xs
xsm
sm
md
lg

ทั่วโลกเซ็นห้ามระเบิดดาวกระจายที่ทำให้พลเรือนตาย-พิการนับแสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - ผู้แทนจากราว 100 ประเทศทั่วโลก ร่วมลงนามกันที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์เมื่อวันพุธ(3) ในสนธิสัญญาห้ามใช้ "ระเบิดดาวกระจาย" ซึ่งเป็นลูกระเบิดชนิดที่แตกกลางอากาศแล้วส่งลูกระเบิดเล็กๆ ที่อยู่ภายในให้กระจายไปเป็นบริเวณกว้าง จนเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิตพลเรือน ทว่าประเทศใหญ่ที่เป็นผู้ผลิตระเบิดชนิดดังกล่าว ได้แก่ จีน รัสเซีย และสหรัฐฯ ต่างยังไม่ยอมลงนามด้วย
สนธิสัญญาดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบในที่ประชุมที่กรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์เมื่อเดือนพฤษภาคม โดยมีสาระสำคัญคือ ให้ถือว่าการใช้ การผลิต ตลอดจนการขนย้ายและสะสมระเบิดดาวกระจายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และให้ประเทศที่ร่วมลงนามในสนธิสัญญานี้ถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องช่วยเหลือประเทศหรือบุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของอาวุธชนิดนี้ด้วย
"นี่เป็นครั้งหนึ่งในปรากฏการณ์ที่มีน้อยครั้งมากในประวัติศาสตร์ที่มีการห้ามใช้อาวุธอย่างครบถ้วนทั้งประเภท" ทอมัส แนช แห่งกลุ่มเครือข่ายความร่วมมือต่อต้านระเบิดดาวกระจาย (Cluster Munitions Coalition - CMC)ซึ่งประกอบด้วยองค์กรเอ็นจีโอราว 300 แห่งกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อมีการปล่อยระเบิดดาวกระจายลงจากเครื่องบินหรือใช้เป็นกระสุนปืนใหญ่ ระเบิดชนิดนี้จะเกิดการระเบิดกลางอากาศ ทำให้ลูกระเบิดขนาดเล็กนับร้อยๆ ลูกแตกกระจายไปอย่างไร้ทิศทาง
ลูกระเบิดขนาดเล็กเหล่านี้อาจมีขนาดราว 3 นิ้ว และมีจำนวนมากที่ไม่เกิดการระเบิดเมื่อตกลงถึงพื้นดิน จึงก่อปัญหาใหญ่ในการฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ภายหลังสงคราม เนื่องจากลูกระเบิดเล็กๆ เหล่านี้จะเสมือนเป็นกับระเบิดจำนวนมากมาย ถึงแม้ว่าตั้งแต่เมื่อปี 1997 นานาชาติก็ได้มีการลงนามในสนธิสัญญาห้ามใช้กับระเบิด ที่กรุงออตตาวา แคนาดาไปแล้ว
ข้อมูลจากองค์กรผู้พิการระหว่างประเทศระบุว่า นับตั้งแต่ปี 1965 เป็นต้นมา มีผู้คนราว 100,000 คนทั่วโลกต้องพิการหรือเสียชีวิตเพราะระเบิดดาวกระจาย โดยในจำนวนนี้เป็นพลเรือนถึงร้อยละ 98 และเหยื่อมากกว่าหนึ่งในสี่เป็นเด็กที่เข้าใจผิดว่าลูกระเบิดขนาดเล็กเหล่านั้นเป็นตุ๊กตาหรืออาหารกระป๋อง
โสรัจ ฮาบิบ ชาวอัฟกานิสถานวัย 16 ปี เล่าว่าระหว่างที่เขาเดินกลับบ้านที่เมืองเฮรัตเมื่อปี 2002 เขาพบระเบิดดาวกระจายของสหรัฐฯ อยู่ที่ข้างทาง "ผมคิดว่ามันเป็นอาหารกระป๋องเลยพยายามเปิดออก แต่ก็ทำไม่ได้ มันระเบิดตอนที่ผมโยนมันลงพื้น"
หลังจากนั้น ฮาบิบขาขาดสองข้าง นิ้วขาดหนึ่งนิ้ว ส่วนลูกพี่ลูกน้องของเขาคนหนึ่งเสียชีวิต
ส่วนที่ลาว ซึ่งได้รับผลกระทบจากระเบิดดาวกระจายมากที่สุดในโลก เนื่องจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ทิ้งระเบิดชนิดนี้ถึง 260 ล้านลูกในระหว่างปี 1964-1973 ซึ่งเทียบเท่ากับการที่เครื่องบินทิ้งระเบิดบี-52 บรรทุกระเบิดเต็มพิกัด ทิ้งระเบิดทุกๆ 8 นาที เป็นเวลาถึงนาน 9 ปี
ระเบิดดาวกระจายนี้กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปทั้งตามไร่นาและทุ่งหญ้า ทำให้การเพาะปลูกมีความเสี่ยงอันตรายสูง อีกทั้งยังทำให้มีผู้เสียชีวิตอีกมากมายแม้สงครามจะยุติลงแล้วหลายสิบปีก็ตาม
"สนธิสัญญาฉบับนี้เป็นสนธิสัญญาแห่งประวัติศาสตร์" ฮาบิบกล่าวถึงการห้ามใช้ระเบิดดาวกระจาย "มันจะช่วยป้องกันไม่ให้เด็กคนอื่นๆ ต้องเป็นแบบผม"
อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตและผู้ใช้ระเบิดดาวกระจายรายใหญ่ที่สุดในโลกคือสหรัฐฯ รัสเซีย จีน อิสราเอล อินเดีย และปากีสถาน ได้คัดค้านการห้ามใช้ระเบิดดังกล่าวอีกทั้งยังปฏิเสธลงนามในสนธิสัญญาฉบับนี้ด้วย ในขณะที่สมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) 18 ประเทศจากทั้งหมด 26 ประเทศกล่าวว่าจะร่วมลงนามในสนธิสัญญานี้ เช่นเดียวกับฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่น แคนาดา และออสเตรเลีย
แม้ว่าจะมีประเทศใหญ่ๆ ไม่ยอมร่วมลงนามในสนธิสัญญาครั้งนี้ ทว่า พวกนักรณรงค์ก็เห็นว่าสนธิสัญญาออสโลฉบับนี้ จะทำให้การใช้ระเบิดดาวกระจายเป็นสิ่งที่พึงถูกประณาม อีกทั้งมีแนวโน้มว่าจะไม่มีการใช้ระเบิดดาวกระจายจำนวนมากมายมหาศาลเช่นที่ผ่านมาอีกต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น