ประชาธิปัตย์เดินเกมลึก ลุ้นอดีตพรรคร่วมฯย้ายขั้วตั้งรัฐบาล
"อภิสิทธิ์" เห็นด้วยยกเลิกประชุมสภาวิสามัญ เปิดโอกาสให้ ส.ส.ทบทวนตัวเองเพื่อบ้านเมือง ระบุกลางเดือนธ.ค.เหมาะเลือกนายกฯ คนใหม่ ด้าน"ชวน" ชี้โอกาสเปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาลยาก ปัดข้อเสนอขึ้นนั่งนายกฯแทน "อภิสิทธิ์" ส่วน"สุเทพ"ยันพร้อมจัดตั้งรัฐบาลหาก"เพื่อไทย" ทำไม่สำเร็จ พร้อมไปกราบผู้ใหญ่ทุกพรรค เดินหน้าดัน
"อภิสิทธิ์" เป็นนายกฯคนต่อไป "เสนาะ"มีเงื่อนไขใหม่ อ้าง 5 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมไม่เอาคนของ"เพื่อไทย-ปชป."เป็นนายกฯ ด้าน"เด็กแม้ว" ขู่การเมืองพลิกขั้ว เจอยุบสภาแน่ ลือหึ่ง! "จำเลยอ้อ" สบช่องลักลอบเข้าเมืองคืน 5 ธ.ค. "บิ๊กบินไทย" สมุนมือขวาอดีตสามี รู้เห็นเป็นใจเปิดทาง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ ครม.รักษาการ มีมติยกเลิกพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 8-9 ธ.ค.นี้ว่า เป็นเรื่องที่เหมาะสมที่จะช่วยกันคลี่คลายปัญหาสถานการณ์ของบ้านเมือง เพราะการประชุมอาเซียนได้เลื่อนออกไปแล้ว
ทั้งนี้เห็นว่าขณะนี้ถือเป็นเวลาที่ดีที่ทุกฝ่ายโดยเฉพาะนักการเมืองจะต้องร่วมมือกันทบทวนท่าทีการทำหน้าที่ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และร่วมกันขอพรให้พระองค์ทรงหายจากอาการประชวรโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านักการเมืองทุกคน ทุกพรรค ฟังเสียงสังคมและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งการเปิดประชุมสภาเลือกนายกฯนั้นตนเห็นว่าหากใช้ช่วงเวลาในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ ก็ถือว่ามีความเหมาะสมที่สุด
ปชป.รอความชัดเจนส.ส.ย้ายพรรค
ส่วนส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคพลังประชาชน ที่ประกาศจะขอใช้เอกสิทธิในการเลือกนายกรัฐมนตรี และอาจมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าไม่ทราบ กระแสข่าวต่างๆในขณะนี้สร้างความสับสน ดังนั้นควรให้เวลารอดูความชัดเจน ทั้งนี้ยอมรับว่าที่ผ่านมาก็มีโอกาสพูดคุยกับส.ส.หลายพรรคเช่นกันเกี่ยวกับอนาคตทางการเมือง หากความคิดเห็นตรงกันที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขก็สามารถร่วมงานกันได้ แต่สุดท้ายแล้วส.ส.ยังมีเวลาอีก 60 วันที่จะตัดสินใจในการไปร่วมงานกับพรรคการเมืองที่ตนเองสนใจได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการเปลี่ยนขั้วการเมือง รักษาการนายกฯ จะสามารถชิงยุบสภาก่อนได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่เคยมีปรากฎมาก่อนในการเมืองไทย แต่ในกฎหมายก็ไม่ได้ระบุข้อห้ามไว้ ส่วนการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองหรือไม่ยังไม่ขอแสดงความเห็นในขณะนี้ ซึ่งสุดท้ายแล้วถ้ามีการดำเนินการอย่างไรออกมาแล้วสามารถหาทางออกให้กับบ้านเมืองได้เป็นเรื่องที่ดี
"ชวน"ยอมรับเปลี่ยนขั้วยาก
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเสนอรายชื่อบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ตนเข้าใจความรู้สึกของประชาชนที่ขมขื่น ที่เสนออะไรก็ได้ไม่มีข้อจำกัด แต่เหนือสิ่งอื่นใด ตัวบุคคลมาทีหลัง แต่ขอให้ยึดวิถีทางประชาธิปไตยเป็นหลัก
ส่วนที่มีการเสนอให้มีรัฐบาลพิเศษโดยให้นายชวน เป็นนายกฯเหมือนสมัยที่ขึ้นมาแทน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีว่า เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก และสถานการณ์ต่างกับสมัยของพล.อ.ชวลิต แต่ความคล้ายกันคือ มีวิกฤตเกิดขึ้นทั้งภายนอกและภายใน แต่ในปี 40 เกิดจากวิกฤตภายใน พล.อ.ชวลิตประกาศชัดเจนว่า ประเทศเหมือนคนไข้จะตายแล้วจึงได้ประกาศลาออก ขณะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ มีเสียงน้อยกว่ารัฐบาลเพียง 2 เสียงเท่านั้น และวันนั้นประชาชนไม่ยอมรับรัฐบาลนั้นแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลจึงเข้ามาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องไปวิ่งเต้น หรือหว่านล้อม ทุกคนหันเข้ามา อยากขอให้พรรคประชาธิปัตย์มาแก้วิกฤต ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นทำได้ง่ายกว่าปัจจุบัน อีกทั้งปัจจุบันเสียงของพรรคพลังประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ แตกต่างกันมาก แม้จะมีคนที่คิดอยากจะเปลี่ยนขั้วรัฐบาล แต่เป็นแค่คนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ ดังนั้นถ้าจะทำให้ได้จริงคงเป็นไปได้ยาก
"ชวน"ไม่ฝืนธรรมเนียมนั่งนายกฯ
เมื่อถามว่ามีความพยายามที่จะผลัดกันนายชวนให้เป็นนายกรัฐมนตรี แทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สามารถเป็นไปได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ยิ่งเป็นไปได้ยาก การเปลี่ยนขั้วว่ายากแล้ว ตัวบุคคลก็ยิ่งยากกว่า เพราะมีระบบพรรคการเมืองอยู่ ว่าโดยหลักแล้วเราต้องยกย่องหัวหน้าพรรค ถือว่าหัวหน้าพรรคคือหลัก แม้นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้ติดประเด็นเหล่านี้ เพราะเคยพูดว่าว่าถ้ามีความจำเป็นก็ไม่ต้องติดระบบพรรคเสมอไป
"เราอย่าพึ่งไปห่วงเรื่องตัวบุคคล เราคิดในโครงสร้างการเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนขั้วก็เป็นไปได้ยาก แตยอมรับว่ามีส.ส.ในพรรคพลังประชาชนเดิมที่มีความสนิทสนม อยากจะเปลี่ยนแปลง แต่ก็เป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่คงไม่ได้คิดเรื่องนี้" นายชวน กล่าว
"สุเทพ"ยังลุ้นการเมืองเปลี่ยนขั้ว
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า จะมีการเจรจากับกลุ่มเพื่อนเนวิน เพื่อจัดตั้งรัฐบาลว่า ตนเป็นนักการเมืองมา 30 ปีเชื่อมั่นว่าส.ส.ต่าง ๆ เมื่อถึงที่สุดต้องคิดถึงประชาชน และเมื่อตระหนักแล้วว่าทำการเมืองแบบเดิม ผลเสียจะเกิดกับประชาชน และบ้านเมือง ดังนั้น ส.ส.ทุกคนก็ต้องคิดเรื่องนี้กันมาก หากนักการเมืองได้คิดทบทวนก็คงหาทางออกที่ดีของประเทศได้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ มี ส.ส.จำนวนจำกัด เราก็ตระหนักดีว่าไม่ใช่พรรคที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางการเมืองอย่างที่หลายคนคาดหวังได้ แต่ขึ้นอยู่กับ ส.ส.ในซีกรัฐบาลเดิม ถ้าส.ส.เหล่านั้นมีความคิดเห็นเหมือนกับประชาชนทั้งหลายเขาต้องฉุกใจ และคิดร่วมมือกันเรา เพื่อสร้างรัฐบาลที่ประชาชนทั้งประเทศสบายใจและมีความหวังที่จะเห็นอนาคตของบ้านเมืองได้
เมื่อถามว่า มีข้อเสนอเรื่องการเปลี่ยนขั้วให้เปลี่ยนตัวนายกฯจากนายอภิสิทธิ์ มาเป็นนายชวน หลีกภัย นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้เจรจากับบรรดาพรรคการเมืองเหล่านั้น แต่เชื่อว่า ผู้นำของนักการเมืองเหล่านั้นเข้าใจกฎเกณฑ์กติกาในทางการเมือง ตนไม่เชื่อว่า จะมีใครยื่นข้อเสนออย่างนั้น
"การเมืองมีกฎเกณฑ์กติกาธรรมเนียมนายอภิสิทธิ์ เป็นผู้นำฝ่ายค้านฯ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ทำหน้าที่มาโดยตลอด ถ้ารัฐบาลบริหารบ้านเมืองไม่ได้ด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะต้องมาจัดตั้งรัฐบาล คุณอภิสิทธิ์ ก็มีความชอบธรรมที่จะมาเป็นผู้นำรัฐบาล นี่เป็นกฎเกณฑ์กติกาประเพณีปฎิบัติ ซึ่งบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งหลายเข้าใจดี เพราะฉะนั้นข้อเสนอนี้คงไม่เกิดขึ้น”
ต่อข้อถามว่า มีการเสนอให้นำคนกลางที่มาจากพรรคการเมืองอื่นมาเป็นนากรัฐมนตรี โดยที่ไมได้มาจากพรรคพลังประชาชนเดิม และพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเกรงว่าจะเกิดความขัดแย้งอีก เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความจริงหากพรรคได้คะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็เป็นหน้าที่ของพรรคลำดับรองลงไป ซึ่งตนพยายามทำเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนสมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ ที่ทำไม่ใช่เพราะความทะเยอทะยาน แต่เห็นว่า ถ้าเราทำสำเร็จก็เป็นโอกาสทำให้บ้านเมืองกลับสู่สันติสุขได้ และสามารถแก้ปัญหาบ้านเมืองได้
"วันนี้ก็เหมือนกัน เพียงแต่เราเคารพให้โอกาสท่านได้มีเวลาตั้งหลักได้ เมื่อตั้งหลักได้ ท่านก็คงนัดหมาย ผมพร้อมที่จะไปกราบผู้หลักผู้ใหญ่ทุกพรรคการเมือง" นายสุเทพ กล่าว
คาดโหวตนายกฯหลัง 10 ธ.ค.
เมื่อถามถึงกรณีที่นายอัศวิน วิภูศิริ ส.ส.สัดส่วน อดีตพรรคชาติไทย มาพบเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายอัศวิน เป็นคนสนิทของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตที่ปรึกษาพรรคชาติไทย เขาก็มาให้กำลังใจพรรคประชาธิปัตย์ และหากจะให้ พล.ต.สนั่น ช่วยดำเนินการ พล.ต.สนั่น ก็ยินดี ต่อข้อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้ พล.ต.สนั่น เป็นแกนในการประสาน เพื่อจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ถึงขนาดนั้น แต่พล.ต.สนั่น เคยเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน และเคยอยู่พรรคชาติไทยที่เคยร่วมรัฐบาลกัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า 3-4 วันนี้จะเห็นความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะถ้าช้าก็จะทำให้ประเทศเสียหาย
ส่วนปัญหาเรื่อง ส.ส.สัดส่วน จะเป็นตัวแปรในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องข้อเท็จจริงทางกฎหมาย ขอไม่แสดงความเห็น เพราะพรรคอาจมีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งนี้เชื่อว่ารัฐบาลที่จัดตั้งในอนาคตประชาชนจะสมหวัง
นายสุเทพ ยังกล่าวถึง การประชุมสภาฯ นัดพิเศษ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี คนใหม่ ว่า จะต้องดูความเหมาะสมของสถานการณ์ แต่ถ้าปล่อยเวลาให้เนิ่นนานออกไปจะไม่ดี บ้านเมืองจะขาดโอกาส และว่าขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องดูว่า ส.ส.ที่ร่วมลงชื่อ เพื่อขอเปิดประชุมสภาฯ มีคุณสมบัติครบหรือไม่ มีใครถอนตัวหรือไม่ แต่คิดว่าน่าจะประชุมได้หลังวันที่ 10 ธ.ค.ไปแล้ว และควรมีรัฐบาลใหม่ ก่อนปีใหม่
"ผมไม่เห็นด้วย ถ้าจะมีการยุบสภา เพราะถือว่าเลยเวลานั้นมาแล้ว ถ้าจะยุบสภา ควรทำตั้งแต่ช่วงที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ เวลานี้เป็นเวลาที่ทุกคนต้องร่วมกันคิดหาทางออกให้ประเทศ ด้วยการร่วมแก้วิกฤต การยุบสภาไม่ใช่ทางออกแล้ว" นายสุเทพกล่าว
ขู่เพื่อนเนวินเปลี่ยนขั้วเจอยุบสภา
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด กลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวถึงการคัดเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกฯ และกรณีส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งยังไม่เข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย และไม่สนับสนุนคนจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ ว่า ต้องยอมรับว่าขณะนี้ยังมีอดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชนบางคน ที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง และไม่เคารพกติกาประชาธิปไตย ซึ่งอาจจะมีเรื่องผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ แต่ไม่รู้ว่าต้องการอะไร เพราะอาจจะเป็นเรื่องของเก้าอี้รัฐมนตรี หรือการต่อรองผลประโยชน์อื่นๆ
ทั้งนี้ หากส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน แยกตัวไปอยู่พรรคการเมืองอื่น การเลือกตั้งใหม่อาจจะมาเร็วกว่าที่คิด เพราะหากไม่สามารถตกลงกันได้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกฯ ก็อาจจะยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนได้ทันที
นายศักดา กล่าวว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยขณะนี้มี ส.ส.เข้าสังกัดแล้วประมาณ 180 คน และจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วง 1-2 วันโดยเฉพาะวันที่ 7 ธ.ค. ซึ่งจะเป็นวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค จะมีการสรุปยอด ส.ส.ของพรรค หากพรรคเพื่อไทยมีจำนวน ส.ส.มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง พรรคเพื่อไทยก็จะต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และนายกฯ จะต้องเป็นคนที่มาจากพรรคเพื่อไทย ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถตอบคำถามของประชาชนได้ว่าเหตุใดเลือก ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน แต่กลับให้ตัวแทนจากพรรคเล็กขึ้นมาเป็นนายกฯ โดยผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกฯ จะต้องเป็นคนที่มีความสามารถทางด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างดี
นายศักดา ยังกล่าวถึงกรณีที่มีชื่อ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เป็นแคนดิเดทนายกฯ ว่า คุณสมบัติส่วนตัวของนายเสนาะก็พอได้ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งคนในพรรคเพื่อไทย ก็มีคนที่มีความพร้อม อย่าง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ซึ่งช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีเสียงต่อต้าน ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่มีกระแสแรง ก็ต้องดูว่ากระแสนั้นมาจากไหน บางทีอาจจะมีม้ามืดขึ้นมาก็ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะเป็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่ นายศักดา กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่ แต่น่าจะเป็นบุคคลอื่นมากกว่า เพราะเท่าที่คุยกันก็มีคนที่มีความเหมาะสมหลายคน แต่คงต้องรอดูมติพรรคในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ และคนที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหัวหน้าพรรคเช่นกัน เพราะเราจะต้องแยกกันระหว่างการบริหารพรรคการเมืองและการบริหารการเมือง
5 พรรคไม่เอาพท.-ปชป.นั่งนายกฯ
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลเดิม 5 พรรค คือ พรรคประชาราช, รวมใจไทยชาติพัฒนา, เพื่อแผ่นดิน, มัชฌิมาธิปไตย และชาติไทย เห็นพ้องต้องกันว่าจะไม่สนับสนุนให้คนจากพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกฯ เนื่องจากถ้าทำเช่นนั้น จะเกิดปัญหาเสื้อเหลืองและเสื้อแดงตามมาอีก โดยจะสนับสนุนบุคคลจากพรรคร่วมเดิม 5 พรรค เป็นนายกฯ เพื่อขจัดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
สะพัด"สรอรรถ"พาลูกก๊วนซบ"รช."
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางกลุ่ม ส.ส.ภาคกลาง อดีตพรรคพลังประชาชน ประมาณ 10 คน ภายใต้การดูแลของนายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มีความเป็นไปได้ที่จะแยกตัวไปสังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) คาดว่าสาเหตุมาจากไม่พอใจที่นายบุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.คนสนิท ถูกกลุ่มอีสานพัฒนา เบียดโควต้ารัฐมนตรีจนหลุดจากตำแหน่งรมช.ศึกษาธิการ ในรัฐบาลสมชาย 1
ด้านนายวิทยา บูรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 7 ธันวาคม พรรคเพื่อไทยจะรับสมัคร ส.ส.ที่จะเข้าเป็นสมาชิกเป็นวันสุดท้าย เพราะต้องยื่นรายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 8 ธันวาคม ประกอบกับวันที่ 7 ธันวาคม จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
ย้ำ8-9 ธ.ค.นี้ไม่เปิดประชุมรัฐสภา
นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติยกเลิกการเสนอพ.ร.ฎ.ขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ วันที่ 8-9 ธ.ค.นี้แล้ว ก็จะไม่มีการเปิดประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณากรอบข้อตกลงและบันทึกความเข้าใจต่างๆ ที่จะใช้ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (อาเซียน ซัมมิท) เนื่องจากได้มีการเลื่อนวันประชุมอาเซียน ซัมมิท ไปก่อนหน้านี้แล้ว
"จากนี้ต้องขึ้นอยู่กับนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาว่าจะรวบรวมรายชื่อสมาชิก 1 ใน 3 ของรัฐสภา ทำหนังสือขึ้นกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญหรือไม่" นายพิทูรกล่าว
อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการขอเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วภายใน 30 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนจะมีการพิจารณาระเบียบวาระอื่นๆ อาทิ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือบันทึกความตกลงต่างๆ ควบคู่ด้วย ก็ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภา จะเป็นผู้หารือในที่ประชุม และหยิบยกมาพิจารณา
หึ่ง"อ้อ"บินเข้าไทยคืน 5 ธ.ค.
แหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 5 ธ.ค. เวลาประมาณ 22.00น. คุณหญิงพจมาน ชินวัตร จะเดินทางจากประเทศฮ่องกง กลับประเทศไทย ด้วยเที่ยวบิน ทีจี 607 แต่ในรายชื่อผู้โดยสาร จะไม่มีชื่อคุณหญิงพจมาน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่า ถือแม้จะไม่มีชื่อคณหญิงพจมาน อยู่ในรายชื่อผู้โดยสาร แต่อาจจะมี เรืออากาศโทนรหัช พลอยใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สังกัดสำนักงานกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เดินทางไปรับด้วยตนเอง
ทั้งนี้ คุณหญิงพจมาน มีสถานะเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับ คดีจงใจเลี่ยงชำระภาษี บริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) มูลค่า 546 ล้านบาท และคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดา ซึ่งศาลได้พิพากษาคดีลับหลังไปแล้ว ในขณะที่คุณหญิงพจมานยังไม่เคยมามอบตัว
ส่วนเรืออากาศโทนรหัช นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัทการบินไทย ตามมติของบอร์ด แทนเรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะ ที่ลาออกไป โดยเรืออกาศโท นรหัชนั้น เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 10 ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับหลายคดี และเป็นนักบินประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่การเมือง
"อภิสิทธิ์" เห็นด้วยยกเลิกประชุมสภาวิสามัญ เปิดโอกาสให้ ส.ส.ทบทวนตัวเองเพื่อบ้านเมือง ระบุกลางเดือนธ.ค.เหมาะเลือกนายกฯ คนใหม่ ด้าน"ชวน" ชี้โอกาสเปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาลยาก ปัดข้อเสนอขึ้นนั่งนายกฯแทน "อภิสิทธิ์" ส่วน"สุเทพ"ยันพร้อมจัดตั้งรัฐบาลหาก"เพื่อไทย" ทำไม่สำเร็จ พร้อมไปกราบผู้ใหญ่ทุกพรรค เดินหน้าดัน
"อภิสิทธิ์" เป็นนายกฯคนต่อไป "เสนาะ"มีเงื่อนไขใหม่ อ้าง 5 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมไม่เอาคนของ"เพื่อไทย-ปชป."เป็นนายกฯ ด้าน"เด็กแม้ว" ขู่การเมืองพลิกขั้ว เจอยุบสภาแน่ ลือหึ่ง! "จำเลยอ้อ" สบช่องลักลอบเข้าเมืองคืน 5 ธ.ค. "บิ๊กบินไทย" สมุนมือขวาอดีตสามี รู้เห็นเป็นใจเปิดทาง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ ครม.รักษาการ มีมติยกเลิกพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 8-9 ธ.ค.นี้ว่า เป็นเรื่องที่เหมาะสมที่จะช่วยกันคลี่คลายปัญหาสถานการณ์ของบ้านเมือง เพราะการประชุมอาเซียนได้เลื่อนออกไปแล้ว
ทั้งนี้เห็นว่าขณะนี้ถือเป็นเวลาที่ดีที่ทุกฝ่ายโดยเฉพาะนักการเมืองจะต้องร่วมมือกันทบทวนท่าทีการทำหน้าที่ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และร่วมกันขอพรให้พระองค์ทรงหายจากอาการประชวรโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านักการเมืองทุกคน ทุกพรรค ฟังเสียงสังคมและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งการเปิดประชุมสภาเลือกนายกฯนั้นตนเห็นว่าหากใช้ช่วงเวลาในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ ก็ถือว่ามีความเหมาะสมที่สุด
ปชป.รอความชัดเจนส.ส.ย้ายพรรค
ส่วนส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคพลังประชาชน ที่ประกาศจะขอใช้เอกสิทธิในการเลือกนายกรัฐมนตรี และอาจมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าไม่ทราบ กระแสข่าวต่างๆในขณะนี้สร้างความสับสน ดังนั้นควรให้เวลารอดูความชัดเจน ทั้งนี้ยอมรับว่าที่ผ่านมาก็มีโอกาสพูดคุยกับส.ส.หลายพรรคเช่นกันเกี่ยวกับอนาคตทางการเมือง หากความคิดเห็นตรงกันที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขก็สามารถร่วมงานกันได้ แต่สุดท้ายแล้วส.ส.ยังมีเวลาอีก 60 วันที่จะตัดสินใจในการไปร่วมงานกับพรรคการเมืองที่ตนเองสนใจได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการเปลี่ยนขั้วการเมือง รักษาการนายกฯ จะสามารถชิงยุบสภาก่อนได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่เคยมีปรากฎมาก่อนในการเมืองไทย แต่ในกฎหมายก็ไม่ได้ระบุข้อห้ามไว้ ส่วนการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองหรือไม่ยังไม่ขอแสดงความเห็นในขณะนี้ ซึ่งสุดท้ายแล้วถ้ามีการดำเนินการอย่างไรออกมาแล้วสามารถหาทางออกให้กับบ้านเมืองได้เป็นเรื่องที่ดี
"ชวน"ยอมรับเปลี่ยนขั้วยาก
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเสนอรายชื่อบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ตนเข้าใจความรู้สึกของประชาชนที่ขมขื่น ที่เสนออะไรก็ได้ไม่มีข้อจำกัด แต่เหนือสิ่งอื่นใด ตัวบุคคลมาทีหลัง แต่ขอให้ยึดวิถีทางประชาธิปไตยเป็นหลัก
ส่วนที่มีการเสนอให้มีรัฐบาลพิเศษโดยให้นายชวน เป็นนายกฯเหมือนสมัยที่ขึ้นมาแทน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีว่า เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก และสถานการณ์ต่างกับสมัยของพล.อ.ชวลิต แต่ความคล้ายกันคือ มีวิกฤตเกิดขึ้นทั้งภายนอกและภายใน แต่ในปี 40 เกิดจากวิกฤตภายใน พล.อ.ชวลิตประกาศชัดเจนว่า ประเทศเหมือนคนไข้จะตายแล้วจึงได้ประกาศลาออก ขณะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ มีเสียงน้อยกว่ารัฐบาลเพียง 2 เสียงเท่านั้น และวันนั้นประชาชนไม่ยอมรับรัฐบาลนั้นแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลจึงเข้ามาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องไปวิ่งเต้น หรือหว่านล้อม ทุกคนหันเข้ามา อยากขอให้พรรคประชาธิปัตย์มาแก้วิกฤต ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นทำได้ง่ายกว่าปัจจุบัน อีกทั้งปัจจุบันเสียงของพรรคพลังประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ แตกต่างกันมาก แม้จะมีคนที่คิดอยากจะเปลี่ยนขั้วรัฐบาล แต่เป็นแค่คนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ ดังนั้นถ้าจะทำให้ได้จริงคงเป็นไปได้ยาก
"ชวน"ไม่ฝืนธรรมเนียมนั่งนายกฯ
เมื่อถามว่ามีความพยายามที่จะผลัดกันนายชวนให้เป็นนายกรัฐมนตรี แทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สามารถเป็นไปได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ยิ่งเป็นไปได้ยาก การเปลี่ยนขั้วว่ายากแล้ว ตัวบุคคลก็ยิ่งยากกว่า เพราะมีระบบพรรคการเมืองอยู่ ว่าโดยหลักแล้วเราต้องยกย่องหัวหน้าพรรค ถือว่าหัวหน้าพรรคคือหลัก แม้นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้ติดประเด็นเหล่านี้ เพราะเคยพูดว่าว่าถ้ามีความจำเป็นก็ไม่ต้องติดระบบพรรคเสมอไป
"เราอย่าพึ่งไปห่วงเรื่องตัวบุคคล เราคิดในโครงสร้างการเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนขั้วก็เป็นไปได้ยาก แตยอมรับว่ามีส.ส.ในพรรคพลังประชาชนเดิมที่มีความสนิทสนม อยากจะเปลี่ยนแปลง แต่ก็เป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่คงไม่ได้คิดเรื่องนี้" นายชวน กล่าว
"สุเทพ"ยังลุ้นการเมืองเปลี่ยนขั้ว
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า จะมีการเจรจากับกลุ่มเพื่อนเนวิน เพื่อจัดตั้งรัฐบาลว่า ตนเป็นนักการเมืองมา 30 ปีเชื่อมั่นว่าส.ส.ต่าง ๆ เมื่อถึงที่สุดต้องคิดถึงประชาชน และเมื่อตระหนักแล้วว่าทำการเมืองแบบเดิม ผลเสียจะเกิดกับประชาชน และบ้านเมือง ดังนั้น ส.ส.ทุกคนก็ต้องคิดเรื่องนี้กันมาก หากนักการเมืองได้คิดทบทวนก็คงหาทางออกที่ดีของประเทศได้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ มี ส.ส.จำนวนจำกัด เราก็ตระหนักดีว่าไม่ใช่พรรคที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางการเมืองอย่างที่หลายคนคาดหวังได้ แต่ขึ้นอยู่กับ ส.ส.ในซีกรัฐบาลเดิม ถ้าส.ส.เหล่านั้นมีความคิดเห็นเหมือนกับประชาชนทั้งหลายเขาต้องฉุกใจ และคิดร่วมมือกันเรา เพื่อสร้างรัฐบาลที่ประชาชนทั้งประเทศสบายใจและมีความหวังที่จะเห็นอนาคตของบ้านเมืองได้
เมื่อถามว่า มีข้อเสนอเรื่องการเปลี่ยนขั้วให้เปลี่ยนตัวนายกฯจากนายอภิสิทธิ์ มาเป็นนายชวน หลีกภัย นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้เจรจากับบรรดาพรรคการเมืองเหล่านั้น แต่เชื่อว่า ผู้นำของนักการเมืองเหล่านั้นเข้าใจกฎเกณฑ์กติกาในทางการเมือง ตนไม่เชื่อว่า จะมีใครยื่นข้อเสนออย่างนั้น
"การเมืองมีกฎเกณฑ์กติกาธรรมเนียมนายอภิสิทธิ์ เป็นผู้นำฝ่ายค้านฯ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ทำหน้าที่มาโดยตลอด ถ้ารัฐบาลบริหารบ้านเมืองไม่ได้ด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะต้องมาจัดตั้งรัฐบาล คุณอภิสิทธิ์ ก็มีความชอบธรรมที่จะมาเป็นผู้นำรัฐบาล นี่เป็นกฎเกณฑ์กติกาประเพณีปฎิบัติ ซึ่งบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งหลายเข้าใจดี เพราะฉะนั้นข้อเสนอนี้คงไม่เกิดขึ้น”
ต่อข้อถามว่า มีการเสนอให้นำคนกลางที่มาจากพรรคการเมืองอื่นมาเป็นนากรัฐมนตรี โดยที่ไมได้มาจากพรรคพลังประชาชนเดิม และพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเกรงว่าจะเกิดความขัดแย้งอีก เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความจริงหากพรรคได้คะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็เป็นหน้าที่ของพรรคลำดับรองลงไป ซึ่งตนพยายามทำเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนสมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ ที่ทำไม่ใช่เพราะความทะเยอทะยาน แต่เห็นว่า ถ้าเราทำสำเร็จก็เป็นโอกาสทำให้บ้านเมืองกลับสู่สันติสุขได้ และสามารถแก้ปัญหาบ้านเมืองได้
"วันนี้ก็เหมือนกัน เพียงแต่เราเคารพให้โอกาสท่านได้มีเวลาตั้งหลักได้ เมื่อตั้งหลักได้ ท่านก็คงนัดหมาย ผมพร้อมที่จะไปกราบผู้หลักผู้ใหญ่ทุกพรรคการเมือง" นายสุเทพ กล่าว
คาดโหวตนายกฯหลัง 10 ธ.ค.
เมื่อถามถึงกรณีที่นายอัศวิน วิภูศิริ ส.ส.สัดส่วน อดีตพรรคชาติไทย มาพบเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายอัศวิน เป็นคนสนิทของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตที่ปรึกษาพรรคชาติไทย เขาก็มาให้กำลังใจพรรคประชาธิปัตย์ และหากจะให้ พล.ต.สนั่น ช่วยดำเนินการ พล.ต.สนั่น ก็ยินดี ต่อข้อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้ พล.ต.สนั่น เป็นแกนในการประสาน เพื่อจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ถึงขนาดนั้น แต่พล.ต.สนั่น เคยเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน และเคยอยู่พรรคชาติไทยที่เคยร่วมรัฐบาลกัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า 3-4 วันนี้จะเห็นความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะถ้าช้าก็จะทำให้ประเทศเสียหาย
ส่วนปัญหาเรื่อง ส.ส.สัดส่วน จะเป็นตัวแปรในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องข้อเท็จจริงทางกฎหมาย ขอไม่แสดงความเห็น เพราะพรรคอาจมีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งนี้เชื่อว่ารัฐบาลที่จัดตั้งในอนาคตประชาชนจะสมหวัง
นายสุเทพ ยังกล่าวถึง การประชุมสภาฯ นัดพิเศษ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี คนใหม่ ว่า จะต้องดูความเหมาะสมของสถานการณ์ แต่ถ้าปล่อยเวลาให้เนิ่นนานออกไปจะไม่ดี บ้านเมืองจะขาดโอกาส และว่าขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องดูว่า ส.ส.ที่ร่วมลงชื่อ เพื่อขอเปิดประชุมสภาฯ มีคุณสมบัติครบหรือไม่ มีใครถอนตัวหรือไม่ แต่คิดว่าน่าจะประชุมได้หลังวันที่ 10 ธ.ค.ไปแล้ว และควรมีรัฐบาลใหม่ ก่อนปีใหม่
"ผมไม่เห็นด้วย ถ้าจะมีการยุบสภา เพราะถือว่าเลยเวลานั้นมาแล้ว ถ้าจะยุบสภา ควรทำตั้งแต่ช่วงที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ เวลานี้เป็นเวลาที่ทุกคนต้องร่วมกันคิดหาทางออกให้ประเทศ ด้วยการร่วมแก้วิกฤต การยุบสภาไม่ใช่ทางออกแล้ว" นายสุเทพกล่าว
ขู่เพื่อนเนวินเปลี่ยนขั้วเจอยุบสภา
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด กลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวถึงการคัดเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกฯ และกรณีส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งยังไม่เข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย และไม่สนับสนุนคนจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ ว่า ต้องยอมรับว่าขณะนี้ยังมีอดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชนบางคน ที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง และไม่เคารพกติกาประชาธิปไตย ซึ่งอาจจะมีเรื่องผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ แต่ไม่รู้ว่าต้องการอะไร เพราะอาจจะเป็นเรื่องของเก้าอี้รัฐมนตรี หรือการต่อรองผลประโยชน์อื่นๆ
ทั้งนี้ หากส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน แยกตัวไปอยู่พรรคการเมืองอื่น การเลือกตั้งใหม่อาจจะมาเร็วกว่าที่คิด เพราะหากไม่สามารถตกลงกันได้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกฯ ก็อาจจะยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนได้ทันที
นายศักดา กล่าวว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยขณะนี้มี ส.ส.เข้าสังกัดแล้วประมาณ 180 คน และจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วง 1-2 วันโดยเฉพาะวันที่ 7 ธ.ค. ซึ่งจะเป็นวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค จะมีการสรุปยอด ส.ส.ของพรรค หากพรรคเพื่อไทยมีจำนวน ส.ส.มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง พรรคเพื่อไทยก็จะต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และนายกฯ จะต้องเป็นคนที่มาจากพรรคเพื่อไทย ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถตอบคำถามของประชาชนได้ว่าเหตุใดเลือก ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน แต่กลับให้ตัวแทนจากพรรคเล็กขึ้นมาเป็นนายกฯ โดยผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกฯ จะต้องเป็นคนที่มีความสามารถทางด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างดี
นายศักดา ยังกล่าวถึงกรณีที่มีชื่อ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เป็นแคนดิเดทนายกฯ ว่า คุณสมบัติส่วนตัวของนายเสนาะก็พอได้ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งคนในพรรคเพื่อไทย ก็มีคนที่มีความพร้อม อย่าง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ซึ่งช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีเสียงต่อต้าน ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่มีกระแสแรง ก็ต้องดูว่ากระแสนั้นมาจากไหน บางทีอาจจะมีม้ามืดขึ้นมาก็ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะเป็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่ นายศักดา กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่ แต่น่าจะเป็นบุคคลอื่นมากกว่า เพราะเท่าที่คุยกันก็มีคนที่มีความเหมาะสมหลายคน แต่คงต้องรอดูมติพรรคในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ และคนที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหัวหน้าพรรคเช่นกัน เพราะเราจะต้องแยกกันระหว่างการบริหารพรรคการเมืองและการบริหารการเมือง
5 พรรคไม่เอาพท.-ปชป.นั่งนายกฯ
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลเดิม 5 พรรค คือ พรรคประชาราช, รวมใจไทยชาติพัฒนา, เพื่อแผ่นดิน, มัชฌิมาธิปไตย และชาติไทย เห็นพ้องต้องกันว่าจะไม่สนับสนุนให้คนจากพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกฯ เนื่องจากถ้าทำเช่นนั้น จะเกิดปัญหาเสื้อเหลืองและเสื้อแดงตามมาอีก โดยจะสนับสนุนบุคคลจากพรรคร่วมเดิม 5 พรรค เป็นนายกฯ เพื่อขจัดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
สะพัด"สรอรรถ"พาลูกก๊วนซบ"รช."
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางกลุ่ม ส.ส.ภาคกลาง อดีตพรรคพลังประชาชน ประมาณ 10 คน ภายใต้การดูแลของนายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มีความเป็นไปได้ที่จะแยกตัวไปสังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) คาดว่าสาเหตุมาจากไม่พอใจที่นายบุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.คนสนิท ถูกกลุ่มอีสานพัฒนา เบียดโควต้ารัฐมนตรีจนหลุดจากตำแหน่งรมช.ศึกษาธิการ ในรัฐบาลสมชาย 1
ด้านนายวิทยา บูรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 7 ธันวาคม พรรคเพื่อไทยจะรับสมัคร ส.ส.ที่จะเข้าเป็นสมาชิกเป็นวันสุดท้าย เพราะต้องยื่นรายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 8 ธันวาคม ประกอบกับวันที่ 7 ธันวาคม จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
ย้ำ8-9 ธ.ค.นี้ไม่เปิดประชุมรัฐสภา
นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติยกเลิกการเสนอพ.ร.ฎ.ขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ วันที่ 8-9 ธ.ค.นี้แล้ว ก็จะไม่มีการเปิดประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณากรอบข้อตกลงและบันทึกความเข้าใจต่างๆ ที่จะใช้ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (อาเซียน ซัมมิท) เนื่องจากได้มีการเลื่อนวันประชุมอาเซียน ซัมมิท ไปก่อนหน้านี้แล้ว
"จากนี้ต้องขึ้นอยู่กับนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาว่าจะรวบรวมรายชื่อสมาชิก 1 ใน 3 ของรัฐสภา ทำหนังสือขึ้นกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญหรือไม่" นายพิทูรกล่าว
อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการขอเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วภายใน 30 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนจะมีการพิจารณาระเบียบวาระอื่นๆ อาทิ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือบันทึกความตกลงต่างๆ ควบคู่ด้วย ก็ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภา จะเป็นผู้หารือในที่ประชุม และหยิบยกมาพิจารณา
หึ่ง"อ้อ"บินเข้าไทยคืน 5 ธ.ค.
แหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 5 ธ.ค. เวลาประมาณ 22.00น. คุณหญิงพจมาน ชินวัตร จะเดินทางจากประเทศฮ่องกง กลับประเทศไทย ด้วยเที่ยวบิน ทีจี 607 แต่ในรายชื่อผู้โดยสาร จะไม่มีชื่อคุณหญิงพจมาน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่า ถือแม้จะไม่มีชื่อคณหญิงพจมาน อยู่ในรายชื่อผู้โดยสาร แต่อาจจะมี เรืออากาศโทนรหัช พลอยใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สังกัดสำนักงานกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เดินทางไปรับด้วยตนเอง
ทั้งนี้ คุณหญิงพจมาน มีสถานะเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับ คดีจงใจเลี่ยงชำระภาษี บริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) มูลค่า 546 ล้านบาท และคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดา ซึ่งศาลได้พิพากษาคดีลับหลังไปแล้ว ในขณะที่คุณหญิงพจมานยังไม่เคยมามอบตัว
ส่วนเรืออากาศโทนรหัช นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัทการบินไทย ตามมติของบอร์ด แทนเรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะ ที่ลาออกไป โดยเรืออกาศโท นรหัชนั้น เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 10 ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับหลายคดี และเป็นนักบินประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่การเมือง