ASTVผู้จัดการรายวัน- “ICAO” แนะ ไทยต้องเตรียมแผนสำรองฉุกเฉินและการแก้ไขปัญหา รวมถึงมาตรการปลอดภัย ระบุฉลองครบรอบ 6 ปี ต้องยกเลิกเกรงไม่สะดวก "โสภณ" ยอมรับระบบรักษาความปลอดภัยขาดประสิทธิภาพ AOC เสนอตั้งกรรมการคุมสุวรรณภูมิเขตปกครองพิเศษ แนะ ทอท.ปรับลดค่าธรรมเนียมจูงใจสายการบิน ทอท.ยันพร้องเปิดสุวรรณภูมิ 5 ธ.ค.แน่ "การบินไทย-พีบี-บางกอกแอร์" พร้อมเช่นกัน ทูตต่างชาติในไทยเรียกร้องป้องกันสนามบินเพิ่ม
นายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าในวันที่ 4 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา นายMokhtar A Awan ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO เข้าพบพร้อมสอบถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการปิดสนามบิน พร้อมได้เสนอแนะให้ประเทศไทยควรที่จะมีการเตรียมแผนสำรองฉุกเฉินในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ รวมถึงความพร้อมของสนามบินในการรองรับ
“ICAO บอกสนามบินที่เราใช้อยู่เช่นอู่ตะเภาไม่มีความพร้อม และฝากว่าระบบการบินของไทยควรมีแผนสำรองแก้ไขปัญหาฉุกเฉิน และมีมาตรการดูแลความปลอดภัย ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมเองพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะดังกล่าวและเตรียมที่จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ และศึกษากฎหมาย แนวทางการปฏิบัติงานของสนามบินในภาวะเช่นนี้จะทำอย่างไร เราต้องไปคิดแผน โดยเฉพาะที่ดอนเมือง และการพัฒนาสุวรรณภูมิเฟส 2 ว่ามีความจำเป็นหรือไม่” นายสุรชัยกล่าว
นอกจากนี้ทางICAO ยังได้แจ้งให้ทราบว่า จากภาวะวิกฤติทางการเมืองและการชุมนุมปิดสนามบินที่เกิดขึ้นทำให้ทาง ICAO จำเป็นต้องยกเลิกการจัดงานฉลองครบรอบ 60การจัดตั้งสำนักงานในประเทศไปออกไป เนื่องจากเกรงว่าจะมีความไม่สะดวก ประกอบกับการจัดงานครั้งนี้ได้เชิญตัวแทนเช่นรัฐมนตรีและฑูตจากประเทศต่างเข้าร่วมงานด้วย
**เสนอตั้งสุวรรณภูมิเขตปกครองพิเศษ
นายชัยวัฒน์ นวราช ประธานคณะกรรมการดำเนินการธุรกิจการบิน(AOC) กล่าวว่า เหตุการณ์ปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินของไทยอย่างมาก ดังนั้น AOC จึงได้เสนอให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการจัดตั้งคณะกรรมการซึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ในการสั่งการเพื่อปฏิบัติการได้จริง โดยไม่ติดขัดระเบียบราชการ และปราศจากการเมืองเข้ามาย่งเกี่ยว ทั้งนี้เพื่อฟื้นฟูธุรกิจการบินและการท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ เนื่องจากปัญหาที่ทำให้มีผู้ชุมนุมเข้าไปในท่าอากาศยานได้ง่าย โดยมีผู้แทนทั้ง สายการบิน AOC , สมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศไทย (TAFA) , บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท., การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน นอกจากนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิควรมีการปรับปรุงระบบดูแลรักษาความปลอดภัย โดยมีการจัดตั้งหน่วยรักษาความปลอดภัยติดอาวุธเป็นการเฉพาะที่ไม่อิงกับกองกำลังของภาครัฐ มาดูแลเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าในอนาคตสนามบินของไทย จะไม่ถูกบุกยึดหรือปิดล้อมได้โดยง่าย
นายชัยวัฒน์กล่าวยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทบต่อความเชื่อมั่นและรายได้ของสายการบินต่างๆ ดังนั้นหากมีการตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูดังกล่าวแล้ว จะมีการเสนอเพื่อให้ทอท.ปรับลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ลง เพื่อเป็นการจูงใจให้สายการบินต่างๆ ยังคงกลับมาใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นฐาน เพราะคาดว่าสายการบินอาจจะลดเที่ยวบินลงประมาณ 40% จึงต้องเร่งหามาตรการจูงใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาเร็วที่สุด
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า สนามบินดอนเมืองซึ่งกำหนดให้เป็นสนามบินสำรองนั้น ทอท.ควรพิจารณาเพิ่มเครื่องมือ อุปกรณ์ในการให้บริการภาคพื้นดินให้เพียงพอกับการรองรับหากมีเหตุการณ์สนามบินสุวรรณภูมิไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติด้วย อย่างไรก็ตามยังเห็นว่านโยบายเรื่อง Single Airport นั้นดีที่สุด แต่ต้องเพิ่มมาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภันให้เข้มข้นกว่านี้ ส่วนสายการบินต่างๆ นั้นในการบินแต่ละครั้งก็จะมีแผนสำรองอยู่แล้วหากสนามบินปลายทางมีปัญหาจะไปลงที่สนามบินใดบ้าง
**ยอมรับขาดประสิทธิภาพ รปภ.
นายโสภณ ซารัมย์ รักษาการ รมช.คมนาคม กล่าวยอมรับว่า การรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ผ่านมา ขาดประสิทธิภาพ และหย่อนยาน ซึ่งคงต้องตรวจสอบความบกพร่อง ทั้งเรื่องการรายงานข่าว และการรักษาความเพราะไม่ใช่เฉพาะเรื่องการชุมนุมของ กลุ่มพันธมิตรฯ เท่านั้น แต่มีเหตุการณ์อื่นๆ เช่น แท็กซี่แย่งผู้โดยสารกัน ซึ่งคงต้องตรวจสอบความบกพร่อง ทั้งเรื่องการรายงานข่าว และการรักษาความปลอดภัยเพื่อไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกโดยในวันนี้ (5ธ.ค.) เวลา 09.00น. จะมีการเชิญทูตมาเป็นสักขีพยานในการกลับมาเปิดใช้ ท่าอากาศยาน สนามบินสุวรรณภูมิ และจะมีหน่วยงานของสหรัฐ มาตรวจสอบความปลอดภัยซึ่งเป็นหน่วยงานที่ถือเป็นตัวแทนของสายการบินต่างๆ และได้รับความเชื่อถือ ซึ่งหากผ่านการรับรองมาตรฐานสายการบินในแถบยุโรป ก็ยินดีมาใช้บริการ ท่าอากาศยาน สนามบินสุวรรณภูมิด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่า ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ มีความพร้อมและจะผ่านการตรวจสอบมาตรฐานอย่างแน่นอน
**พลิกลิ้นพร้อมเปิด 5 ธ.ค.เต็มระบบ
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้งผู้โดยสารขาเข้า-ออกภายในประเทศและต่างประเทศอีกครั้งในวันที่ 5 ธ.ค.ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป โดยวานนี้ (4 ธ.ค.) ได้เปิดให้บริการสำหรับผู้โดยสารขาเข้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศแล้ว โดยผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ จะผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร และรอรับกระเป๋าได้ตามปกติ ซึ่งเที่ยวบินขาเข้าเที่ยวบินแรกในวันที่ 4 ธ.ค.นี้เป็นของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 3169 เดลลี-กรุงเทพฯ ถึง สุวรรณภูมิ ในเวลาประมาณ 06.00 น. อย่างไรก็ตามการให้บริการเที่ยวบินขาออกที่สุวรรณภูมินั้น ผู้โดยสารจะต้องไปเช็คอินที่ศูนย์เช็คอินชั่วคราวไบเทค บางนา ซึ่งผู้โดยสารจะต้องตรวจสอบข้อมูลจากสายการบินก่อน
“เที่ยวบินที่จะทำการบินที่ สนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ มีสายการบินต่าง ๆ แจ้งขอทำการบินแล้ว ซึ่งเป็นทั้งเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้า รวมทั้งสิ้น 101 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินขาเข้า 65 เที่ยวบิน เที่ยวบิน ขาออก 36 เที่ยวบิน โดยสายการบินที่ทำการบินในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ เช่น สายการบินไทย บางกอกแอร์เวย์ คาเธ่ย์แปซิฟิค สิงค์โปร์แอร์ไลน์ ไชน่าแอร์ไลน์ แจแปนแอร์ไลน์ เป็นต้น “นายเสรีรัตน์กล่าว
**ขนส่งสาธารณะสุวรรณภูมิพร้อมบริการ
นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า ระบบขนส่งสาธารณะภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสารและผู้ที่ต้องการใช้บริการตั้งแต่วานนี้ (4 ธ.ค.) ทั้งรถลีมูซีน, รถเช่า, รถเวียน (รถชัตเติ้ลบัส), รถแอร์พอร์ต เอ็กเพรส, รถบขส., ขสมก., และรถตู้ขสมก., จึงเชื่อว่าผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้า-ออกสนามบินสุวรรณภูมิจะไม่มีปัญหาแน่นอนโดยในวันนี้ (5 ธ.ค.) ศูนย์ขนส่งสาธารณะก็จะจัดคิวรถแท็กซี่มิเตอร์ไว้คอยบริการผู้โดยสารขาเข้าซึ่งอยู่ที่ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารตามปกติ ส่วนในเรื่องลานจอดรถที่เป็นลานจอดรถระยะไกลหรือ Long Term Parking และอาคารจอดรถหน้าอาคารผู้โดยสาร จะมีเจ้าหน้าที่ประจำเรียบร้อยและเปิดให้บริการตามปกติแล้วเช่นกัน
**ดอนเมืองเปิดเต็มรูปแบบแล้ว
ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า หลังจากที่ดอนเมืองเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา การบริการทั้งระบบรักษาความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวก การเช็กอินเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยืนยันว่าการให้บริการของท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่กำหนดไว้ แต่ยอมรับว่าจำนวนผู้โดยสารยังมีน้อย ซึ่งท่าอากาศยานดอนเมืองจะร่วมมือกับสายการบินต่าง ๆ เร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารได้รับข้อมูลว่าดอนเมืองเปิดให้บริการตามปกติแล้ว เพื่อให้ผู้โดยสารกลับมาใช้ตามปกติเฉลี่ยวันละ 1,100 คน หรือเที่ยวบินให้บริการ 60 เที่ยวบิน โดยวานนี้ (4 ธ.ค.) มีเที่ยวบินในประเทศทั้งสิ้น 56 เที่ยวบิน นกแอร์ 36 การบินไทย 20 เที่ยวบิน
**บินไทยของบรัฐดูแลนักท่องเที่ยวตกค้าง
นายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวยอมรับว่า การบินไทยคงไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้โดยสารที่ตกค้างทั้งในประเทศและต่างประเทศระหว่างที่กลุ่มพันธมิตรฯ ปิดล้อมสนามบินทั้ง 2 แห่งไม่ได้ ดังนั้นอาจจะมีการพิจารณาขอค่าชดเชยกับทางรัฐบาลด้วย ส่วนเที่ยวบิน ขึ้น-ลงที่สุวรรณภูมิวานนี้ (4 ธ.ค.) จำนวน 20 เที่ยว ส่วนปริมาณเที่ยวบินของสนามบินดอนเมืองต่อวันนั้นลดลงจากเดิมวันละ 60 เที่ยวบิน เหลือเพียง 56 เที่ยวบินเท่านั้น
ส่วนสายการบิน พีบี แอร์ แจ้งว่า เที่ยวบินของสายการบินพีบี แอร์ เส้นทางต่างประเทศ กรุงเทพฯ – ดานัง – กรุงเทพฯ จะเริ่มให้บริการในวันที่ 6 ธ.ค. และสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศจะเริ่มให้บริการในวันที่ 7 ธ.ค. โดยทุกเที่ยวบิน ตามตารางการบินปกติ อย่างไรก็ตามผู้โดยสารสามารถติดต่อสำรองที่นั่ง เพื่อทำการซื้อบัตรโดยสารได้ที่ สำนักงานขาย พีบี แอร์ ( สำนักงานใหญ่ ) หรือ ตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารทั่วประเทศ และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 02-261-0220-5 (เวลา 08.30 – 17.30 น.) www.pbair.com
**บางกอกแอร์เวย์สเสียหาย 800 ล้าน
ม.ล.นันทิกา วรวรรณ รองผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สายการบินบางกอก แอร์เวย์ส กล่าวว่า ในวันนี้ (5 ธ.ค.) บางกอก แอร์เวย์ส จะเปิดให้บริการเช็กอินทั้งในและต่างประเทศให้กับผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตั้งแต่ 06.00 น. โดยจะมีบริการสายการบินขาเข้า 25 เที่ยวบิน ขาออก 19 เที่ยวบิน อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ในช่วงปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บางกอก แอร์เวย์ส เสียหายมูลค่าถึง 800 ล้านบาท เพราะช่วงเกิดเหตุการณ์ นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ยกเลิกเที่ยวบินเกือบหมด โดยปกติผู้โดยสารจะเดินทางเข้ามาประมาณ 15 ธ.ค. ทำให้ผู้โดยสารของบางกอก แอร์เวย์ส หายไปเกือบครึ่งหนึ่ง ดังนั้น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งสร้างภาพลักษณ์ และยืนยันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ซึ่งการจะดึงนักท่องเที่ยวให้มาในช่วงฤดูท่องเที่ยวของปีนี้คงไม่ทันแล้ว คงต้องพยายามให้เขามั่นใจมากขึ้น เพราะแม้มีการประท้วงเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองในประเทศต่าง ๆ นักท่องเที่ยวชินแล้ว แต่อย่าให้มาปิดประตูเดินทางกลับประเทศ เพราะถือว่ารุนแรงเกินไป
"เมื่อนักท่องเที่ยวตะวันตกไม่เข้ามาช่วงนี้ ก็คงหันไปเน้นนักท่องเที่ยวในประเทศและแถบเอเชียด้วยกัน เพื่อดึงกลับมาท่องเที่ยวไทย เพราะแหล่งท่องเที่ยวในต่างจังหวัดยังเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนบ้าน บวกกับอัธยาศัยที่ดีของคนไทย จึงคาดว่ายังพอมีนักท่องเที่ยวกลับมาบ้าง"
โดยวานนี้ (4 ธ.ค.) สายการบินบางกอก แอร์เวย์ส ประกาศให้บริการ 18 เที่ยวบิน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนเที่ยวบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-มาเก๊า และกรุงเทพฯ-กุ้ยหลิน จะเริ่มให้บริการในวันที่ 5 ธ.ค. ผู้โดยสารของบางกอก แอร์เวย์ส
**ดอนเมืองบิน 88 เที่ยวบิน
วันนี้ (5 ธ.ค.) ท่าอากาศยานดอนเมือง จะมีเที่ยวบินให้บริการทั้งขาเข้าและขาออกจำนวน 88 เที่ยวบิน แบ่งเป็นการบินไทย ขาเข้า 23 เที่ยวบิน ขาออก 23 เที่ยวบิน นกแอร์ ขาเข้า 14 เที่ยวบิน ขาออก 14 เที่ยวบิน วันทูโก ซึ่งได้รับอนุญาตให้บินอีกครั้งเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขาเข้า 7 ขาออก 7 เที่ยวบิน โดยสายการบินวันทูโกจะมีเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เวลา 07.50 น. ดอนเมือง-เชียงใหม่ ผู้โดยสารที่จะเดินทาง สามารถเช็ก-อิน ได้ที่เคาน์เตอร์ท่าอากาศยานดอนเมือง
ส่วนสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จะมีเที่ยวบินทั้งหมด 74 เที่ยวบิน ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 19 เที่ยว ขาเข้า 25 เที่ยวบิน โดยเที่ยวบินแรกที่ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 07.45 น. กรุงเทพฯ-สุโขทัย ซึ่งเที่ยวบินที่เดินทางช่วงเช้าให้ผู้โดยสารของบางกอกแอร์เวย์สเช็ก-อิน ที่สำนักงานใหญ่อย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเครื่องบินออก ส่วนเที่ยวบินตั้งแต่เวลา 12.00 น. เช็ก-อิน ได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
**คิงเพาเวอร์โอดเสียหาย 60 ล้าน
นายจุลจิตต์ บุณยเกตุ รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ กล่าวว่า บริษัทได้รับความเสียหายจากการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำให้ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีในสนามบินได้ คิดเป็นมูลค่าวันละ 60 ล้าน ซึ่งบริษัทจะเจรจากับทอท. เพื่อขอให้ช่วยเหลือในลักษณะการชดเชยให้บริษัท ถือเป็นการแจ้งความเดือดร้อนไปยังทอท.ส่วนจะได้รับความช่วยเหลืออะไรบ้างคงขึ้นกับการพิจารณา
**ทูตต่างชาติร้องป้องกันสนามบินเพิ่ม
สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า บรรดาเอกอัครราชทูตของประเทศต่างๆ ในไทย ได้เรียกร้องเมื่อวานนี้(4)ให้ทางการประเทศไทยเพิ่มการรักษาความปลอดภัยตามสนามบินต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดขัดเป็นอัมพาตสืบเนื่องจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลขึ้นมาอีก
เอกอัครราชทูตของสหรัฐฯ สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ ยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่อยู่ในวิกฤตการณ์ทางการเมืองของไทย ต้องเลิกคุกคามการดำเนินงานของสนามบินกันอีก
แถลงการณ์ร่วมของบรรดาเอกอัครราชทูตเหล่านี้ ได้แสดงความยินดีที่การปิดสนามบินเป็นเวลานาน 8 วันยุติลงได้ แต่ก็ระบุว่า "รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งและเห็นว่าเป็นการกระทำอันไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง" ที่ผู้ชุมนุมเข้าไปยึดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง
"เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดในการปรับปรุงระบบการป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้กับสนามบินทุกแห่งของไทย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการเข้ายึดสถานที่ในลักษณะเดียวกันนี้อีกในอนาคต" แถลงการณ์ระบุ
นอกจากนั้น บรรดาเอกอัครราชทูตยังได้เรียกร้องให้ "ทุกฝ่ายใส่ใจไม่เฉพาะเพียงการคุกคามการดำเนินการของสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง แต่จะต้องให้คำมั่นว่าจะไม่ขัดขวางการจราจรทางอากาศทั้งในกรุงเทพฯ และสนามบินอื่นๆ ในภูมิภาคด้วย"
นายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าในวันที่ 4 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา นายMokhtar A Awan ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO เข้าพบพร้อมสอบถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการปิดสนามบิน พร้อมได้เสนอแนะให้ประเทศไทยควรที่จะมีการเตรียมแผนสำรองฉุกเฉินในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ รวมถึงความพร้อมของสนามบินในการรองรับ
“ICAO บอกสนามบินที่เราใช้อยู่เช่นอู่ตะเภาไม่มีความพร้อม และฝากว่าระบบการบินของไทยควรมีแผนสำรองแก้ไขปัญหาฉุกเฉิน และมีมาตรการดูแลความปลอดภัย ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมเองพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะดังกล่าวและเตรียมที่จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ และศึกษากฎหมาย แนวทางการปฏิบัติงานของสนามบินในภาวะเช่นนี้จะทำอย่างไร เราต้องไปคิดแผน โดยเฉพาะที่ดอนเมือง และการพัฒนาสุวรรณภูมิเฟส 2 ว่ามีความจำเป็นหรือไม่” นายสุรชัยกล่าว
นอกจากนี้ทางICAO ยังได้แจ้งให้ทราบว่า จากภาวะวิกฤติทางการเมืองและการชุมนุมปิดสนามบินที่เกิดขึ้นทำให้ทาง ICAO จำเป็นต้องยกเลิกการจัดงานฉลองครบรอบ 60การจัดตั้งสำนักงานในประเทศไปออกไป เนื่องจากเกรงว่าจะมีความไม่สะดวก ประกอบกับการจัดงานครั้งนี้ได้เชิญตัวแทนเช่นรัฐมนตรีและฑูตจากประเทศต่างเข้าร่วมงานด้วย
**เสนอตั้งสุวรรณภูมิเขตปกครองพิเศษ
นายชัยวัฒน์ นวราช ประธานคณะกรรมการดำเนินการธุรกิจการบิน(AOC) กล่าวว่า เหตุการณ์ปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินของไทยอย่างมาก ดังนั้น AOC จึงได้เสนอให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการจัดตั้งคณะกรรมการซึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ในการสั่งการเพื่อปฏิบัติการได้จริง โดยไม่ติดขัดระเบียบราชการ และปราศจากการเมืองเข้ามาย่งเกี่ยว ทั้งนี้เพื่อฟื้นฟูธุรกิจการบินและการท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ เนื่องจากปัญหาที่ทำให้มีผู้ชุมนุมเข้าไปในท่าอากาศยานได้ง่าย โดยมีผู้แทนทั้ง สายการบิน AOC , สมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศไทย (TAFA) , บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท., การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน นอกจากนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิควรมีการปรับปรุงระบบดูแลรักษาความปลอดภัย โดยมีการจัดตั้งหน่วยรักษาความปลอดภัยติดอาวุธเป็นการเฉพาะที่ไม่อิงกับกองกำลังของภาครัฐ มาดูแลเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าในอนาคตสนามบินของไทย จะไม่ถูกบุกยึดหรือปิดล้อมได้โดยง่าย
นายชัยวัฒน์กล่าวยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทบต่อความเชื่อมั่นและรายได้ของสายการบินต่างๆ ดังนั้นหากมีการตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูดังกล่าวแล้ว จะมีการเสนอเพื่อให้ทอท.ปรับลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ลง เพื่อเป็นการจูงใจให้สายการบินต่างๆ ยังคงกลับมาใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นฐาน เพราะคาดว่าสายการบินอาจจะลดเที่ยวบินลงประมาณ 40% จึงต้องเร่งหามาตรการจูงใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาเร็วที่สุด
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า สนามบินดอนเมืองซึ่งกำหนดให้เป็นสนามบินสำรองนั้น ทอท.ควรพิจารณาเพิ่มเครื่องมือ อุปกรณ์ในการให้บริการภาคพื้นดินให้เพียงพอกับการรองรับหากมีเหตุการณ์สนามบินสุวรรณภูมิไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติด้วย อย่างไรก็ตามยังเห็นว่านโยบายเรื่อง Single Airport นั้นดีที่สุด แต่ต้องเพิ่มมาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภันให้เข้มข้นกว่านี้ ส่วนสายการบินต่างๆ นั้นในการบินแต่ละครั้งก็จะมีแผนสำรองอยู่แล้วหากสนามบินปลายทางมีปัญหาจะไปลงที่สนามบินใดบ้าง
**ยอมรับขาดประสิทธิภาพ รปภ.
นายโสภณ ซารัมย์ รักษาการ รมช.คมนาคม กล่าวยอมรับว่า การรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ผ่านมา ขาดประสิทธิภาพ และหย่อนยาน ซึ่งคงต้องตรวจสอบความบกพร่อง ทั้งเรื่องการรายงานข่าว และการรักษาความเพราะไม่ใช่เฉพาะเรื่องการชุมนุมของ กลุ่มพันธมิตรฯ เท่านั้น แต่มีเหตุการณ์อื่นๆ เช่น แท็กซี่แย่งผู้โดยสารกัน ซึ่งคงต้องตรวจสอบความบกพร่อง ทั้งเรื่องการรายงานข่าว และการรักษาความปลอดภัยเพื่อไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกโดยในวันนี้ (5ธ.ค.) เวลา 09.00น. จะมีการเชิญทูตมาเป็นสักขีพยานในการกลับมาเปิดใช้ ท่าอากาศยาน สนามบินสุวรรณภูมิ และจะมีหน่วยงานของสหรัฐ มาตรวจสอบความปลอดภัยซึ่งเป็นหน่วยงานที่ถือเป็นตัวแทนของสายการบินต่างๆ และได้รับความเชื่อถือ ซึ่งหากผ่านการรับรองมาตรฐานสายการบินในแถบยุโรป ก็ยินดีมาใช้บริการ ท่าอากาศยาน สนามบินสุวรรณภูมิด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่า ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ มีความพร้อมและจะผ่านการตรวจสอบมาตรฐานอย่างแน่นอน
**พลิกลิ้นพร้อมเปิด 5 ธ.ค.เต็มระบบ
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้งผู้โดยสารขาเข้า-ออกภายในประเทศและต่างประเทศอีกครั้งในวันที่ 5 ธ.ค.ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป โดยวานนี้ (4 ธ.ค.) ได้เปิดให้บริการสำหรับผู้โดยสารขาเข้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศแล้ว โดยผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ จะผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร และรอรับกระเป๋าได้ตามปกติ ซึ่งเที่ยวบินขาเข้าเที่ยวบินแรกในวันที่ 4 ธ.ค.นี้เป็นของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 3169 เดลลี-กรุงเทพฯ ถึง สุวรรณภูมิ ในเวลาประมาณ 06.00 น. อย่างไรก็ตามการให้บริการเที่ยวบินขาออกที่สุวรรณภูมินั้น ผู้โดยสารจะต้องไปเช็คอินที่ศูนย์เช็คอินชั่วคราวไบเทค บางนา ซึ่งผู้โดยสารจะต้องตรวจสอบข้อมูลจากสายการบินก่อน
“เที่ยวบินที่จะทำการบินที่ สนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ มีสายการบินต่าง ๆ แจ้งขอทำการบินแล้ว ซึ่งเป็นทั้งเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้า รวมทั้งสิ้น 101 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินขาเข้า 65 เที่ยวบิน เที่ยวบิน ขาออก 36 เที่ยวบิน โดยสายการบินที่ทำการบินในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ เช่น สายการบินไทย บางกอกแอร์เวย์ คาเธ่ย์แปซิฟิค สิงค์โปร์แอร์ไลน์ ไชน่าแอร์ไลน์ แจแปนแอร์ไลน์ เป็นต้น “นายเสรีรัตน์กล่าว
**ขนส่งสาธารณะสุวรรณภูมิพร้อมบริการ
นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า ระบบขนส่งสาธารณะภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสารและผู้ที่ต้องการใช้บริการตั้งแต่วานนี้ (4 ธ.ค.) ทั้งรถลีมูซีน, รถเช่า, รถเวียน (รถชัตเติ้ลบัส), รถแอร์พอร์ต เอ็กเพรส, รถบขส., ขสมก., และรถตู้ขสมก., จึงเชื่อว่าผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้า-ออกสนามบินสุวรรณภูมิจะไม่มีปัญหาแน่นอนโดยในวันนี้ (5 ธ.ค.) ศูนย์ขนส่งสาธารณะก็จะจัดคิวรถแท็กซี่มิเตอร์ไว้คอยบริการผู้โดยสารขาเข้าซึ่งอยู่ที่ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารตามปกติ ส่วนในเรื่องลานจอดรถที่เป็นลานจอดรถระยะไกลหรือ Long Term Parking และอาคารจอดรถหน้าอาคารผู้โดยสาร จะมีเจ้าหน้าที่ประจำเรียบร้อยและเปิดให้บริการตามปกติแล้วเช่นกัน
**ดอนเมืองเปิดเต็มรูปแบบแล้ว
ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า หลังจากที่ดอนเมืองเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา การบริการทั้งระบบรักษาความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวก การเช็กอินเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยืนยันว่าการให้บริการของท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่กำหนดไว้ แต่ยอมรับว่าจำนวนผู้โดยสารยังมีน้อย ซึ่งท่าอากาศยานดอนเมืองจะร่วมมือกับสายการบินต่าง ๆ เร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารได้รับข้อมูลว่าดอนเมืองเปิดให้บริการตามปกติแล้ว เพื่อให้ผู้โดยสารกลับมาใช้ตามปกติเฉลี่ยวันละ 1,100 คน หรือเที่ยวบินให้บริการ 60 เที่ยวบิน โดยวานนี้ (4 ธ.ค.) มีเที่ยวบินในประเทศทั้งสิ้น 56 เที่ยวบิน นกแอร์ 36 การบินไทย 20 เที่ยวบิน
**บินไทยของบรัฐดูแลนักท่องเที่ยวตกค้าง
นายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวยอมรับว่า การบินไทยคงไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้โดยสารที่ตกค้างทั้งในประเทศและต่างประเทศระหว่างที่กลุ่มพันธมิตรฯ ปิดล้อมสนามบินทั้ง 2 แห่งไม่ได้ ดังนั้นอาจจะมีการพิจารณาขอค่าชดเชยกับทางรัฐบาลด้วย ส่วนเที่ยวบิน ขึ้น-ลงที่สุวรรณภูมิวานนี้ (4 ธ.ค.) จำนวน 20 เที่ยว ส่วนปริมาณเที่ยวบินของสนามบินดอนเมืองต่อวันนั้นลดลงจากเดิมวันละ 60 เที่ยวบิน เหลือเพียง 56 เที่ยวบินเท่านั้น
ส่วนสายการบิน พีบี แอร์ แจ้งว่า เที่ยวบินของสายการบินพีบี แอร์ เส้นทางต่างประเทศ กรุงเทพฯ – ดานัง – กรุงเทพฯ จะเริ่มให้บริการในวันที่ 6 ธ.ค. และสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศจะเริ่มให้บริการในวันที่ 7 ธ.ค. โดยทุกเที่ยวบิน ตามตารางการบินปกติ อย่างไรก็ตามผู้โดยสารสามารถติดต่อสำรองที่นั่ง เพื่อทำการซื้อบัตรโดยสารได้ที่ สำนักงานขาย พีบี แอร์ ( สำนักงานใหญ่ ) หรือ ตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารทั่วประเทศ และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 02-261-0220-5 (เวลา 08.30 – 17.30 น.) www.pbair.com
**บางกอกแอร์เวย์สเสียหาย 800 ล้าน
ม.ล.นันทิกา วรวรรณ รองผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สายการบินบางกอก แอร์เวย์ส กล่าวว่า ในวันนี้ (5 ธ.ค.) บางกอก แอร์เวย์ส จะเปิดให้บริการเช็กอินทั้งในและต่างประเทศให้กับผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตั้งแต่ 06.00 น. โดยจะมีบริการสายการบินขาเข้า 25 เที่ยวบิน ขาออก 19 เที่ยวบิน อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ในช่วงปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บางกอก แอร์เวย์ส เสียหายมูลค่าถึง 800 ล้านบาท เพราะช่วงเกิดเหตุการณ์ นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ยกเลิกเที่ยวบินเกือบหมด โดยปกติผู้โดยสารจะเดินทางเข้ามาประมาณ 15 ธ.ค. ทำให้ผู้โดยสารของบางกอก แอร์เวย์ส หายไปเกือบครึ่งหนึ่ง ดังนั้น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งสร้างภาพลักษณ์ และยืนยันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ซึ่งการจะดึงนักท่องเที่ยวให้มาในช่วงฤดูท่องเที่ยวของปีนี้คงไม่ทันแล้ว คงต้องพยายามให้เขามั่นใจมากขึ้น เพราะแม้มีการประท้วงเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองในประเทศต่าง ๆ นักท่องเที่ยวชินแล้ว แต่อย่าให้มาปิดประตูเดินทางกลับประเทศ เพราะถือว่ารุนแรงเกินไป
"เมื่อนักท่องเที่ยวตะวันตกไม่เข้ามาช่วงนี้ ก็คงหันไปเน้นนักท่องเที่ยวในประเทศและแถบเอเชียด้วยกัน เพื่อดึงกลับมาท่องเที่ยวไทย เพราะแหล่งท่องเที่ยวในต่างจังหวัดยังเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนบ้าน บวกกับอัธยาศัยที่ดีของคนไทย จึงคาดว่ายังพอมีนักท่องเที่ยวกลับมาบ้าง"
โดยวานนี้ (4 ธ.ค.) สายการบินบางกอก แอร์เวย์ส ประกาศให้บริการ 18 เที่ยวบิน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนเที่ยวบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-มาเก๊า และกรุงเทพฯ-กุ้ยหลิน จะเริ่มให้บริการในวันที่ 5 ธ.ค. ผู้โดยสารของบางกอก แอร์เวย์ส
**ดอนเมืองบิน 88 เที่ยวบิน
วันนี้ (5 ธ.ค.) ท่าอากาศยานดอนเมือง จะมีเที่ยวบินให้บริการทั้งขาเข้าและขาออกจำนวน 88 เที่ยวบิน แบ่งเป็นการบินไทย ขาเข้า 23 เที่ยวบิน ขาออก 23 เที่ยวบิน นกแอร์ ขาเข้า 14 เที่ยวบิน ขาออก 14 เที่ยวบิน วันทูโก ซึ่งได้รับอนุญาตให้บินอีกครั้งเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขาเข้า 7 ขาออก 7 เที่ยวบิน โดยสายการบินวันทูโกจะมีเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เวลา 07.50 น. ดอนเมือง-เชียงใหม่ ผู้โดยสารที่จะเดินทาง สามารถเช็ก-อิน ได้ที่เคาน์เตอร์ท่าอากาศยานดอนเมือง
ส่วนสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จะมีเที่ยวบินทั้งหมด 74 เที่ยวบิน ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 19 เที่ยว ขาเข้า 25 เที่ยวบิน โดยเที่ยวบินแรกที่ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 07.45 น. กรุงเทพฯ-สุโขทัย ซึ่งเที่ยวบินที่เดินทางช่วงเช้าให้ผู้โดยสารของบางกอกแอร์เวย์สเช็ก-อิน ที่สำนักงานใหญ่อย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเครื่องบินออก ส่วนเที่ยวบินตั้งแต่เวลา 12.00 น. เช็ก-อิน ได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
**คิงเพาเวอร์โอดเสียหาย 60 ล้าน
นายจุลจิตต์ บุณยเกตุ รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ กล่าวว่า บริษัทได้รับความเสียหายจากการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำให้ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีในสนามบินได้ คิดเป็นมูลค่าวันละ 60 ล้าน ซึ่งบริษัทจะเจรจากับทอท. เพื่อขอให้ช่วยเหลือในลักษณะการชดเชยให้บริษัท ถือเป็นการแจ้งความเดือดร้อนไปยังทอท.ส่วนจะได้รับความช่วยเหลืออะไรบ้างคงขึ้นกับการพิจารณา
**ทูตต่างชาติร้องป้องกันสนามบินเพิ่ม
สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า บรรดาเอกอัครราชทูตของประเทศต่างๆ ในไทย ได้เรียกร้องเมื่อวานนี้(4)ให้ทางการประเทศไทยเพิ่มการรักษาความปลอดภัยตามสนามบินต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดขัดเป็นอัมพาตสืบเนื่องจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลขึ้นมาอีก
เอกอัครราชทูตของสหรัฐฯ สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ ยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่อยู่ในวิกฤตการณ์ทางการเมืองของไทย ต้องเลิกคุกคามการดำเนินงานของสนามบินกันอีก
แถลงการณ์ร่วมของบรรดาเอกอัครราชทูตเหล่านี้ ได้แสดงความยินดีที่การปิดสนามบินเป็นเวลานาน 8 วันยุติลงได้ แต่ก็ระบุว่า "รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งและเห็นว่าเป็นการกระทำอันไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง" ที่ผู้ชุมนุมเข้าไปยึดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง
"เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดในการปรับปรุงระบบการป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้กับสนามบินทุกแห่งของไทย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการเข้ายึดสถานที่ในลักษณะเดียวกันนี้อีกในอนาคต" แถลงการณ์ระบุ
นอกจากนั้น บรรดาเอกอัครราชทูตยังได้เรียกร้องให้ "ทุกฝ่ายใส่ใจไม่เฉพาะเพียงการคุกคามการดำเนินการของสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง แต่จะต้องให้คำมั่นว่าจะไม่ขัดขวางการจราจรทางอากาศทั้งในกรุงเทพฯ และสนามบินอื่นๆ ในภูมิภาคด้วย"
