นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวว่า ความขัดแย้งและแตกแยกในสังคมส่วนใหญ่เกิดจากการเมือง ที่ผ่านมามีความแตกแยกและอารมณ์รุนแรงมาก มีการแบ่งพวกทั้งรักและเกลียด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเชื่อว่า บทเรียน ความเจ็บปวดที่ผ่านมาจะเป็นตัวเชื่อมของสังคมทั้งหมดให้เกิดความ ปรองดอง เพราะประชาชนส่วนใหญ่อยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข ไม่อยากให้มีความขัดแย้งและแตกแยก
ราษฎรอาวุโส ยังแนะรัฐบาลใหม่ หากเข้ามาบริหารประเทศจะต้องดึงการมี ส่วนร่วมของประชาชน อย่าปล่อยให้การแก้ไขปัญหาของประเทศเป็นหน้าที่ของรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว และผู้บริหารประเทศควรนำบทเรียนในอดีตมาเป็นแบบอย่าง
นพ.ประเวศ กล่าวว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 87 ใน 3 ด้าน คือ 1.การมีส่วนร่วมในการการพัฒนาประเทศ 2.การมีส่วนร่วม ในการตัดสินใจนโยบายสำคัญ และ 3.การตรวจสอบอำนาจรัฐ หากสามารถทำได้ทั้งหมด จึงจะถือเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ส่วนการทำงานของรัฐบาลใหม่นั้นในช่วงแรกขอให้คิดถึงแต่เรื่องยุทธศาสตร์ อย่าไปคิดว่าพรรคที่จะเข้าร่วมดีหรือไม่ ให้คิดถึงแต่ความปรองดอง เพื่อไม่ให้เกิด ความแตกแยก และที่สำคัญนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องไม่เป็นนอมินีของใคร คนใด คนหนึ่ง พร้อมปฏิเสธระบุว่าใครเหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ที่ผ่านมามี นายกรัฐมนตรี 2 ท่าน คือ นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ บ้านเมืองไม่มีความสงบสุขเลย ตลอดช่วงอายุของรัฐบาล มีแต่ความแตกแยก มันแยกได้ยากระหว่างการทำเพื่อประเทศทั้งหมด หรือทำเพื่อใครบางคน ฉะนั้นตรงนี้ต้องเป็นบทเรียน นายกรัฐมนตรีต่อไป คนใหม่จะมาจากพรรคใดก็ตามจะต้องไม่เป็นนอมินีของใคร” นพ.ประเวศ กล่าว
นพ.ประเวศ กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลกับเสถียรภาพของรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจาก ทุกอย่างต้องปล่อยไปตามกรรม ตามเหตุและปัจจัย และเชื่อว่าไม่น่าจะมีเหตุรุนแรงใด เกิดขึ้น เพราะทุกคนในสังคมไม่อยากให้กลับไปสู่ความขัดแย้งอีก
ประเทศเหมือนรถไฟที่จอดที่สถานีทักษิณนานมาแล้ว และสมควรที่จะวางเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไปสร้างประเทศชาติได้แล้ว ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ควรยุติปัญหาต่าง ๆ ปล่อยวาง เจริญสติ เพื่อจะได้พบกับความสุข และเกิดการเปลี่ยนแปลง ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะเป็นบุคคลที่มีค่า
ราษฎรอาวุโส กล่าวอีกว่าไม่วิตกกังวลในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีการโฟนอินเข้าในรายการ ความจริงวันนี้สัญจร ที่สนามศุภชลาศัย เชื่อว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงมากนัก เนื่องจากสังคมเบื่อหน่ายความขัดแย้ง และคนที่ไม่ปรองดองจะไม่ได้รับการสนับสนุน
นพ.ประเวศ กล่าวด้วยว่า นักการเมืองควรเป็นตัวของตัวเอง มีมโนสำนึก ไม่ควรคำนึงถึงแต่กลุ่ม ก๊วน แต่ควรคิดถึงแต่ประเทศชาติและประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และอวยพรขอให้นักการเมืองเป็นอิสระ ทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง ขณะนี้บ้านเมืองวิกฤติต้องการการเสียสละ และเมื่อทำได้ประเทศชาติก็จะไม่มีการแบ่งแยกสี ทั้งสีแดง สีเหลือง แต่จะมีแต่สีของคนไทยด้วยกันทุกคน
สำหรับคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยนั้น นพ.ประเวศ กล่าวว่าเห็นมาตั้งแต่เด็ก เป็นคนซื่อสัตย์ มีความรู้ และสามารถ เรียนรู้ได้อาจไม่ต้องทั้งหมด แต่ในการบริหารประเทศต่อให้มีความสุจริต มีความรู้ดีอย่างไร ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องมีการเปิดพื้นที่ทางสังคมและปัญญาอย่างกว้างขวางจึงจะสามารถนำพาประเทศไปได
ราษฎรอาวุโส ยังแนะรัฐบาลใหม่ หากเข้ามาบริหารประเทศจะต้องดึงการมี ส่วนร่วมของประชาชน อย่าปล่อยให้การแก้ไขปัญหาของประเทศเป็นหน้าที่ของรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว และผู้บริหารประเทศควรนำบทเรียนในอดีตมาเป็นแบบอย่าง
นพ.ประเวศ กล่าวว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 87 ใน 3 ด้าน คือ 1.การมีส่วนร่วมในการการพัฒนาประเทศ 2.การมีส่วนร่วม ในการตัดสินใจนโยบายสำคัญ และ 3.การตรวจสอบอำนาจรัฐ หากสามารถทำได้ทั้งหมด จึงจะถือเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ส่วนการทำงานของรัฐบาลใหม่นั้นในช่วงแรกขอให้คิดถึงแต่เรื่องยุทธศาสตร์ อย่าไปคิดว่าพรรคที่จะเข้าร่วมดีหรือไม่ ให้คิดถึงแต่ความปรองดอง เพื่อไม่ให้เกิด ความแตกแยก และที่สำคัญนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องไม่เป็นนอมินีของใคร คนใด คนหนึ่ง พร้อมปฏิเสธระบุว่าใครเหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ที่ผ่านมามี นายกรัฐมนตรี 2 ท่าน คือ นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ บ้านเมืองไม่มีความสงบสุขเลย ตลอดช่วงอายุของรัฐบาล มีแต่ความแตกแยก มันแยกได้ยากระหว่างการทำเพื่อประเทศทั้งหมด หรือทำเพื่อใครบางคน ฉะนั้นตรงนี้ต้องเป็นบทเรียน นายกรัฐมนตรีต่อไป คนใหม่จะมาจากพรรคใดก็ตามจะต้องไม่เป็นนอมินีของใคร” นพ.ประเวศ กล่าว
นพ.ประเวศ กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลกับเสถียรภาพของรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจาก ทุกอย่างต้องปล่อยไปตามกรรม ตามเหตุและปัจจัย และเชื่อว่าไม่น่าจะมีเหตุรุนแรงใด เกิดขึ้น เพราะทุกคนในสังคมไม่อยากให้กลับไปสู่ความขัดแย้งอีก
ประเทศเหมือนรถไฟที่จอดที่สถานีทักษิณนานมาแล้ว และสมควรที่จะวางเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไปสร้างประเทศชาติได้แล้ว ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ควรยุติปัญหาต่าง ๆ ปล่อยวาง เจริญสติ เพื่อจะได้พบกับความสุข และเกิดการเปลี่ยนแปลง ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะเป็นบุคคลที่มีค่า
ราษฎรอาวุโส กล่าวอีกว่าไม่วิตกกังวลในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีการโฟนอินเข้าในรายการ ความจริงวันนี้สัญจร ที่สนามศุภชลาศัย เชื่อว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงมากนัก เนื่องจากสังคมเบื่อหน่ายความขัดแย้ง และคนที่ไม่ปรองดองจะไม่ได้รับการสนับสนุน
นพ.ประเวศ กล่าวด้วยว่า นักการเมืองควรเป็นตัวของตัวเอง มีมโนสำนึก ไม่ควรคำนึงถึงแต่กลุ่ม ก๊วน แต่ควรคิดถึงแต่ประเทศชาติและประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และอวยพรขอให้นักการเมืองเป็นอิสระ ทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง ขณะนี้บ้านเมืองวิกฤติต้องการการเสียสละ และเมื่อทำได้ประเทศชาติก็จะไม่มีการแบ่งแยกสี ทั้งสีแดง สีเหลือง แต่จะมีแต่สีของคนไทยด้วยกันทุกคน
สำหรับคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยนั้น นพ.ประเวศ กล่าวว่าเห็นมาตั้งแต่เด็ก เป็นคนซื่อสัตย์ มีความรู้ และสามารถ เรียนรู้ได้อาจไม่ต้องทั้งหมด แต่ในการบริหารประเทศต่อให้มีความสุจริต มีความรู้ดีอย่างไร ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องมีการเปิดพื้นที่ทางสังคมและปัญญาอย่างกว้างขวางจึงจะสามารถนำพาประเทศไปได
