ศูนย์เชียงใหม่-วงการท่องเที่ยวเชียงใหม่ฝันสลาย หวังโกยรายได้จากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หลังรัฐบาล “ชายกระโปรง”หมดอำนาจประกาศเลื่อนออกไปเป็นปีหน้า วงการโรงแรมสูญรายได้ทันทีกว่า 600 ล้านบาท ยังไม่รวมธุรกิจที่รอรับอานิสงส์ครั้งนี้อีกไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เผยหลังจากนี้ต้องหาวิธีการทำตลาดเพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปพร้อมกับเตรียมรับศึกด้านเศรษฐกิจที่หนักหน่วงในปีหน้า
นายกนก สุวรรณวิสูตร์ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ เปิดเผยถึงผลกระทบที่เกิดจากการที่รัฐบาลประกาศเลื่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน จากวันที่ 15-18 ธันวาคม 2551 ไปเป็นเดือนมีนาคม 2552 ซึ่งเป็นผลจากที่พรรคการเมือง 3 พรรคถูกยุบพรรค ว่า วงการโรงแรมได้รับผลกระทบแน่นอนโดยเฉพาะโรงแรมที่ถูกจองให้เป็นสถานที่ประชุมและงานเลี้ยงเป็นหลักอย่างโรงแรมแชงการีล่า โรงแรมโอเรียลเต็ลดาราเทวี และโรงแรมดิเอ็มเพรส
ส่วนโรงแรมอื่น ๆ อีกเกือบ 20 แห่งจะเป็นสถานที่สำหรับที่พักของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวมทั้งผู้ติดตามจากต่างประเทศอีก ซึ่งก็ล้วนต้องสูญเสียรายได้และเสียโอกาสที่ไม่สามารถรับจองงานอื่น ๆ หรือห้องพักสำหรับลูกค้ารายอื่น ได้เลย ซึ่งจากการประเมินรายได้ที่ต้องสูญเสียไปทันทีในช่วงดังกล่าวนี้กว่า 600 ล้านบาท ยังไม่นับรวมธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่จะต้องได้รับอานิสงส์จากการประชุมฯครั้งนี้อีกไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
นายกนก กล่าวต่อไปว่า เชื่อว่าโรงแรมแต่ละแห่งที่ถูกจองสำหรับงานประชุมฯในครั้งนี้ต่างสูญเสียรายได้กันหมด เนื่องจากที่ผ่านมาภาครัฐไม่มีนโยบายที่จะวางเงินมัดจำ เหมือนกับกรณีของภาคเอกชนที่หากมีการจัดเลี้ยงหรือจองห้องประชุมต่าง ๆ โดยทั่วไปแล้วตามธรรมเนียมจะต้องวางมัดจำไว้ประมาณ 30 %ของยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมด หลังจากนี้คงต้องกลับมาดูกันใหม่ว่าจะต้องทำด้านการตลาดในรูปแบบไหนได้บ้าง เพื่อหารายได้มาชดเชยกับที่ได้มีการตั้งเป้ากันเอาไว้ เพราะถึงอย่างไรช่วงนี้ก็ยังเป็นช่วงไฮซีซันที่ยังคงมีนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในประเทศที่ยังต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวในภาคเหนือ และหากสถานการณ์การเมืองในประเทศคลี่คลายก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี
นายกนก กล่าวถึงภาวะการท่องเที่ยวในปี 2552 ว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.เชียงใหม่ มีสัดส่วนประมาณ 18% ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งประเทศ และช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวไทยลดลงไปกว่า 50% เพราะปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ช่วงไฮซีซันทุกปี จึงถือเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการจะเร่งทำตลาด เพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในช่วงโลว์ซีซัน แต่ปีนี้เรียกว่าทุกอย่างหายไป เกรงว่าถ้าสถานการณ์ปี 2552 ไม่ดีขึ้นต่อเนื่อง อาจถึงขั้นต้องปลดพนักงาน เพราะค่าใช้จ่ายส่วนนี้มีสัดส่วนมากถึง 25 - 30% แม้ว่าการปลดพนักงานจะเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการพยายามหลีกเลี่ยง เพราะการรับสมัครพนักงานใหม่ต้องเสียเวลาเทรนใหม่เช่นกัน การบรรเทาปัญหาเบื้องต้นในเวลานี้จึงเน้นที่การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ขอความร่วมมือเพิ่มวันหยุดพนักงานเป็นสัปดาห์ละ 2 -3 วัน จากเดิมให้หยุดคนละ 1 วัน
"ผมคาดว่าหลังจากปิดสนามบิน อีก 3 เดือนข้างหน้า แม้จะเปิดให้บริการแล้วแต่จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเพียง 20% เท่านั้น เพราะส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ และมองว่าผ่านไปอีก 6 เดือน นักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับเข้ามาเพียง 30% " นายกนก กล่าว
ด้านนายวรพงษ์ หมู่ชาวใต้ อุปนายกฝ่ายการตลาดสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนจากเดิมวันที่ 15-18 ธันวาคม 2551 เป็นเดือน มีนาคม 2552 ในส่วนของธุรกิจโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน โดยเฉพาะยอดการจองห้องพักของโรงแรม 16 แห่ง ซึ่งถูกจองเพื่อการประชุมในครั้งนี้ต้องสูญเสียรายได้ทั้งหมด ทำให้โรงแรมหลายแห่งต้องเร่งทำการตลาด เพื่อดึงลูกค้าให้เข้ามาพักในช่วงนี้ ทดแทน
“การเลื่อนประชุมในครั้งนี้เป็นดาบสองซ้ำเติมธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวเชียงใหม่ จากเดิมที่มีการปิดสนามบินทำให้นักท่องเที่ยวติดค้างในจังหวัดเชียงใหม่ และสูญเสียรายได้โดยรวมของธุรกิจท่องเที่ยววันละ 80 ล้านบาท ยังถูกซ้ำเติมจากการเลื่อนการประชุมอีก” นายวรพงษ์ กล่าว
ด้านแหล่งข่าวจากวงการธุรกิจท่องเที่ยวในเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่มีการประเมินกันว่าเชียงใหม่ต้องสูญเสียรายได้ในส่วนนี้จำนวนมหาศาล เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงไฮซีซัน ประกอบกับเป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีปัญหาอย่างมาก ทำให้มีจำนวนของผู้ที่หวังจะมีรายได้จากการประชุมครั้งนี้จำนวนมาก โดยเฉพาะบรรดาธุรกิจเอสเอ็มอี ทั้งหลายต่างพากันจ้างแรงงานตามหมู่บ้านที่เป็นศูนย์โอทอปต่าง ๆ ผลิตสินค้าของที่ระลึก เพื่อนำมาจำหน่ายในงานนี้ต่างพากันสูญเสียรายได้แต่ก็ต้องหาเงินไปจ่ายให้แก่แรงงานต่าง ๆ ที่จ้างทำสินค้าไปแล้ว
“เราไม่รู้ว่างานประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ถูกเลื่อนออกไปจะกลับมาประชุมที่เชียงใหม่อีกหรือเปล่า เพราะหากมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ก็ไม่แน่ว่าครั้งหน้าที่บอกว่าเลื่อนไปเดือนมีนาคมปีหน้า อาจจะไปจัดที่กรุงเทพฯหรือภาคอื่นก็ได้”แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม จังหวัดเชียงใหม่ได้ตั้งงบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ไว้ทั้งหมดกว่า 47 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการปรับปรุงภูมิทัศน์ การติดตั้งอุปกรณ์การประชุมในสถานที่ต่าง ๆรวมทั้งการประดับธงชาติต่างๆ ตามเส้นทางรอบเมืองเชียงใหม่ เป็นต้น โดยงานบางส่วนได้เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว