วานนี้(2 ธ.ค.) เวลา 00.15 น.เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนยิงระเบิด เอ็ม 79 เข้าไปภายในอาคารผู้โดยสารขาเข้าดอนเมือง ซึ่งเป็นที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้กระจกแตกกระจายเป็นรูกระสุนทะลุเข้าไปด้านในตัวอาคาร จนทำให้ผู้ชุมนุมที่กำลังนอนพักผ่อนต่างหนีตายกันอลหม่าน และมีผู้ถูกกระสุน และเศษกระจกบาดได้รับบาดเจ็บหลายราย
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่การ์ดพันธมิตรฯ และเจ้าหน้าที่พยาบาลอาสา ต่างช่วยนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล 2 รายคือ น.ส.พรรณฉวี สุภัทรพงศ์ อายุ 66 ปี ถูกสเก็ดระเบิดเข้าบริเวณศรีษะ และนายปิยะชาติ แดงพวงไพบูลย์ อายุ 30 ปี อาสาสมัครพยาบาล ถูกสเก็ดระเบิดบริเวณหัวเข่า ,โรงพยาบาลภูมิพล จำนวน 7 ราย และ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ 14 ราย
นอกจากนี้มีผู้เสียชีวิต 1 รายคือ นายรณชัย ไชยศรี อายุ 29 ปี ชาว อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ถูกเสก็ดระเบิดเข้าที่ช่องท้องเลือดออกภายในทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ 2 รายคือนายประสงค์ ฆ้องประสูตร อายุ 55 ปี และ นายสมศักดิ์ ชัยสุวรรณ อายุ 46 ปี ถูกสเก็ดระเบิดเข้าบริเวณช่องท้อง แพทย์ต้องทำการผ่าตัดโดยใช้เครื่องช่วยหายใจ
นายเกรียงไกร เปียอยู่ การ์ดอาสาจากจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะเดินลาดตระเวนได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวจึงมองไปที่ บนทางด่วนโทรเวลย์พบผู้ชายเดินอยู่ตนจึงชี้บอกให้เพื่อนการ์ดด้วยกันว่าเป็นคนร้าย จากนั้นคนที่อยู่บนทางด่วนก็หลบแล้วขับรถหนีไป
คนที่กระทำแบบนี้ถือว่าต่ำทรามมากมาทำกับประชาชนที่ไม่รู้เรื่อง แน่จริงก็น่าจะมาทำกับการ์ดอาสาดีกว่า คนร้ายน่าจะจอดรถไว้บนทางด่วนฝั่งขาออกแล้วปีนข้ามถนนมาฝั่งขาเข้า จากนั้นใช้ปืนยิงเข้ามาในวิถีประมาณ 45 องศา ก่อนที่จะวิ่งกลับไปขึ้นรถมุ่งหน้าขาออกไปรังสิต
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งมาตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ และเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บ พร้อมทั้งให้ผู้ชุมนุมทั้งหมด มาชุมมุนที่บริเวณเวทีปราศรัย เพราะเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุด
หลังเกิดเหตุระบิดที่ดอนเมือง บรรยากาศการชุมนุมอยู่ในอาการหวาดผวา และมีการให้การ์ดตรวจพื้นที่ เมื่อพบสิ่งผิดปกติก็มีการสั่งให้ผู้ร่วมชุมนุมหมอบลงเป็นระยะ
นายสาวิตย์ แก้วหวาน และทีมการ์ดของ สรส. ได้ออกตรวจตราพื้นที่เกิดเหตุ โดยได้แสดงความผิดหวังการรักษาความปลอดภัยของตำรวจแม้ว่าจะมีการออกมาตราการลาดตระเวนร่วมกัน แต่ก็ไม่สามารถสกัดกั้นความรุนแรงได้
พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ โฆษก บช.น.เปิดเผยถึงการดูแลความปลอดภัยสนามบินดอนเมืองว่า ตำรวจได้วางมาตรการดูแลความปลอดภัยในภาพรวม โดยรอบสนามบินดอนเมือง ส่วนที่มีการยิงระเบิด เอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯนั้น ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เร่งประสานกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเพื่อตรวจสอบโทรทัศน์วงจรปิดบนทางด่วนโทลล์เวย์ ซึ่งอาจจะเป็นจุดที่คาดว่า คนร้ายใช้เป็นจุดยิง
ส่วนการดูแลพื้นที่นั้นขณะนี้ตำรวจจะวางมาตรการให้เข้มข้นมากขึ้น และจะประสานกับทหารเพื่อตรวจพื้นที่ร่วมกับตำรวจ ป้องกันผู้ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์
แพทย์เผยเสียชีวิต 1โคม่า 1 ราย
นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผอ.ศูนย์เอราวัณ กทม.กล่าวว่า ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 23 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย 13 ราย หญิง 10 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าว คือนายรณชัย ไชยศรี อายุ 29 ปี ชาว อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยถูกสะเก็ดระเบิดที่หลังทะลุช่องท้อง เสียเลือดจำนวนมาก ได้เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 01.10 น.
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินรพ.มงกุฎวัฒนะ แจ้งว่า สำหรับศพของ นายรณชัยนั้น สาเหตุการเสียชีวิตคาดว่ามาจาการเสียเลือดมาก ตามร่างกายมีเลือดออกตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลไม่มีหน่วยนิติเวช จึงไม่สามารถผ่าตัดชันสูตรศพได้ ขณะนี้ต้องรอให้ญาติผู้เสียชีวิตเป็นผู้ติดต่อขอรับศพก่อน ซึ่งขณะนี้สามารถติดต่อญาติของนายรณชัยได้แล้ว
ด้านนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในจำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมด ทีมแพทย์ได้ทำแผลและอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 15 ราย รับไว้นอนรักษาในโรงพยาบาล 7 ราย โดยอยู่ที่ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช 4 ราย เป็นชาย 3 ราย และอยู่ในห้องสังเกตอาการ 1 รายเป็นหญิง ที่รพ.มงกุฎวัฒนะ 2 รายเป็นชายทั้งหมด และที่รพ.เซ็นทรัล เย็นเนอรัล 1 ราย เป็นหญิง
ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บที่รักษาในรพ.ภูมิพลอดุลยเดชทั้ง 4 รายรู้สึกตัวดี มี 1 รายแพทย์วางแผนผ่าตัดวานนี้ คือนายศุภชัย วงษ์จำลอง อายุ 44 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณหน้าอก แขนขา เท้า และที่นิ้วเท้า บาดแผลค่อนข้างสกปรก อาการไม่สาหัส ที่รพ.มงกุฎวัฒนะทั้ง 2 ราย อาการทั่วไปดี ถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกายเล็กน้อย แพทย์ทำแผล เอาสะเก็ดระเบิดออก หากไม่มีอาการแทรกซ้อน จะอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันนี้
ส่วนที่รพ.เซ็นทรัล เยนเนอรัล 1 ราย คือนางสาวพรรณฉวี สุพัฒพงษ์ อายุ 66 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะ สะเก็ดฝังใน มีเลือดออกในสมอง แพทย์ผ่าตัดแล้ว หลังผ่าตัดนอนอยู่ไอซียู ยังมีอาการซึม ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย แพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
นพ.ปราชญ์ กล่าวต่อไปว่า สธ.ได้ให้ศูนย์นเรนทร ร่วมกับศูนย์เอราวัณของ กทม. จัดทีมแพทย์ฉุกเฉินประจำการที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การดูแลผู้บาดเจ็บฉุกเฉินอย่างเต็มที่
กมลวรรณเสียชีวิตด้วยภาวะสมองตาย
รศ.นพ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ขณะนี้น.ส.กมลวรรณ หมื่นหนู อายุ 27 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุระเบิดที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อเวลา 06.00 น. ของวันที่ 2 ธ.ค.เนื่องจากภาวะสมองตายอย่างสิ้นเชิง โดยมีเลือดออกในสมอง มีสะเก็ดระเบิดฝังเนื้อสมอง ทำให้สมองบวมช้ำ มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ แพทย์ได้ปรึกษาญาติถึงแนวทางการรักษาต่อ โดยทางญาติตัดสินใจจะไม่ยื้อชีวิตต่อไป แพทย์จึงได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออก โดยทางญาติได้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะของผู้เสียชีวิตเพื่อเปลี่ยนถ่ายอวัยวะให้กับผู้ป่วยรายอื่น ซึ่งทีมแพทย์ได้ผ่าตัด นำหัวใจ ตับ ไต 2 ข้าง มอบผ่านสภากาชาดไทยเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ญาติผู้เสียชีวิตได้นำศพออกจากโรงพยาบาลไปเมื่อเวลา 15.30 น.
อนึ่ง นับตั้งแต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ชุมนุมในวันที่ 25 พ.ค.51 มีผู้เสียชีวิตไปแล้วทั้งสิ้น 7 ราย ประกอบด้วย 1.น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ 2. พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี 3.นายยุทธพงษ์ เสมอภาค 4.นายรณชัย ไชยศรี 5.น.ส.กมลวรรณ หมื่นหนู 6.นายเจนกิจ กลัดสาคร และ 7.นายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่การ์ดพันธมิตรฯ และเจ้าหน้าที่พยาบาลอาสา ต่างช่วยนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล 2 รายคือ น.ส.พรรณฉวี สุภัทรพงศ์ อายุ 66 ปี ถูกสเก็ดระเบิดเข้าบริเวณศรีษะ และนายปิยะชาติ แดงพวงไพบูลย์ อายุ 30 ปี อาสาสมัครพยาบาล ถูกสเก็ดระเบิดบริเวณหัวเข่า ,โรงพยาบาลภูมิพล จำนวน 7 ราย และ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ 14 ราย
นอกจากนี้มีผู้เสียชีวิต 1 รายคือ นายรณชัย ไชยศรี อายุ 29 ปี ชาว อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ถูกเสก็ดระเบิดเข้าที่ช่องท้องเลือดออกภายในทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ 2 รายคือนายประสงค์ ฆ้องประสูตร อายุ 55 ปี และ นายสมศักดิ์ ชัยสุวรรณ อายุ 46 ปี ถูกสเก็ดระเบิดเข้าบริเวณช่องท้อง แพทย์ต้องทำการผ่าตัดโดยใช้เครื่องช่วยหายใจ
นายเกรียงไกร เปียอยู่ การ์ดอาสาจากจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะเดินลาดตระเวนได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวจึงมองไปที่ บนทางด่วนโทรเวลย์พบผู้ชายเดินอยู่ตนจึงชี้บอกให้เพื่อนการ์ดด้วยกันว่าเป็นคนร้าย จากนั้นคนที่อยู่บนทางด่วนก็หลบแล้วขับรถหนีไป
คนที่กระทำแบบนี้ถือว่าต่ำทรามมากมาทำกับประชาชนที่ไม่รู้เรื่อง แน่จริงก็น่าจะมาทำกับการ์ดอาสาดีกว่า คนร้ายน่าจะจอดรถไว้บนทางด่วนฝั่งขาออกแล้วปีนข้ามถนนมาฝั่งขาเข้า จากนั้นใช้ปืนยิงเข้ามาในวิถีประมาณ 45 องศา ก่อนที่จะวิ่งกลับไปขึ้นรถมุ่งหน้าขาออกไปรังสิต
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งมาตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ และเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บ พร้อมทั้งให้ผู้ชุมนุมทั้งหมด มาชุมมุนที่บริเวณเวทีปราศรัย เพราะเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุด
หลังเกิดเหตุระบิดที่ดอนเมือง บรรยากาศการชุมนุมอยู่ในอาการหวาดผวา และมีการให้การ์ดตรวจพื้นที่ เมื่อพบสิ่งผิดปกติก็มีการสั่งให้ผู้ร่วมชุมนุมหมอบลงเป็นระยะ
นายสาวิตย์ แก้วหวาน และทีมการ์ดของ สรส. ได้ออกตรวจตราพื้นที่เกิดเหตุ โดยได้แสดงความผิดหวังการรักษาความปลอดภัยของตำรวจแม้ว่าจะมีการออกมาตราการลาดตระเวนร่วมกัน แต่ก็ไม่สามารถสกัดกั้นความรุนแรงได้
พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ โฆษก บช.น.เปิดเผยถึงการดูแลความปลอดภัยสนามบินดอนเมืองว่า ตำรวจได้วางมาตรการดูแลความปลอดภัยในภาพรวม โดยรอบสนามบินดอนเมือง ส่วนที่มีการยิงระเบิด เอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯนั้น ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เร่งประสานกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเพื่อตรวจสอบโทรทัศน์วงจรปิดบนทางด่วนโทลล์เวย์ ซึ่งอาจจะเป็นจุดที่คาดว่า คนร้ายใช้เป็นจุดยิง
ส่วนการดูแลพื้นที่นั้นขณะนี้ตำรวจจะวางมาตรการให้เข้มข้นมากขึ้น และจะประสานกับทหารเพื่อตรวจพื้นที่ร่วมกับตำรวจ ป้องกันผู้ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์
แพทย์เผยเสียชีวิต 1โคม่า 1 ราย
นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผอ.ศูนย์เอราวัณ กทม.กล่าวว่า ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 23 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย 13 ราย หญิง 10 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าว คือนายรณชัย ไชยศรี อายุ 29 ปี ชาว อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยถูกสะเก็ดระเบิดที่หลังทะลุช่องท้อง เสียเลือดจำนวนมาก ได้เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 01.10 น.
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินรพ.มงกุฎวัฒนะ แจ้งว่า สำหรับศพของ นายรณชัยนั้น สาเหตุการเสียชีวิตคาดว่ามาจาการเสียเลือดมาก ตามร่างกายมีเลือดออกตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลไม่มีหน่วยนิติเวช จึงไม่สามารถผ่าตัดชันสูตรศพได้ ขณะนี้ต้องรอให้ญาติผู้เสียชีวิตเป็นผู้ติดต่อขอรับศพก่อน ซึ่งขณะนี้สามารถติดต่อญาติของนายรณชัยได้แล้ว
ด้านนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในจำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมด ทีมแพทย์ได้ทำแผลและอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 15 ราย รับไว้นอนรักษาในโรงพยาบาล 7 ราย โดยอยู่ที่ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช 4 ราย เป็นชาย 3 ราย และอยู่ในห้องสังเกตอาการ 1 รายเป็นหญิง ที่รพ.มงกุฎวัฒนะ 2 รายเป็นชายทั้งหมด และที่รพ.เซ็นทรัล เย็นเนอรัล 1 ราย เป็นหญิง
ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บที่รักษาในรพ.ภูมิพลอดุลยเดชทั้ง 4 รายรู้สึกตัวดี มี 1 รายแพทย์วางแผนผ่าตัดวานนี้ คือนายศุภชัย วงษ์จำลอง อายุ 44 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณหน้าอก แขนขา เท้า และที่นิ้วเท้า บาดแผลค่อนข้างสกปรก อาการไม่สาหัส ที่รพ.มงกุฎวัฒนะทั้ง 2 ราย อาการทั่วไปดี ถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกายเล็กน้อย แพทย์ทำแผล เอาสะเก็ดระเบิดออก หากไม่มีอาการแทรกซ้อน จะอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันนี้
ส่วนที่รพ.เซ็นทรัล เยนเนอรัล 1 ราย คือนางสาวพรรณฉวี สุพัฒพงษ์ อายุ 66 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะ สะเก็ดฝังใน มีเลือดออกในสมอง แพทย์ผ่าตัดแล้ว หลังผ่าตัดนอนอยู่ไอซียู ยังมีอาการซึม ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย แพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
นพ.ปราชญ์ กล่าวต่อไปว่า สธ.ได้ให้ศูนย์นเรนทร ร่วมกับศูนย์เอราวัณของ กทม. จัดทีมแพทย์ฉุกเฉินประจำการที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การดูแลผู้บาดเจ็บฉุกเฉินอย่างเต็มที่
กมลวรรณเสียชีวิตด้วยภาวะสมองตาย
รศ.นพ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ขณะนี้น.ส.กมลวรรณ หมื่นหนู อายุ 27 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุระเบิดที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อเวลา 06.00 น. ของวันที่ 2 ธ.ค.เนื่องจากภาวะสมองตายอย่างสิ้นเชิง โดยมีเลือดออกในสมอง มีสะเก็ดระเบิดฝังเนื้อสมอง ทำให้สมองบวมช้ำ มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ แพทย์ได้ปรึกษาญาติถึงแนวทางการรักษาต่อ โดยทางญาติตัดสินใจจะไม่ยื้อชีวิตต่อไป แพทย์จึงได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออก โดยทางญาติได้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะของผู้เสียชีวิตเพื่อเปลี่ยนถ่ายอวัยวะให้กับผู้ป่วยรายอื่น ซึ่งทีมแพทย์ได้ผ่าตัด นำหัวใจ ตับ ไต 2 ข้าง มอบผ่านสภากาชาดไทยเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ญาติผู้เสียชีวิตได้นำศพออกจากโรงพยาบาลไปเมื่อเวลา 15.30 น.
อนึ่ง นับตั้งแต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ชุมนุมในวันที่ 25 พ.ค.51 มีผู้เสียชีวิตไปแล้วทั้งสิ้น 7 ราย ประกอบด้วย 1.น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ 2. พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี 3.นายยุทธพงษ์ เสมอภาค 4.นายรณชัย ไชยศรี 5.น.ส.กมลวรรณ หมื่นหนู 6.นายเจนกิจ กลัดสาคร และ 7.นายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา
