xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนฝากความหวังผู้ว่าฯใหม่ ดันภูเก็ตเป็นเขตศก.พิเศษ-ปลอดภาษี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปรีชา เรืองจันทร์
ศูนย์ข่าวภูเก็ต –ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ตฝากความหวังผู้ว่าฯใหม่ ดันภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ แก้ปัญหาขาดงบลงทุนพัฒนา พร้อมทำภูเก็ตเป็นเขตปลอดภาษี และถนนคนเดิน หวังดึงนักท่องเที่ยวให้เข้าภูเก็ตมากยิ่งขึ้น ผู้ว่าฯรับปากผลักดันตามความต้องการของเอกชน เพื่อร่วมกันพัฒนาภูเก็ต พร้อมวอนทุกฝ่ายช่วยกันรักษาสิ่งที่ดีของภูเก็ตไว้ทั้ง ธรรมชาติ วัฒนธรรมและความมีน้ำใจ เพื่อความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ยั่งยืนตลอดไป

เมื่อเร็วๆนี้ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ หอการค้าจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ร่วมกันจัดเสวนา "ปัญหาการท่องเที่ยว ภาครัฐและเอกชน" โดยได้เชิญนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กับนายเศรษฐพันธ์ พุทธาณี ผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต เป็นองค์ปาฐก มีนายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกฝ่ายการตลาดสมาคมฯ เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งมีสมาชิกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ และภาคเอกชน เข้าร่วมเสวนาเป็นจำนวนมาก

นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ต เป็นจังหวัดเดียวของประเทศที่มีลักษณะเป็นเกาะ และมีเสน่ห์จนส่งผลให้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนและเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนที่จะเดินทางมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้วาดภาพไว้ว่าภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบในทุกๆด้านสมกับเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติที่คนจากทั่วโลกเดินต้องการเดินทางมาพักผ่อน แต่เมื่อมาถึงกลับไม่เป็นไปตามที่วาดฝันไว้ ในระหว่างนั่งเครื่องบินก่อนถึงสนามบินมองลงมาข้างล่างกลับเห็นภูเขาซึ่งน่าจะเขียวชอุ่ม กลับเจอภูเก็ตภูเขาสีแดง จึงต้องปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ ซึ่งกดดันพอสมควรและถือเป็นความท้ายทาย เพราะทุกคนย่อมที่จะคาดหวังกับการได้ผู้ว่าฯคนใหม่ในการมาแก้ปัญหาต่างๆ

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่าภูเก็ตจะประสบกับปัญหามากมายที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่คิดว่าภูเก็ตคงจะมีดีในตัวเอง จึงทำให้ใครๆ อยากที่จะเดินทางเข้ามาลงทุนและเข้ามาท่องเที่ยว ซึ่งในความคิดของตนเห็นว่าภูเก็ตมีดีอยู่ 3 ประการ คือ ประการแรก ภูเก็ตมีดีที่ ธรรมชาติป่างาม น้ำใส ทะเลสวย ประการที่สองภูเก็ตมีวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเมือง การแต่งกาย ความเป็นอยู่ที่เป็นเอกลักษณ์ และสุดท้าย ความมีน้ำใจของคนภูเก็ต ดังนั้นจึงต้องช่วยกันในการรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้

ส่วนของการส่งเสริมการท่องเที่ยว ก็จะต้องดำเนินการตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ โดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเล พร้อมกับจัดกิจกรรมเสริมในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น การแข่งขันกีฬาชายหาดไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล วอลเลย์บอล วิ่งมาราธอน เป็นต้น รวมถึงการใช้วิถีชีวิตการประกอบอาชีพดั้งเดิมมาสร้างจุดขายใหม่ๆ เช่น การจัดสาธิตการทำเหมืองแร่ให้เห็นบรรยากาศและที่มาที่ไป แปลงสาธิตการทำนาข้าวครบวงจร การจัดให้มีถนนคนเดินในย่านเมืองเก่า เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้เป็นวัตถุดิบที่เรามีอยู่แล้ว รวมทั้งจะต้องคิดต่อไปด้วยว่าเราต้องการจำนวนนักท่องเที่ยวมากๆ หรือควรจำกัดเพื่อให้ได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพที่แท้จริง

นอกจากนี้ยังจะต้องมีการพัฒนาโครงการพื้นฐานของจังหวัดภูเก็ต เพื่อมารองรับการเติบโตของการท่องเที่ยว เพราะในแต่ละปีภูเก็ตทำรายได้ให้แก่ประเทศปีละร่วมแสนล้านบาท แต่งบพัฒนาที่ได้รับกลับมาแค่เพียงหลักร้อย ดังนั้น หากมีโอกาสก็จะนำเสนอปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่ขัดขวางการพัฒนาการท่องเที่ยวอันเป็นแหล่งรายได้สำคัญให้รัฐบาลได้รับทราบ เพื่อจะได้หาแนวทางการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ต่อไป

“สิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงในการเป็นเมืองท่องเที่ยวของภูเก็ต คือ ความปลอดภัย การบริการที่ดีไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวทั้งเรื่องของสินค้าและบริการ ความสะอาด สวยงาม ซึ่งได้เน้นย้ำไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการเพื่อให้เกิดความสงบสุขของบ้านเมือง”

ด้านนายเศรษฐพันธ์ พุทธาณี ผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า ททท.ได้กำหนดแผนในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภูเก็ตปีนี้ไปที่เป็นสวรรค์ของกีฬาทางน้ำ เช่น การดำน้ำ การแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด การแข่งขันคิงส์คัพรีกัตต้า งานโบว์โชว์ เป็นต้น เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มที่สนใจกีฬาทางน้ำเข้ามาภูเก็ตตลอดทั้งปี

สำหรับอัตราเข้าพักโดยเฉลี่ยของภูเก็ตในช่วงนี้ ซึ่งเริ่มเข้าไฮซีซันแล้ว อัตราเข้าพักโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 65% ส่วนโรงแรมที่เป็นอินเตอร์เชนนั้นจะอยู่ที่ 80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วจะเห็นว่าอัตราเข้าพักในปีนี้ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้มาจากปัญหาหลายๆประการด้วยกัน ทั้งผลสืบเนื่องจากการปิดสนามบิน ปัญหาเที่ยวบินชาร์เตอร์ไฟลต์ลดลง รวมไปถึงจำนวนโรงแรมที่เพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 10% ภายในปีเดียว จากเดิมที่มี 500 กว่าแห่ง ปีนี้เพิ่มเป็น 600 กว่าแห่งแล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวกระจายไปตามโรงแรมต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ในการเสวนา ครั้งนี้ภาคเอกชนได้เสนอให้ทางผู้ว่าฯผลักดันให้ภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ต้องการพัฒนาในหลายๆด้าน แต่ที่ผ่านมาต้องประสบปัญหาการขาดแคลนงบประมาณในการลงทุนพัฒนาด้านต่างๆ ซึ่งภาคเอกชนเชื่อว่าหากสามารถผลักดันให้ภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ จะมีงบประมาณในการพัฒนามากขึ้น

รวมทั้งต้องการที่จะผลักดันให้ภูเก็ตเป็นเขตปลอดภาษี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวใช้เงินในภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น และจะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภูเก็ต และสุดท้ายเอกชนต้องการที่จะให้เกิดถนนคนเดินในภูเก็ต โดยเห็นว่าถนนถลาง เป็นจุดที่เหมาะสมที่สุด เพราะเป็นถนนที่มีสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่สวยงาม และจะเป็นส่วนหนึ่งในการดึงนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาในเมืองมากยิ่งขึ้น เพราะการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของภูเก็ตจะกระจายตัวอยู่ตามชายหาดต่างๆ มากกว่าในตัวเมืองภูเก็ต
กำลังโหลดความคิดเห็น