อีตัน (Eton) ได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในโลก มีคำกล่าวว่า “อังกฤษเอาชนะนโปเลียนที่วอเตอร์ ลู ได้ก็เพราะสู้กันในสนามกีฬาของอีตัน”
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะแม่ทัพนายกองและเสนาธิการทหารทั้งหลายต่างเป็นศิษย์เก่าอีตัน เคยเล่นกีฬารักบี้ทีมเดียวกันมา จึงเอาชนะจักรพรรดินโปเลียนผู้ยิ่งใหญ่ได้
แม้อีตันจะไม่ใช่โรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุด แต่ก็เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุด อีตันก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1440 หรือเมื่อเกือบ 600 ปีมาแล้ว โดยพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 ตั้งอยู่ใกล้ปราสาทวินเซอร์ มีนักเรียนประจำ 1,309 คน อยู่ตามคณะต่างๆ 25 คณะ คณะเหล่านี้มีนักเรียนคณะละ 160 คน คณะกระจายอยู่บริเวณวิทยาลัย มีหัวหน้าคณะละหนึ่งคน (บางคณะอาจมีมากกว่านั้นก็ได้) มีผู้ดูแลเรียกว่า “ผู้กำกับคณะ”
อีตันมีครู 1 คนต่อนักเรียน 10 คน นักเรียนทุกคนต้องมี laptop นักเรียนอีตันใส่เสื้อคลุมยาวคล้ายเสื้อกาวน์ และสวมกางเกงลายทาง นักเรียนที่จบจากอีตันได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และเคมบริดจ์หนึ่งในสาม
ที่สำคัญและอีตันชอบอวดเสมอก็คือ อีตันมีนักเรียนเก่าที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษถึง 18 คนแล้ว และมีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย รวมทั้งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว Eric Blair หรือผู้ใช้นามปากกาว่า George Orwell คนแต่ง Animal Farm และ 1984 นอกจากนั้นก็มี Andrew Lloyd Webber นักแต่งเพลงประกอบละครชื่อดัง เป็นต้น
เจมส์ บอนด์ ก็เป็นศิษย์เก่าอีตันเหมือนกันตามนิยายที่แต่งขึ้น และอีตันก็เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังหลายเรื่องที่จำได้ก็มีเรื่อง The Chariot of Fire เป็นต้น
การศึกษาแบบพับลิคสกูล นักเรียนอยู่ประจำย่อมได้รับการศึกษาอย่างรอบด้าน การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นทำให้เด็กต้องรู้จักปรับตัว และต้องไม่เห็นแก่ตัว การจะเป็นที่รักและยำเกรงของผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญ มิฉะนั้นก็จะโดนรังแก
ที่อีตันเคยมีระบบที่เรียกว่า fagging เด็กโตจะมีเด็กเล็กรับใช้คอยปูเตียง ทำความสะอาดห้อง เช็ดรองเท้า และทำอาหารว่างให้ วันหนึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ เสด็จฯ เสวยพระกระยาหารที่ร้านๆ หนึ่งในลอนดอน มีชาวอังกฤษคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน พระองค์รับสั่งว่า คนนั้นเขาเคยเป็นหัวหน้าที่อีตัน วันหนึ่งเขาสั่งให้ฉันทอดไส้กรอกให้ ฉันทอดไม่ดีเลยโดนเขาเขกหัวเอา
การศึกษาที่อีตันสอนให้คนเป็นสุภาพบุรุษ นอกจากการเรียนแล้ว อีตันยังมีกีฬา ดนตรี การละครเป็นส่วนสำคัญของการศึกษาด้วย ผู้จบการศึกษามาจึงรู้รอบตัว และมีบุคลิกภาพดี
เมื่อเป็นเช่นนี้ อีตันจึงเป็นโรงเรียนที่สร้างผู้นำดังที่เคยมีนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 18 คน
ขณะที่เขียนบทความนี้ เมืองไทยกำลังมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอยู่ และอีตันก็อาจมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 19 แต่คนนี้เป็นคนไทยคือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ถ้าอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ เขาก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ได้รับการเตรียมตัวมาอย่างดี เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ผิดกับผู้นำคนอื่นๆ
ศาสตราจารย์นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนักเรียนอังกฤษ การส่งอภิสิทธิ์เข้าโรงเรียนอีตัน เมื่อจบแล้วไปต่อที่มหาวิทยาลัย Oxford เท่ากับเป็นการให้การศึกษาที่ยอดเยี่ยม และการที่อภิสิทธิ์เลือกเรียนปรัชญา รัฐศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์ (PPE) ก็เป็นการปูพื้นฐานที่ดีที่สุดอีกเช่นกัน
ในเยาว์วัยเมื่อใดที่อภิสิทธิ์กลับมาเยี่ยมบ้าน เขาก็จะติดตามคุณชวน หลีกภัย ไปท้องที่ต่างๆ เสมอ และเมื่อได้เป็น ส.ส. เป็นรัฐมนตรี จนเป็นหัวหน้าพรรค อภิสิทธิ์ก็เป็น ส.ส.ที่เอาการเอางาน มีภาวะผู้นำที่ดี มีความสุขุมรอบคอบ และมีหลักการ นอกเหนือจากการเป็นคนซื่อสัตย์สุจริตอย่างยิ่งแล้ว
หลายคนเห็นว่า อภิสิทธิ์ “จืด” เกินไป ที่จริงความสุขุมรอบคอบนิ่มนวล เป็นคุณสมบัติที่ดีของผู้นำ และไม่เป็นผลเสียอะไร ผู้นำในสมัยนี้ต้องรู้เศรษฐกิจ และการต่างประเทศ การไปร่วมประชุมต่างประเทศเป็นภารกิจสำคัญ (บางคนกลัวการขึ้นเครื่องบิน และพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ฟังเขาก็ไม่รู้เรื่อง)
ผมเชียร์อภิสิทธิ์มานานแล้ว ผมเห็นว่าเขาเป็นตัวอย่างที่ดีของคนรุ่นหนุ่ม มีการศึกษาดี มีการอบรมจากครอบครัวที่ดี และมีครอบครัวที่อบอุ่น เขามีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำได้ดีที่สุดในยามนี้
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะแม่ทัพนายกองและเสนาธิการทหารทั้งหลายต่างเป็นศิษย์เก่าอีตัน เคยเล่นกีฬารักบี้ทีมเดียวกันมา จึงเอาชนะจักรพรรดินโปเลียนผู้ยิ่งใหญ่ได้
แม้อีตันจะไม่ใช่โรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุด แต่ก็เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุด อีตันก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1440 หรือเมื่อเกือบ 600 ปีมาแล้ว โดยพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 ตั้งอยู่ใกล้ปราสาทวินเซอร์ มีนักเรียนประจำ 1,309 คน อยู่ตามคณะต่างๆ 25 คณะ คณะเหล่านี้มีนักเรียนคณะละ 160 คน คณะกระจายอยู่บริเวณวิทยาลัย มีหัวหน้าคณะละหนึ่งคน (บางคณะอาจมีมากกว่านั้นก็ได้) มีผู้ดูแลเรียกว่า “ผู้กำกับคณะ”
อีตันมีครู 1 คนต่อนักเรียน 10 คน นักเรียนทุกคนต้องมี laptop นักเรียนอีตันใส่เสื้อคลุมยาวคล้ายเสื้อกาวน์ และสวมกางเกงลายทาง นักเรียนที่จบจากอีตันได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และเคมบริดจ์หนึ่งในสาม
ที่สำคัญและอีตันชอบอวดเสมอก็คือ อีตันมีนักเรียนเก่าที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษถึง 18 คนแล้ว และมีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย รวมทั้งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว Eric Blair หรือผู้ใช้นามปากกาว่า George Orwell คนแต่ง Animal Farm และ 1984 นอกจากนั้นก็มี Andrew Lloyd Webber นักแต่งเพลงประกอบละครชื่อดัง เป็นต้น
เจมส์ บอนด์ ก็เป็นศิษย์เก่าอีตันเหมือนกันตามนิยายที่แต่งขึ้น และอีตันก็เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังหลายเรื่องที่จำได้ก็มีเรื่อง The Chariot of Fire เป็นต้น
การศึกษาแบบพับลิคสกูล นักเรียนอยู่ประจำย่อมได้รับการศึกษาอย่างรอบด้าน การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นทำให้เด็กต้องรู้จักปรับตัว และต้องไม่เห็นแก่ตัว การจะเป็นที่รักและยำเกรงของผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญ มิฉะนั้นก็จะโดนรังแก
ที่อีตันเคยมีระบบที่เรียกว่า fagging เด็กโตจะมีเด็กเล็กรับใช้คอยปูเตียง ทำความสะอาดห้อง เช็ดรองเท้า และทำอาหารว่างให้ วันหนึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ เสด็จฯ เสวยพระกระยาหารที่ร้านๆ หนึ่งในลอนดอน มีชาวอังกฤษคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน พระองค์รับสั่งว่า คนนั้นเขาเคยเป็นหัวหน้าที่อีตัน วันหนึ่งเขาสั่งให้ฉันทอดไส้กรอกให้ ฉันทอดไม่ดีเลยโดนเขาเขกหัวเอา
การศึกษาที่อีตันสอนให้คนเป็นสุภาพบุรุษ นอกจากการเรียนแล้ว อีตันยังมีกีฬา ดนตรี การละครเป็นส่วนสำคัญของการศึกษาด้วย ผู้จบการศึกษามาจึงรู้รอบตัว และมีบุคลิกภาพดี
เมื่อเป็นเช่นนี้ อีตันจึงเป็นโรงเรียนที่สร้างผู้นำดังที่เคยมีนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 18 คน
ขณะที่เขียนบทความนี้ เมืองไทยกำลังมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอยู่ และอีตันก็อาจมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 19 แต่คนนี้เป็นคนไทยคือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ถ้าอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ เขาก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ได้รับการเตรียมตัวมาอย่างดี เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ผิดกับผู้นำคนอื่นๆ
ศาสตราจารย์นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนักเรียนอังกฤษ การส่งอภิสิทธิ์เข้าโรงเรียนอีตัน เมื่อจบแล้วไปต่อที่มหาวิทยาลัย Oxford เท่ากับเป็นการให้การศึกษาที่ยอดเยี่ยม และการที่อภิสิทธิ์เลือกเรียนปรัชญา รัฐศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์ (PPE) ก็เป็นการปูพื้นฐานที่ดีที่สุดอีกเช่นกัน
ในเยาว์วัยเมื่อใดที่อภิสิทธิ์กลับมาเยี่ยมบ้าน เขาก็จะติดตามคุณชวน หลีกภัย ไปท้องที่ต่างๆ เสมอ และเมื่อได้เป็น ส.ส. เป็นรัฐมนตรี จนเป็นหัวหน้าพรรค อภิสิทธิ์ก็เป็น ส.ส.ที่เอาการเอางาน มีภาวะผู้นำที่ดี มีความสุขุมรอบคอบ และมีหลักการ นอกเหนือจากการเป็นคนซื่อสัตย์สุจริตอย่างยิ่งแล้ว
หลายคนเห็นว่า อภิสิทธิ์ “จืด” เกินไป ที่จริงความสุขุมรอบคอบนิ่มนวล เป็นคุณสมบัติที่ดีของผู้นำ และไม่เป็นผลเสียอะไร ผู้นำในสมัยนี้ต้องรู้เศรษฐกิจ และการต่างประเทศ การไปร่วมประชุมต่างประเทศเป็นภารกิจสำคัญ (บางคนกลัวการขึ้นเครื่องบิน และพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ฟังเขาก็ไม่รู้เรื่อง)
ผมเชียร์อภิสิทธิ์มานานแล้ว ผมเห็นว่าเขาเป็นตัวอย่างที่ดีของคนรุ่นหนุ่ม มีการศึกษาดี มีการอบรมจากครอบครัวที่ดี และมีครอบครัวที่อบอุ่น เขามีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำได้ดีที่สุดในยามนี้