อดีตนายกรัฐมนตรี “อานันท์ ปัญยารชุน” ชี้ พันธมิตรฯ ชุมนุมอย่างสันติมากว่า 2 เดือนก็ยังไม่เกิดความรุนแรงขึ้น เชื่อหากเกิดการปะทะกัน คงเพราะมีใครไปหาเรื่องพันธมิตรฯ ก่อน – สุดสลด รบ.ปล่อยให้เกิดเหตุรุนแรง อัด เจ้าหน้าที่รัฐ มีหน้าที่ต้องปกป้องผู้ชุมนุม ถ้าทำไม่ได้ ก็ถือเป็นการทำผิดกฎหมาย
วันนี้ (26 ก.ค.) นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติขณะนี้ว่า คงต้องแก้ที่ต้นเหตุ ต้องมองว่าปัญหาอยู่ที่ไหน การปะทะของประชาชนที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ไม่ว่าใครจะเห็นด้วยหรือไม่แต่การที่พันธมิตรยืนหยัดชุมนุม มา 2 เดือนกว่า นั้นถือเป็นการแสดงสิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งบางครั้งอาจเลยเถิดไปบ้าง แต่หลักการใหญ่เป็นการชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ ใช้หลักอหิงสา ไม่มีการทำลายล้างกัน ตราบใดที่ยังให้พันธมิตรชุมนุมแบบนี้การปะทะก็ไม่เกิดขึ้น นอกจากจะมีใครไปหาเรื่องเขา เรื่องนี้คิดว่าต้องติดตามว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ แต่ก็โชคดีแม้สถานการณ์ในกทม.จะไม่ค่อยดีนัก แต่ชุมนุมกันมาก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรร้ายแรงเกิดขึ้น ถือเป็นความดีของทั้งสองฝ่ายแต่ในต่างจังหวัด ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่หลายคนรับไม่ได้ เพราะการชุมนุมเป็นสิทธิของผู้ชุมนุม ถ้าคุณเอาอาวุธ ไม้ มีด ไปไล่ตี และถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถหรือไม่ต้องการปกป้อง หรือส่งเสริมก็ถือว่าผิดกฎหมาย
“ผมคิดว่าปัญหาที่กำลังถกเถียงกันวันนี้ไม่สามารถบรรลุหาคำตอบได้ เพราะมันเลยจุดนั้นไปแล้ว ขณะนี้ข้อเท็จจริงและเหตุผลหมดไป เมื่อมีอารมณ์มาแทรกการพูดกันให้รู้เรื่องคงลำบาก แต่เรื่องการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธที่ฝ่ายหนึ่งอยากทำก็ต้องปล่อยให้เขาทำไป ส่วนอีกฝ่ายต้องระมัดระวังและมีวินัยไม่ให้ไปก่อเหตุร้าย” อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวและว่าในขณะที่แต่ละฝ่ายไม่ฟังเหตุผลกันบ้านเมืองจะไปรอดหรือไม่ จะเป็นกรรมของเมืองไทยหรืออย่างไรตนไม่ก็ทราบ