวุ่นวาย อื่นๆ เกิดขึ้นตามมา หรือ มีการยืดเยื้อเพียงใด แต่ยอมรับว่า ยอดการยกเลิกได้หยุดแล้ว แต่การบุ๊คกิ้งเข้ามาใหม่ ก็ยังมีจำนวนน้อยมาก เพียง 10-20% ของ ที่ยกเลิกไป แต่ส่วนใหญ่เป็นตลาดจากยุโรป ส่วนย่านเอเชีย ยังซบเซา เห็นได้จาก ตัวเลขนักท่องเที่ยว ที่แอตต้า ต้องให้การต้อนรับในแต่ละวันในช่วงนี้จะอยู่ที่ 8 พัน - 1.2 หมื่นคน แต่ปัจจุบันลดเหลือ วันละ ไม่ถึง 2 พันคน
ซึ่งภาคเอกชนก็ไม่ได้คอยแต่การช่วยเหลือจากภาครัฐเท่านั้น เพราะ ล่าสุด ผู้ประกอบการโรงแรมกลุ่ม บูติคโฮเทล จำนวน 24 แห่งระดับตั้งแต่ 4 ดาวขึ้นไป ที่ตั้งอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ได้รวมตัวกันจัดแพกห้องพักราคาพิเศษ มาให้ แอตต้านำเสนอขายแก่ทั้งชาวไทยและต่างจาก ในราคา คืนละ 2,000 บาท พร้อมอาหารเช้า หรือ ซื้อ 2 คืน แถม 1 คืน เป็นต้น จากปกติจะขายที่ราคาคืนละ ประมาณ 6,000 บาท แคมเปญนี้ ให้ใช้สิทธิ์ได้ยาวถึง ตุลาคมปีหน้า โรงแรมที่เข้าร่วม เช่น บุราส่าหรี ภูเก็ต และ เซี่ยงไฮ้ อินน์ เยาวราช เป็นต้น