ASTVผู้จัดการรายวัน- "อานันท์"ชี้ทักษิณโฟนอินทำลายตัวเอง เตือนหยุดได้แล้ว ยันไม่รับตำแหน่งนายกฯ เพราะขัดรัฐธรรมนูญ แนะรัฐบาลใหม่เร่งแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมทางสังคม
นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี และในฐานะนายกกรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมีการโทรศัพท์หรือโฟนอินเข้ามาในประเทศว่า จะไม่ส่งผลกระทบอะไร แต่มองว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ทำร้ายตัวเอง เพราะเมื่อครั้งแรกที่โฟนอินเข้ามา ผลเสียก็เกิดกับตัวเขาเอง
"หลายคนจะคิดว่าเขาทำเพื่ออะไรกันแน่ อย่าลืมว่าถ้าคนเกลียดเขาก็จะเกลียดไปตลอด แต่ในทางกลับกันในด้านของคนที่รัก ก็ไม่มีใครสามารถที่จะรักเขาได้ตลอดไป ขณะเดียวกันทุกครั้งที่มีการโฟนอิน ก็จะเป็นการทำให้ปัญหาความวุ่นวายมันเกิดขึ้น ดังนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ควรที่จะหยุด และยอมปลดล็อคตัวเองจากการเมืองไทยเสียที แล้วกลไกอะไรทุกอย่างก็จะเริ่มเคลื่อนไหวได้เอง"
ส่วนกรณีที่จะมีใครทาบทามให้ตนกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งหนึ่งนั้น เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรีต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการเลือกตั้งเท่านั้น และโดยส่วนตัวแล้วไม่มีความสนใจที่จะกลับเข้ามาเล่นการเมืองอีก แต่มีความสนใจต่ออนาคตของประเทศชาติมากกว่า
"ยอมรับว่าปัญหาบ้านเมืองไทยปัจจุบันนี้หนักหน่วงมาก เพราะสังคมไทยเกิดความสิ้นหวังขึ้น สังคมทุกสังคมมีวิกฤตเหมือนกันหมด ถ้าคนไทยไม่สิ้นหวัง มันต้องมีวิธีที่จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน ซึ่งจะเห็นได้จากในอดีตที่ผ่านมาไม่ว่าจะรบสักกี่ร้อยครั้งไทยก็ยังยืนหยัดมาได้อยู่จนถึงทุกวันนี้เกือบ 800 ปีแล้ว" นายอานันท์กล่าว และว่าแนวทางการแก้ปัญหาอันดับแรก น่าจะเริ่มจากการสร้างโอกาสให้เกิดขึ้นในสังคมไทย เพราะปัญหาที่แท้จริงของสังคมไทยขณะนี้เป็นเรื่องของโอกาสทางสังคมที่ไม่เท่ากันมากกว่า ถ้าหากไม่สามารถลดช่องว่างทางโอกาสให้แคบลงได้ นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของคนที่มีโอกาสทางการศึกษากับไม่มีโอกาสทางการศึกษา โอกาสในการรักษาโรค และไม่มีโอกาส โอกาสในการทำมาหากินและไม่มีโอกาสในการทำมาหากิน ไม่ใช่ปัญหาคนภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคกลางหรือภาคเหนือ
"เราต้องดูมากกว่ามานั่งดูที่ระบบการจัดการว่าเป็นอย่างไร เพราะถ้าไม่สามารถสร้างโอกาสที่เท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคมได้ มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่แล้วลุกลามหนัก ส่วนปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปัญหาปลายเหตุ" นายอานันท์กล่าว
นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี และในฐานะนายกกรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมีการโทรศัพท์หรือโฟนอินเข้ามาในประเทศว่า จะไม่ส่งผลกระทบอะไร แต่มองว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ทำร้ายตัวเอง เพราะเมื่อครั้งแรกที่โฟนอินเข้ามา ผลเสียก็เกิดกับตัวเขาเอง
"หลายคนจะคิดว่าเขาทำเพื่ออะไรกันแน่ อย่าลืมว่าถ้าคนเกลียดเขาก็จะเกลียดไปตลอด แต่ในทางกลับกันในด้านของคนที่รัก ก็ไม่มีใครสามารถที่จะรักเขาได้ตลอดไป ขณะเดียวกันทุกครั้งที่มีการโฟนอิน ก็จะเป็นการทำให้ปัญหาความวุ่นวายมันเกิดขึ้น ดังนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ควรที่จะหยุด และยอมปลดล็อคตัวเองจากการเมืองไทยเสียที แล้วกลไกอะไรทุกอย่างก็จะเริ่มเคลื่อนไหวได้เอง"
ส่วนกรณีที่จะมีใครทาบทามให้ตนกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งหนึ่งนั้น เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรีต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการเลือกตั้งเท่านั้น และโดยส่วนตัวแล้วไม่มีความสนใจที่จะกลับเข้ามาเล่นการเมืองอีก แต่มีความสนใจต่ออนาคตของประเทศชาติมากกว่า
"ยอมรับว่าปัญหาบ้านเมืองไทยปัจจุบันนี้หนักหน่วงมาก เพราะสังคมไทยเกิดความสิ้นหวังขึ้น สังคมทุกสังคมมีวิกฤตเหมือนกันหมด ถ้าคนไทยไม่สิ้นหวัง มันต้องมีวิธีที่จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน ซึ่งจะเห็นได้จากในอดีตที่ผ่านมาไม่ว่าจะรบสักกี่ร้อยครั้งไทยก็ยังยืนหยัดมาได้อยู่จนถึงทุกวันนี้เกือบ 800 ปีแล้ว" นายอานันท์กล่าว และว่าแนวทางการแก้ปัญหาอันดับแรก น่าจะเริ่มจากการสร้างโอกาสให้เกิดขึ้นในสังคมไทย เพราะปัญหาที่แท้จริงของสังคมไทยขณะนี้เป็นเรื่องของโอกาสทางสังคมที่ไม่เท่ากันมากกว่า ถ้าหากไม่สามารถลดช่องว่างทางโอกาสให้แคบลงได้ นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของคนที่มีโอกาสทางการศึกษากับไม่มีโอกาสทางการศึกษา โอกาสในการรักษาโรค และไม่มีโอกาส โอกาสในการทำมาหากินและไม่มีโอกาสในการทำมาหากิน ไม่ใช่ปัญหาคนภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคกลางหรือภาคเหนือ
"เราต้องดูมากกว่ามานั่งดูที่ระบบการจัดการว่าเป็นอย่างไร เพราะถ้าไม่สามารถสร้างโอกาสที่เท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคมได้ มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่แล้วลุกลามหนัก ส่วนปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปัญหาปลายเหตุ" นายอานันท์กล่าว