ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวมาเป็นระยะถึงการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.) เนื่องจาก พล.ต.อ.พัชรวาทไม่สนองนโยบายรัฐบาลในการดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯ หลังจากได้รับบทเรียนอันเจ็บปวด ในการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่หน้ารัฐสภา จนมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
การปฏิบัติการในครั้งนั้น นอกจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ในฐษนะผู้มอบนโยบายแล้ว ยังปัดความผิดทั้งหมดไปลงที่พล.ต.อ.พัชรวาท ด้วย
ต่อมา ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับกรอบการลงนาม การทำสัญญา กฎบัตรอาเซียน เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งในวันนั้นเป็นช่วงที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เดินทางไปประชุมเอเปก ที่ประเทศเปรู และมอบหมายให้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน ซึ่ง กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ได้เคลื่อนขบวนไปปิดล้อมรัฐสภาอีกครั้ง เพราะไม่ไว้ใจว่าอาจมีการนำญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาด้วย โดยกลุ่มพันธมิตรฯ สามารถไปปิดล้อมรัฐสภาได้อย่างง่ายดาย จนกระทั่งไม่สามารถประชุมสภาได้
และในวันเดียวกันนั้น นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล ได้เรียกประชุมครม. (ฉุกเฉิน) ที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว (ดอนเมือง) เพื่อหาทางรับมือกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ กลับพบว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ไม่ได้เข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด โดยส่งตัวแทนมาร่วมประชุม ทั้งๆที่ได้มีการกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าร่วมประชุมครม.ในวันดังกล่าวด้วย และในวันนั้นกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ได้เคลื่อนกำลังไปปิดล้อมทำเนียบชั่วคราวที่ดอนเมือง จนทำให้ ครม.ต้องเผ่นหนีแทบไม่ทัน
วันรุ่งขึ้น (25 พ.ย.) กลุ่มพันธมิตรฯ ยังยกกำลังไปปิดล้อมกองบัญชาการกองทัพไทย เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าจะมีการยัายที่ประชุมครม. ไปที่กองบัญชาการกองทัพไทย และในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น กลุ่มพันธมิตรฯก็ถอนกำลังออกมา หลังจากทราบแน่ชัดว่าไม่มีการประชุมครม. โดยยกขบวนไปยึดสนามบินสุวรรณภูมิแทน
การบุกไปยึดสถานที่ทั้ง 3 แห่งดังกล่าว เป็นไปอย่างง่ายดาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถสกัดกั้นได้ จนบรรดาส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ใส่เกียร์ว่าง
เมื่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เดินทางกลับจากประเทศเปรู ก็ไม่สามารถนำเครื่องลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ ต้องเผ่นไปลงที่สนามบิน จ.เชียงใหม่แทน และได้เรียกคณะรัฐมนตรีไปประชุมที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ
การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้ แทนที่ผู้มีอำนาจกำกับดูแลจะเป็น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก หรือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผูบัญชาการตำรวจแห่งชาติ กลับมอบหมายให้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดูแลพื้นที่ดอนเมือง และให้ พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ดูแลพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ
และในที่สุด พล.ต.อ.พัชวาท วงษ์สุวรรณ ก็ถูกปลดจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปปฎิบัติงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี และให้พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รักษาราชการแทน ตั้งแต่ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 เป็นต้นไป
การปฏิบัติการในครั้งนั้น นอกจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ในฐษนะผู้มอบนโยบายแล้ว ยังปัดความผิดทั้งหมดไปลงที่พล.ต.อ.พัชรวาท ด้วย
ต่อมา ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับกรอบการลงนาม การทำสัญญา กฎบัตรอาเซียน เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งในวันนั้นเป็นช่วงที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เดินทางไปประชุมเอเปก ที่ประเทศเปรู และมอบหมายให้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน ซึ่ง กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ได้เคลื่อนขบวนไปปิดล้อมรัฐสภาอีกครั้ง เพราะไม่ไว้ใจว่าอาจมีการนำญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาด้วย โดยกลุ่มพันธมิตรฯ สามารถไปปิดล้อมรัฐสภาได้อย่างง่ายดาย จนกระทั่งไม่สามารถประชุมสภาได้
และในวันเดียวกันนั้น นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล ได้เรียกประชุมครม. (ฉุกเฉิน) ที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว (ดอนเมือง) เพื่อหาทางรับมือกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ กลับพบว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ไม่ได้เข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด โดยส่งตัวแทนมาร่วมประชุม ทั้งๆที่ได้มีการกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าร่วมประชุมครม.ในวันดังกล่าวด้วย และในวันนั้นกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ได้เคลื่อนกำลังไปปิดล้อมทำเนียบชั่วคราวที่ดอนเมือง จนทำให้ ครม.ต้องเผ่นหนีแทบไม่ทัน
วันรุ่งขึ้น (25 พ.ย.) กลุ่มพันธมิตรฯ ยังยกกำลังไปปิดล้อมกองบัญชาการกองทัพไทย เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าจะมีการยัายที่ประชุมครม. ไปที่กองบัญชาการกองทัพไทย และในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น กลุ่มพันธมิตรฯก็ถอนกำลังออกมา หลังจากทราบแน่ชัดว่าไม่มีการประชุมครม. โดยยกขบวนไปยึดสนามบินสุวรรณภูมิแทน
การบุกไปยึดสถานที่ทั้ง 3 แห่งดังกล่าว เป็นไปอย่างง่ายดาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถสกัดกั้นได้ จนบรรดาส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ใส่เกียร์ว่าง
เมื่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เดินทางกลับจากประเทศเปรู ก็ไม่สามารถนำเครื่องลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ ต้องเผ่นไปลงที่สนามบิน จ.เชียงใหม่แทน และได้เรียกคณะรัฐมนตรีไปประชุมที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ
การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้ แทนที่ผู้มีอำนาจกำกับดูแลจะเป็น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก หรือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผูบัญชาการตำรวจแห่งชาติ กลับมอบหมายให้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดูแลพื้นที่ดอนเมือง และให้ พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ดูแลพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ
และในที่สุด พล.ต.อ.พัชวาท วงษ์สุวรรณ ก็ถูกปลดจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปปฎิบัติงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี และให้พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รักษาราชการแทน ตั้งแต่ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 เป็นต้นไป