ชี้การอยู่กับแม่สามีทำให้ผู้หญิงเลือดเดือดปุดๆ ได้จริง และมีแนวโน้มเป็นโรคหัวใจขั้นร้ายแรงเพิ่มขึ้นสามเท่า แต่ในทางกลับกัน สะใภ้อาจแก้แค้นแม่ผัวโดยไม่รู้ตัวเพราะเป็นปัจจัยทางอ้อมที่ทำให้ฝ่ายที่สูงวัยกว่าเข้าสู่วัยทองเร็วขึ้น
ความเครียดของการเป็นลูกสาว แม่ และภรรยา สามารถทำร้ายหัวใจผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าสะใภ้ด้วยการทำให้ความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน
ในงานวิจัยล่าสุด นักวิจัยได้ทำการศึกษาหญิง-ชายวัยกลางคนสุขภาพดีเกือบ 91,000 คน และติดตามผลนาน 14 ปี ซึ่งพบว่าช่วงระหว่างปี 1990-2004 กลุ่มตัวอย่าง 671 คนในญี่ปุ่นเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ขณะที่ 339 คนเสียชีวิตจากโรคหัวใจ และอีก 6,255 คนเสียชีวิตจากสาเหตุอื่นๆ
นักวิจัยยังพบว่า ผู้หญิงที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกับพ่อแม่ของตัวเองหรือพ่อแม่ของสามี รวมถึงลูกๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสามเท่าที่จะเป็นโรคหัวใจ ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่แยกบ้านออกมาอยู่กับสามี
การมีลูกอยู่ในบ้านด้วยเพิ่มความเสี่ยงสองเท่าเมื่อเทียบกับบ้านที่ไม่มีเด็ก
ผู้หญิงมักคิดว่าแม่สามีเป็นปัจจัยทำลายล้าง อย่างไรก็ดี นักวิจัยดักคอว่าไม่ควรนำงานศึกษาชิ้นนี้มาเป็นข้ออ้างในการไล่แม่สามีออกจากบ้าน เนื่องจากแม้ผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในครอบครัวขยายมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจสูงขึ้น แต่มีแนวโน้มเสียชีวิตน้อยกว่าผู้หญิงที่แยกบ้านไปอยู่กับสามีตามลำพัง
นักวิจัยเชื่อว่า ปัจจัยบวกนี้มาจากการที่มีญาติสนิท โดยเฉพาะพ่อแม่ อยู่ร่วมชายคา ทำให้ผู้หญิงไม่กล้าดื่มหนัก สูบบุหรี่ และทำพฤติกรรมอื่นๆ ที่ทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจ ทั้งนี้ จากผลการศึกษาของศาสตราจารย์ฮิโรยาซุ ไอโสะ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของญี่ปุ่นจากมหาวิทยาลัยโอซากา
กระนั้น ความเครียดจากบทบาทหลากหลายในครอบครัวอาจเป็นสาเหตุทำให้ผู้หญิงมีความเสี่ยงมากขึ้น
ผลศึกษาหลายชิ้นก่อนหน้านี้พบว่า คนแต่งงานมักมีสุขภาพดีกว่าคนโสด และมีงานศึกษาชิ้นหนึ่งระบุว่า ครอบครัวที่มีแม่หาเลี้ยงเพียงลำพังจะมีสุขภาพอ่อนแอกว่าครอบครัวที่มีพ่อแม่พร้อมหน้าพร้อมตา ซึ่งเรื่องนี้อาจเกี่ยวโยงกับความยากจน แต่ทว่ากลับมีผลงานวิจัยน้อยมากที่มุ่งประเด็นโครงสร้างครอบครัว
ไอโซะขยายความว่า การอยู่ในครอบครัวที่ประกอบด้วยคนหลายรุ่นมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโรคหัวใจที่เพิ่มขึ้นในผู้หญิง ซึ่งอาจมาจากความเครียดจากบทบาทที่ต้องรับ
อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน แม้เชื่อกันว่าแม่ผัวเป็นตัวบ่อนทำลายความสงบสุขของลูกสะใภ้ แต่ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และเอ็กเซ็ตเตอร์ของอังกฤษ ชี้ว่าคนที่จะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้ายกลับกลายเป็นสะใภ้
เนื่องจากการมีสะใภ้อยู่ในบ้านอาจทำให้แม่สามีเข้าสู่วัยทองเร็วขึ้น โดยนักวิจัยเชื่อว่าภาวะหมดประจำเดือนเป็นแนวทางตามธรรมชาติในการขจัดความเครียดที่เกิดขึ้น เมื่อมีผู้หญิงที่สาวกว่าสวยกว่าและมีความสามารถในการเจริญพันธุ์เข้ามาอยู่ร่วมบ้าน
เมื่อผู้หญิงทั้งสองวัยต่างมีลูก จะมีการแย่งชิงอาหาร เงิน และความรัก ที่ล้วนมีจำนวนจำกัด
“เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกระหว่างการมีลูกเองกับการช่วยคนอื่นเลี้ยงลูก ฝ่ายผู้หญิงที่อ่อนวัยกว่าไม่มีอะไรจะได้หรือเสีย แต่ผู้หญิงที่แก่กว่าสามารถช่วยเลี้ยงหลานได้ เพราะเท่ากับเป็นการปกป้องให้พันธุกรรมของตัวเองคงอยู่ต่อไป”
ดร.ไมเคิล แคนต์ ผู้ทำการวิจัย ขยายความต่อในรายงานที่อยู่ในนิตยสารนิวไซเอนทิสต์ว่า อาจกล่าวได้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวตอกย้ำทฤษฎีที่ช่วยอธิบายว่า เหตุใดผู้หญิงจึงถึงวัยหมดประจำเดือนเร็วกว่าสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ
อย่างไรก็ดี นักวิจัยบางคนแย้งว่า การหมดประจำเดือนเกิดจากการที่ผู้หญิงต้องดูแลหลาน โดยผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การที่มีย่ายายคอยเลี้ยงดูเอาใจใส่ทำให้ทารกมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น ขณะที่ตัวย่ายายได้ประโยชน์จากการณ์นี้ในแง่ของการปกป้องความอยู่รอดของพันธุกรรมของตนโดยไม่ต้องมีลูกเอง
ความเครียดของการเป็นลูกสาว แม่ และภรรยา สามารถทำร้ายหัวใจผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าสะใภ้ด้วยการทำให้ความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน
ในงานวิจัยล่าสุด นักวิจัยได้ทำการศึกษาหญิง-ชายวัยกลางคนสุขภาพดีเกือบ 91,000 คน และติดตามผลนาน 14 ปี ซึ่งพบว่าช่วงระหว่างปี 1990-2004 กลุ่มตัวอย่าง 671 คนในญี่ปุ่นเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ขณะที่ 339 คนเสียชีวิตจากโรคหัวใจ และอีก 6,255 คนเสียชีวิตจากสาเหตุอื่นๆ
นักวิจัยยังพบว่า ผู้หญิงที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกับพ่อแม่ของตัวเองหรือพ่อแม่ของสามี รวมถึงลูกๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสามเท่าที่จะเป็นโรคหัวใจ ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่แยกบ้านออกมาอยู่กับสามี
การมีลูกอยู่ในบ้านด้วยเพิ่มความเสี่ยงสองเท่าเมื่อเทียบกับบ้านที่ไม่มีเด็ก
ผู้หญิงมักคิดว่าแม่สามีเป็นปัจจัยทำลายล้าง อย่างไรก็ดี นักวิจัยดักคอว่าไม่ควรนำงานศึกษาชิ้นนี้มาเป็นข้ออ้างในการไล่แม่สามีออกจากบ้าน เนื่องจากแม้ผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในครอบครัวขยายมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจสูงขึ้น แต่มีแนวโน้มเสียชีวิตน้อยกว่าผู้หญิงที่แยกบ้านไปอยู่กับสามีตามลำพัง
นักวิจัยเชื่อว่า ปัจจัยบวกนี้มาจากการที่มีญาติสนิท โดยเฉพาะพ่อแม่ อยู่ร่วมชายคา ทำให้ผู้หญิงไม่กล้าดื่มหนัก สูบบุหรี่ และทำพฤติกรรมอื่นๆ ที่ทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจ ทั้งนี้ จากผลการศึกษาของศาสตราจารย์ฮิโรยาซุ ไอโสะ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของญี่ปุ่นจากมหาวิทยาลัยโอซากา
กระนั้น ความเครียดจากบทบาทหลากหลายในครอบครัวอาจเป็นสาเหตุทำให้ผู้หญิงมีความเสี่ยงมากขึ้น
ผลศึกษาหลายชิ้นก่อนหน้านี้พบว่า คนแต่งงานมักมีสุขภาพดีกว่าคนโสด และมีงานศึกษาชิ้นหนึ่งระบุว่า ครอบครัวที่มีแม่หาเลี้ยงเพียงลำพังจะมีสุขภาพอ่อนแอกว่าครอบครัวที่มีพ่อแม่พร้อมหน้าพร้อมตา ซึ่งเรื่องนี้อาจเกี่ยวโยงกับความยากจน แต่ทว่ากลับมีผลงานวิจัยน้อยมากที่มุ่งประเด็นโครงสร้างครอบครัว
ไอโซะขยายความว่า การอยู่ในครอบครัวที่ประกอบด้วยคนหลายรุ่นมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโรคหัวใจที่เพิ่มขึ้นในผู้หญิง ซึ่งอาจมาจากความเครียดจากบทบาทที่ต้องรับ
อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน แม้เชื่อกันว่าแม่ผัวเป็นตัวบ่อนทำลายความสงบสุขของลูกสะใภ้ แต่ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และเอ็กเซ็ตเตอร์ของอังกฤษ ชี้ว่าคนที่จะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้ายกลับกลายเป็นสะใภ้
เนื่องจากการมีสะใภ้อยู่ในบ้านอาจทำให้แม่สามีเข้าสู่วัยทองเร็วขึ้น โดยนักวิจัยเชื่อว่าภาวะหมดประจำเดือนเป็นแนวทางตามธรรมชาติในการขจัดความเครียดที่เกิดขึ้น เมื่อมีผู้หญิงที่สาวกว่าสวยกว่าและมีความสามารถในการเจริญพันธุ์เข้ามาอยู่ร่วมบ้าน
เมื่อผู้หญิงทั้งสองวัยต่างมีลูก จะมีการแย่งชิงอาหาร เงิน และความรัก ที่ล้วนมีจำนวนจำกัด
“เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกระหว่างการมีลูกเองกับการช่วยคนอื่นเลี้ยงลูก ฝ่ายผู้หญิงที่อ่อนวัยกว่าไม่มีอะไรจะได้หรือเสีย แต่ผู้หญิงที่แก่กว่าสามารถช่วยเลี้ยงหลานได้ เพราะเท่ากับเป็นการปกป้องให้พันธุกรรมของตัวเองคงอยู่ต่อไป”
ดร.ไมเคิล แคนต์ ผู้ทำการวิจัย ขยายความต่อในรายงานที่อยู่ในนิตยสารนิวไซเอนทิสต์ว่า อาจกล่าวได้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวตอกย้ำทฤษฎีที่ช่วยอธิบายว่า เหตุใดผู้หญิงจึงถึงวัยหมดประจำเดือนเร็วกว่าสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ
อย่างไรก็ดี นักวิจัยบางคนแย้งว่า การหมดประจำเดือนเกิดจากการที่ผู้หญิงต้องดูแลหลาน โดยผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การที่มีย่ายายคอยเลี้ยงดูเอาใจใส่ทำให้ทารกมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น ขณะที่ตัวย่ายายได้ประโยชน์จากการณ์นี้ในแง่ของการปกป้องความอยู่รอดของพันธุกรรมของตนโดยไม่ต้องมีลูกเอง
