xs
xsm
sm
md
lg

สมัชชา ปชช.อีสาน19จว.หนุนตั้ง รบ.เฉพาะกาลฝ่าวิกฤตชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - พันธมิตรฯจับตาสถานการณ์การเมืองใกล้ชิด เชื่อการเมืองอาจพลิกผันได้ตลอดเวลา ฟันธงเปลี่ยนขั้วไม่ใช่คำตอบสุดท้ายแต่ยังพอมีความหวังกว่าระบอบทักษิณ เตือน ปชป.ระวังแผนลับลวงพราง "แม้ว" ส่งนอมินีแฝงตัว แนะพรรคเพื่อไทยยอมรับสภาพแรงต้านสูงกว่าที่คิด เตรียมเดินสายสัญจรผลักดันการเมืองใหม่ ด้านสมัชชา ปชช.ภาคอีสาน 19 จังหวัดหนุนตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลฝ่าวิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจของชาติ จัดสัมมนาใหญ่วันนี้ที่นิด้า พร้อมชวน ปชช.ร่วมลงนามก่อนยื่นถวายฎีกากราบบังคมขอพระราชทาน "รัฐบาลเฉพาะกาล"9 ธ.ค.นี้ พร้อมเตรียมยื่น กกต.ชี้ขาดคุณสมบัติ ส.ส.ระบบสัดส่วน 3 พรรคที่ถูกยุบด้วย

วานนี้ (7 ธ.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ตนคิดว่าสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่เบ็ดเสร็จสะเด็ดน้ำ อาจจะมีการพลิกผันได้ในนาทีสุดท้าย จนกว่าผลการโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเสร็จสิ้นลงเท่านั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน (ชินวัตร) ดามาพงศ์ คงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะถ้าปล่อยอำนาจรัฐหลุดมือไปยังขั้วตรงกันข้ามอาจตกที่นั่งลำบาก แต่หากยังเข็นรัฐบาลนอมินีภาค 3 มายัดเยียดให้สังคมอีกก็เป็นเรื่องยากอายุคงสั้นกว่ารัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคเพื่อไทยหรือพรรคพลังประชาชน เดิมควรล้มเลิกความตั้งใจจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว เพราะแรงต้านสูงมากขึ้นกว่าเดิม

ฉะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ อาจเปลี่ยนวิธีในการถืออำนาจ แทนที่จะตั้งรัฐบาลนอมินีเหมือนที่ผ่านๆ มาก็อาจใช้วิธีลับลวงพราง ส่งกลุ่มการเมืองหรือบรรดาลิ่วล้อไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ในการตั้งรัฐบาลดีกว่า เพราะจะได้ไม่ตกเป็นเป้าโจมตีจากสังคม ซึ่งถ้าสุดท้ายแล้วพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้จริง สังคมก็ต้องติดตามดูนโยบายและวิธีทำงานว่าตรงไปตรงมาแค่ไหน โดยเฉพาะการจัดการรื้อถอนกับระบอบทักษิณ และกลุ่มเพื่อนเนวิน (ชิดชอบ) รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็ต้องเร่งพิสูจน์ตัวเองกับสังคม

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า จุดอ่อนของรัฐบาลจากการเปลี่ยนขั้วนั้นอาจเปิดโอกาสให้กลุ่มการเมืองปีก พ.ต.ท.ทักษิณ แฝงตัวเข้ามาร่วมรัฐบาลประชาธิปัตย์ และถูกต่อต้านจากเกมมวลชนนอกสภาของขั้วตรงกันข้ามได้เช่นกัน ฉะนั้นถ้ามองสถานการณ์ แล้วใครเป็นรัฐบาลช่วงนี้ก็ไม่ง่าย ความแตกแยกขัดแย้งจะยังดำรงอยู่ ด้วยเหตุนี้สังคมจึงคาดหวังรัฐบาลพิเศษมากกว่าการเปลี่ยนขั้วการเมือง

สำหรับว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตย์นั้นถือว่าเป็นจุดเด่นในจุดด้อยของรัฐบาลใหม่ เพราะเป็นคนที่เข้าใจสถานการณ์ความขัดแย้งแตกแยกเรื้อรังของสังคมไทยในช่วง 3-4 ปีเป็นอย่างดี คงจะมีนโยบายและมาตรการที่ดีเพื่อคลี่คลายปัญหาบ้านเมือง แต่ถ้าไม่มีอำนาจเต็มหรือถูกตีรวนจากพรรคร่วมหรือกลุ่มการเมืองบางกลุ่มก็อาจทำอะไรไม่ได้เช่นกัน

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ส่วนบทบาท 5 แกนนำพันธมิตรฯ ยังไม่มีความคิดสลายตัวหรือยุติบทบาทในระยะนี้ ทุกคนยังเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พอมีความชัดเจนเรื่องรัฐบาลใหม่จะมีการหารือเพื่อกำหนดท่าทีต่อไป และพันธมิตรฯ ยังมีความมุ่งมั่นผลักดันแนวคิดเรื่องการเมืองใหม่ ซึ่งในช่วงชุมนุมได้มีการสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากหลายส่วนประมวลเป็นสมุดปกขาวเรียบร้อยแล้ว และเตรียมเดินสายสัญจรในต่างจังหวัด เพื่อผลักดันให้กับรัฐบาลใหม่และสังคมได้ต่อไป

**สมัชชาอีสานฯหนุนตั้ง รบ.เฉพาะกาล
เมื่อบ่ายวันเดียวกัน ที่โรงแรมศรีพัฒนา เขตเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัดกว่า 50 คน นำโดยนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย และ ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด ร่วมกันแถลงผลการประชุมของแกนนำสมัชชาฯ ในการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์วิกฤตของบ้านเมืองและทางรอดของประเทศไทยในขณะนี้

นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า จากการประชุมหารือและวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ที่ประชุมของสมัชชาประชาชนฯ มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะเรื่องสถานภาพ ส.ส.ระบบสัดส่วน ที่จะต้องถูกยุบไปพร้อมพรรคการเมือง 3 พรรค, เรื่อง ส.ส.เขตเลือกตั้ง ที่ไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และคุณสมบัติของรักษาการนายกรัฐมนตรี รวมทั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็น ส.ส.แบบสัดส่วน ที่ต้องหมดสภาพไปพร้อมกับพรรคการเมืองที่ตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคหรือไม่

ทั้งนี้ ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบร่วมกันว่า สมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด เห็นด้วยกับทางออกของบ้านเมืองในสภาวะวิกฤตทั้งความขัดแย้งทางการเมืองและเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติบ้านเมือง และทางออกที่เป็นทางรอดของประเทศชาติบ้านเมืองนั้น สมัชชาฯ ขอสนับสนุนแนวทางการจัดตั้ง "รัฐบาลเฉพาะกาล" เพื่อประโยชน์ของปวงชนชาวไทย

ทพ.ศุภผล กล่าวว่า เรื่องการหาทางออกให้ชาติถือเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ เนื่องจากขณะนี้พรรคการเมืองต่างๆ พยายามหาแนวร่วมเพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยทางสมัชชาฯมีความเห็นว่า ไม่ว่าพรรคการเมืองใดในสภาวะที่สภาผู้แทนราษฏรและรัฐสภา ยังไม่อยู่ในสภาพที่ชัดเจน ถูกต้อง โดยเฉพาะ ส.ส.ระบบสัดส่วน รวมถึงตัวประธานรัฐสภา ไม่อยู่ในสภาพที่จะทำหน้าที่ได้ ตามคำกล่าวของประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ฉะนั้น เพื่อหาทางออกให้ชาติบ้านเมือง สมัชชาประชาชนภาคอีสานฯ จึงขอสนับสนุนแนวทาง "รัฐบาลเฉพาะกาล"เพื่ออาศัยพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 3, 7 และ 10 ประกอบกับมาตราอื่นๆ เช่น มาตรา 180, 181, 182 หรือ 147 และ 101 เป็นต้น เพราะเชื่อว่ารัฐบาลเฉพาะกาลนี้เป็นทางรอดของประเทศไทยในการฟื้นฟู และวางรากฐานประชาธิปไตยของประเทศอย่างแท้จริงใหม่

ทพ.ศุภผล กล่าวอีกว่า สมัชชาประชาชนฯ ได้ร่วมกับเครือข่ายประชาชนผู้รักชาติทั้งหมด รวมทั้งนักวิชาการ ผู้ใช้แรงงาน, คณาจารย์, นักเรียน นักศึกษา, นักธุรกิจ, ข้าราชการ เหล่าทัพ, เกษตรกรและประชาชน ในการถวายฎีกาขอพระราชทานรัฐบาลเฉพาะกาล เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย ในครั้งนี้ เพื่อเข้ามาทำหน้าที่สำคัญ 3 ประการหลัก คือ 1.การรักษาความมั่นคงของชาติ 2.การแก้ปัญหาความแตกแยก และ 3.การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยหลักการยังคงเป็นไปตามครรลองของมาตรา 3 มาตรา 7 และมาตรา 10 ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ตัวแทนเครือข่ายทั้งหมดดังกล่าวจะร่วมกัน ขอพระราชทานกราบบังคมทูลถวายฎีกา รัฐบาลเฉพาะกาล ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ โดยในวันนี้ (8 ธ.ค.) เวลา 14.00-19.00 น.จะมีการจัดเสวนาทางวิชาการครั้งใหญ่ เรื่อง "รัฐบาลเฉพาะกาลทางรอดประเทศไทย" พร้อมขอเชิญประชาชนร่วมลงนามถวายฎีกาดังกล่าว ที่ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กรุงเทพฯ ซึ่งมีวิทยากรคนสำคัญร่วมเสวนา เช่น ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช, ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ, ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์, ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เป็นต้น

สำหรับบุคคลสำคัญที่ร่วมลงนามเพื่อถวายฎีกา ขอพระราชทานรัฐบาลเฉพาะกาล เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย ครั้งนี้ ในรายชื่อ 9 อันดับแรก คือ 1.ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช นายกราชบัณฑิตยสภา 2.ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อดีตประธานรัฐสภาและอธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต 3.นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 4. พล.อ.อ.เทิดศักดิ์ สัจจารักษ์ อดีตเสนาธิการทหารอากาศ 5. พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม

6.พล.อ.กิตติ รัตนฉายา อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 7.รศ.ทวีศักดิ์ สุนทกวาทิน รองอธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) 8.ดร.วิชัย รูปคำดี ประธานเครือข่ายนิด้าโพลล์ และอดีตคณบดีคณะพัฒนาสังคม นิด้า และ 9.ศ.นพ.ประมวล วีรุจนเสน อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเครือข่ายปัญญาสยาม รวมทั้งจะมีนักวิชาการ ข้าราชการระดับสูง ประชาชนนักธุรกิจร่วมลงนามอีกจำนวนมาก

นอกจากนี้ ในวันที่ 9 ธ.ค.กลุ่มสมัชชาประชาชนภาคอีสานฯ ยังจะเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ กกต.ให้พิจารณาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ ส.ส.ระบบสัดส่วนของ 3 พรรคการเมืองที่ตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคว่า หมดสภาพไปพร้อมกับพรรคที่ถูกยุบหรือไม่และพรรคเพื่อไทยที่ไม่เคยผ่านการเลือกตั้งมาก่อนนั้น สามารถรองรับ ส.ส.ที่ถูกยุบพรรคไปเข้าสังกัดพรรคได้หรือไม่, การทำหน้าที่ของประธานรัฐสภาและรักษาการนายกรัฐบาล ซึ่งเป็น ส.ส.ระบบสัดส่วนของพรรคการเมืองที่ถูกยุบนั้น เป็นไปตามกฎหมายได้หรือไม่ เป็นต้น

**พันธมิตรฯกาฬสินธุ์จี้หยุดแย่งกระดูก
ที่สำนักงานสภาทนายความจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งใช้เป็นสถานที่พบปะประสานงานกับกลุ่มพันธมิตรฯกาฬสินธุ์ บรรดาเครือข่ายพันธมิตรฯ จากหลายองค์กรไม่ว่าจะเป็นกลุ่มข้าราชการ พ่อค้า เกษตรกร ที่ร่วมเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ประชุมสรุปสถานการณ์ โดยมีนายประยูร ภูมิชูชิต ประธานสภาทนายความจังหวัดกาฬสินธุ์ ในฐานะประธานกลุ่มพันธมิตรฯกาฬสินธุ์ ทำหน้าที่ในการสรุปสถานการณ์ทางการเมืองที่ พันธมิตรฯ ยังคงเฝ้าจับตาดูโดยเฉพาะการจับขั้วเพื่อทำการจัดตั้งรัฐบาล

นายประยูร ภูมิชูชิต ประธานกลุ่มพันธมิตรฯกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวหลังจากที่พันธมิตรฯ บรรลุเป้าหมายในการชุมนุมซึ่งสามารถคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและขับไล่รัฐบาลของนายสมชาย ไปแล้ว พันธมิตรฯ กาฬสินธุ์ ก็ยังคงจะเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวในการจับขั้วเพื่อจัดตั้งรัฐบาล เพราะความต้องการของพี่น้องพันธมิตรฯต้องการให้เกิดการเมืองใหม่ ที่จะต้องไม่มีปัญหาการทุจริต คอร์รัปชัน โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่สุด นักการเมืองในรัฐบาลชุดใหม่จะต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง เพราะที่ผ่านมาปัญหาที่มีการแบ่งฝ่ายได้สร้างความบอบช้ำให้กับสังคมไทยเป็นอย่างมาก

ประธานกลุ่มพันธมิตรฯกาฬสินธุ์ กล่าวต่อว่า ในการเคลื่อนไหวในส่วนภูมิภาค พันธมิตรฯกาฬสินธุ์ จะดำเนินการพัฒนาการเมืองในชนบท โดยเฉพาะแนวคิดที่จะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากอีกหนึ่งปัญหาที่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทำการเคลื่อนไหวก็เพื่อป้องกันปัญหาการล้มสถาบันกษัตริย์ แต่ในขณะที่คนในชนบทไม่ได้รับรู้ปัญหานี้ แต่กลับถูกปิดหูปิดตาโดยนักการเมืองบางกลุ่มที่ใช้เครื่องมือที่เป็นสื่อของรัฐเข้าปิดตา

การเคลื่อนไหวเพื่อสร้างการเมืองใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้วและในทุกวันเสาร์ จะมีการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นและระดมสมองเพื่อทำการขับเคลื่อน จึงขอเชิญพี่น้องประชาชนใน จ.กาฬสินธุ์ ร่วมแสดงความคิดเห็นกันอย่างพร้อมเพรียง

**พธม.สงขลาฯเป็นเจ้าภาพสวด"รณชัย"
ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่า เมื่อค่ำวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่วัดคูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา พันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพนายรณชัย ไชยศรี วีรชนคนกล้า ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายลอบยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง ระหว่างการขับไล่รัฐบาลทรราช เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยพี่น้องพันธมิตรฯมาร่วมสดุดีไว้อาลัยแด่วีรชนกู้ชาติอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย และร่วมฟังสวดพระอภิธรรมศพ

สำหรับศพ นายรณชัย ไชยศรี จะมีกำหนดการฌาปนกิจในวันอังคารที่ 9 ธ.ค.นี้ ณ เมรุวัดคูหา โดยจะมีแกนนำพันธมิตรฯทั้งนายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เดินทางเข้าร่วมเป็นเกียรติและร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายด้วย

**พธม.สตูลร่วมฉลองชัยไล่"ทรราช"
ในวันเดียวกันกลุ่มพันธมิตรฯสตูล ได้จัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะหลังเป็นหนึ่งในพลังขับไล่เผด็จการจนสำเร็จ โดยบรรยากาศงานเลี้ยงที่ลานหินงามน้ำใส ต.พิมาน อ.เมืองสตูล ซึ่งเป็นจุดนัดรวมพลของกลุ่มพันธมิตรฯสตูล โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น ชื่นมื่นของเหล่าผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกันที่จะป้องกันประเทศชาติ โดยเหล่าพันธมิตรในอำเภอต่างๆ ที่ทราบการจัดงานเลี้ยงในครั้งนี้ต่างหอบหิ้วปิ่นโต ข้าว แกง ขนมคนละเล็กน้อย มาร่วมฉลองชัยชนะให้ทุกคนได้กินอิ่มหนำสำราญ

ขณะที่พันธมิตรฯจากหาดใหญ่ จ.สงขลา นำโดยนายสุมิตร นวลมณี พร้อมศิลปินเพื่อชีวิตปักษ์ใต้ก็มาร่วมเล่นดนตรีพบปะพร้อมขอให้พันธมิตรฯ ทุกคนช่วยกันปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนไม่ให้พรรคการเมืองหน้าไหนที่ฉวยโอกาสเข้ามาชักจูงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของประเทศชาติไปได้ และพร้อมฟังสัญญาณหากพบสิ่งผิดปกติจะมีการนัดรวมพลในทันที

นอกจากนี้ ทีมข่าว ASTV NEWS1 ได้ร่วมฉลองชัยชนะกับพันธมิตรฯสตูลด้วยพร้อมประกาศว่าจะยืนเคียงข้างจะเป็นสื่อกลางเสนอข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ และตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเพื่อร่วมปกป้องประเทศชาติ

**มือมืดกราดเอ็ม16ถล่มสำนักปฏิบัติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วานนี้ (7 ธ.ค.) ได้มีมือมืดใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงเข้าไปในสำนักปฏิบัติธรรม "ดอยลายปลายฟ้า" ซึ่งตั้งอยู่ชุมชุนบุญนิยม หมู่ 8 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ โดยกระสุนปืนโดนแท็งก์น้ำและต้นไม้ในบริเวณสำนักปฏิบัติธรรม ในที่เกิดเหตุ พบปลอกประสุนปืนเอ็น 16 นับร้อยนัด โดยสาเหตุนั้น เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบโดยละเอียดวันนี้ (8 ธ.ค.)

สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมาก็โดนลอบวางเพลิง โดยมีกุฏิได้รับความเสียหาย 2 หลังและยังไม่สามารถหามือลอบวางเพลิงได้ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีหมายเรียกพยานไปยัง น.ส.จีรนันท์ จันทวงศ์ แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จ.เชียงราย ไปให้ข้อมูลต่อตำรวจ หลังจากก่อนหน้านี้ได้เชิญพระอาจารย์ทองดี ฐิตปุญโญ อายุ 61 ปีผู้ดูแลสำนักปฏิบัติธรรม และผู้ที่อยู่บริเวณดังกล่าวไปให้ปากคำ

สำหรับสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ มีเสาส่งสัญญาณวิทยุ ซึ่งเผยแพร่คลื่นวิหคเรดิโอ เอฟเอ็ม 89 เมกะเฮิร์ต ที่ถ่ายทอดเสียงกลุ่มพันธมิตรฯด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น